ประจวบคีรีขันธ์ - เกิดเหตุไฟไหม้วัดเขาน้อย วัดดังประจำอำเภอปราณบุรี ซึ่งสร้างด้วยไม้ทั้งหลังมานานกว่า 45 ปี ส่วนสาเหตุน่าจะมาจากไฟฟ้าลัดวงจร เบื้องต้น ยังไม่สามารถประเมินความเสียหายได้
วันนี้ (30 ต.ค.) นายกิตติพงศ์ สุขภาคกุล นายอำเภอปราณบุรี ได้รับแจ้งมีเหตุไฟไหม้วัดเขาน้อย วัดประจำอำเภอปราณบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งเพลิงกำลังลุกลามอย่างรวดเร็ว จึงประสาน นายฉัตรชัย ค้างาม ปลัดอำเภอปราณบุรี ให้ประสานหน่วยบรรเทาสาธารณภัยจากเทศบาลปราณบุรี เทศบาลเขาน้อย เทศบาลปากน้ำ อบต.วังก์พง อบต.หนองตาแต้ม และหน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างแผ่ไพศาลธรรมสถานปราณบุรี รีบไปที่เกิดเหตุ
จากการมองเห็นในระยะไกลหลายกิโลเมตร จะมีกลุ่มควันไฟพวยพุ่งขึ้นอยู่บนท้องฟ้าเป็นสีดำ โดยมีประชาชนที่ทราบต่างมามุงดูเหตุการณ์ เจ้าหน้าที่ต้องช่วยกันระดมกำลังนำน้ำขึ้นไปดับไฟที่กำลังลุกไหม้อยู่ภายในศาลาวัดซึ่งเป็นวัดเก่าแก่ที่สร้างมาตั้งปี 2517 โดยสร้างสมัย หลวงพ่อนิ่ง มังคโล เป็นเจ้าอาวาส ปัจจุบันมีพระอยู่ 7 รูป สามเณร 3 รูป
โดยต้นเพลิงมาจากห้องที่ 13 ซึ่งทั้งหมดสร้างด้วยไม้เก่าอายุเกือบ 50 ปี ไฟลุกไหม้อย่างรวดเร็วขยายลามไหม้ห้องอยู่แถวเดียวกันไป 17 ห้องเสียหายทั้งหมด ระหว่างที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่กำลังช่วยกันระดมฉีดน้ำหลังคาที่ถูกไฟไหม้ได้ถล่มลงมาเป็นระยะ ทำให้ต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ เจ้าหน้าที่ต้องสกัดไฟไม่ให้ลุกลามมาอีกฝั่ง ใช้เวลาประมาณ 1 ชม.จึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้
จากการสอบถามสามเณรวุฒิ อายุ 7 ปี ยังอยู่ในอาการตกใจ ซึ่งอาศัยอยู่ที่ห้องต้นเพลิง กล่าวว่า ขณะนอนหลับอยู่ในห้องก็ได้ยินเสียงดัง และมีควันไฟเกิดขึ้นตกใจจึงรีบวิ่งออกมาจากห้อง ตอนแรกไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
ด้าน พระอภิวัฒน์ รองเจ้าอาวาส กล่าวว่า ขณะนั้นตนกับพระลูกวัดกำลังจะเตรียมห่มผ้าเพื่อไปมาติกาก็ได้ยินเสียงว่าไฟไหม้ ออกไปดูเห็นว่าบริเวณหน้าห้องเณรวุฒิ สายไฟกำลังช็อตอยู่ ไม่นานก็เกิดมีไฟลุกขึ้น จึงตะโกนให้พระมาช่วยกันนำน้ำมาดับ แต่ไม่สามารถดับได้เพราะว่าไฟลุกไหม้อย่างรวดเร็วเพราะว่าห้องทุกห้องทำด้วยไม้จึงเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี เมื่อไม่สามารถดับไฟได้ประกอบกับไฟลุกลามมากขึ้นและมีควันไฟเต็มไปหมด จึงรีบให้พระและเณรออกมาข้างนอกวัด และโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่
ส่วนสาเหตุคาดว่าน่าจะเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจรเนื่องจากวัดสร้างมานานแล้ว แต่อย่างไรก็ตาม ต้องรอให้เจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบอีกครั้งว่าเกิดจากสาเหตุอะไรกันแน่ ความเสียหายเบื้องต้นยังไม่สามารถประเมินได้ โชคดีที่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต