ชัยนาท - แม่เฒ่าเครียดหนัก ถูกแก๊งตุ๋นซื้อขายที่ดิน ทำสูญเงิน 9 หมื่น ถึงขั้นอยากจะเอามีดฟันมือตัวเองให้ขาด เพราะเสียรู้เขา แต่ก็แค้นใจ เลยจุดธูปสาปแช่งทั้งแก๊งให้ตายภายใน 3 วัน 7 วัน แต่ถ้ายอมเอาเงินมาคืน ก็จะแบ่งเงินให้ใช้บ้าง
วันนี้ (19 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านเลขที่ 11 ม.15 ต.ดงคอน อ.สรรคบุรี จ.ชัยนาท หลังจากทราบว่าที่บ้านหลังดังกล่าว มีหญิงชรา อายุ 65 ปี ที่ป่วยเป็นโรคหัวใจและเบาหวาน ถูกแก๊งตุ๋นซื้อขายที่ดินเข้าไปหลอกลวง ทำให้ต้องสูญเงินไป 90,000 บาท จนเกิดความเครียดอย่างหนัก ถึงขั้นอยากจะใช้มีดฟันมือตัวเองให้ขาด เพราะเสียใจที่ไปเสียรู้แก๊งหลอกลวง
นางจำเริญ คำแผง หญิงชราผู้เสียหายกล่าวว่า เมื่อวันที่ 17 พ.ย. ได้มีผู้ชายแปลกหน้า ผิวขาวสูง อายุประมาณ 60 ปี อ้างว่าชื่อ นายสมพงษ์ ได้เข้ามาหาตนที่บ้าน บอกว่ารู้จักกับเพื่อนบ้าน และมาพูดคุยเรื่องต่างๆ แล้วก็กลับไป ต่อมาวันที่ 18 พ.ย.62 ได้ขับรถยนต์สีดำ ทะเบียน 6615 มาจอดหน้าบ้าน พร้อมกับผู้ชาย 1 คน อ้างว่าเป็นตำรวจ และผู้หญิงอีก 1 คน โดยทำตัวเป็นนายหน้าบอกว่าจะมาหาซื้อที่ดิน และให้ตนช่วยพาไปดูที่ดินที่มีคนจะขาย ตนจึงยอมขึ้นรถไปด้วย เพื่อจะพาไปดูที่ดินที่ที่มีคนจะขายจริง
แต่แก๊งดังกล่าวกลับพาตนตระเวนไปดูที่ดินตามจุดอื่นๆ ในพื้นที่ ต.บางขุด และ ต.ดงคอน อ.สรรคบุรี และระหว่างทางได้มีการแวะรับผู้ชายขึ้นรถมาอีก 1 คน อ้างว่าเป็นเจ้าของที่ดิน จำนวน 28 ไร่ และต้องการขายในราคาไร่ละ 200,000 บาท ทั้งหมดจึงพากันไปดูที่ดินดังกล่าว จากนั้นมีการติดต่อกับผู้ชายอีก 1 คน อ้างว่าเป็นลูกเจ้าของโรงสี ต้องการซื้อที่ดิน จึงมีการนัดพบกับผู้ชายที่อ้างเป็นผู้ซื้อ โดยผู้ที่อ้างเป็นผู้ซื้อได้นำซองกระดาษ บอกว่าภายในซองมีเงิน 300,000 บาท มาส่งให้ตน แล้วให้ตนถือไปมอบให้ชายที่อ้างว่าเป็นเจ้าของที่ดิน
เพื่อเป็นการมัดจำ ตนจึงนำซองกระดาษไปมอบให้ โดยที่ไม่ทราบว่าภายในมีเงินจริงหรือไม่ ซึ่งเมื่อชายเจ้าของที่ดินได้รับซองกระดาษไป ก็บอกว่าจะต้องไปไถ่ที่ดินคืนจากเถ้าแก่ก่อน แต่มีเงินไม่พอไปไถ่ที่ จึงขอยืมเงินจากตนก่อน พร้อมทั้งเสนอเงินค่านายหน้า จำนวน 100,000 บาท ให้ตนหากขายที่ดินได้ โดยกลุ่มคนทั้งหมดได้พูดจาหว่านล้อม และทำทีช่วยกันลงขันค่าไถ่ที่ดิน ทำให้ตนหลงเชื่อ และพาตนกลับไปที่บ้าน นำเงิน 90,000 บาทมาให้ เมื่อตนส่งเงิน 90,000 บาท ไปให้แล้ว ก็พาตนขึ้นรถไปอีก แต่ขับรถออกไปได้เพียง 20 เมตร ก็ให้ตนลงรถ บอกให้ไปเอาทะเบียนบ้าน เมื่อตนเดินเข้าบ้าน รถคันดังกล่าวก็รีบขับออกไปอย่างรวดเร็ว โดยนำกระเป๋าสะพายของตนไปแขวนไว้หน้าประตูรั้ว ตนจึงรู้ทันทีว่าถูกหลอก
นางจำเริญ ยังบอกว่า ตอนรู้ว่าถูกหลอกหัวใจแทบวายเหมือนจะเป็นลม แต่พยายามแข็งใจขี่รถจักรยานยนต์ไปตามหาน้องชาย เพื่อบอกเรื่องดังกล่าว และให้พาไปแจ้งความตำรวจ หลังเกิดเหตุนางจำเริญ บอกว่า นอนไม่หลับ เครียดหนักจนถึงขั้นอยากจะเอามีดมาฟันมือตัวเองให้ขาด ที่ดันหยิบเงินให้กับแก๊งหลอกลวงไปอย่างง่ายดาย แต่อีกใจก็เกิดความแค้นที่มาทำกับคนแก่ที่ป่วยเป็นโรคหัวใจและโรคเบาหวานเช่นนี้
จึงจุดธูปสาปแช่งแก๊งดังกล่าวตลอดทั้งวัน แม้รู้ว่าการสาปแช่งเป็นสิ่งไม่ดี แต่ด้วยความโกรธและไม่รู้จะทำอย่างไร จึงทำได้แค่เพียงจุดธูปสาปแช่งให้แก๊งนี้มีอันเป็นไปภายใน 3 วัน 7 วัน แต่ถ้าหากว่าเป็นกรรมเก่าที่ตนเคยไปทำกับพวกเขาไว้ ก็ขอให้หมดกรรมตั้งแต่บัดนี้ แต่หากยอมนำเงินกลับมาคืนให้ ตนก็จะแบ่งเงินให้ไปใช้บ้าง ซึ่งเงินจำนวนดังกล่าวเป็นเงินที่ตนเพิ่งเก็บมาจากค่าเช่าที่นา เตรียมจะนำไปซ่อมหลังคาบ้าน และเก็บไว้ให้หลานเรียนหนังสือ แต่กลับมาถูกหลอกไปทั้งหมด