บุรีรัมย์ - เพื่อนบ้านได้กลิ่นเหม็นเน่าในบ้านพัก ขรก.ตำรวจ แจ้งกู้ภัยตรวจสอบผงะ เจอศพ พ.ต.ท. สารวัตรสอบสวน สภ.นางรอง ใช้สายเตารีดผูกคอติดกับราวบันไดหน้าห้องน้ำจนศพเน่าอืด คาดตายมาแล้ว 4-5 วัน คาดเครียดเรื่องงาน หนี้สิน และปัญหาครอบครัวเพิ่งหย่าเมีย
วันนี้ (30 ต.ค.) ร.ต.อ.ณภัทร สุทธิธนากูล รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ ได้รับแจ้งพบศพนายตำรวจผูกคอเสียชีวิตในบ้านพักข้าราชการตำรวจ ติดกับที่ว่าการอำเภอนางรอง ในเขตเทศบาลเมืองนางรอง จึงได้รายงานผู้บังคับบัญชาทราบ ก่อนรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมแพทย์เวรโรงพยาบาลนางรอง และหน่วยกู้ภัยสยามรวมใจปู่อินทร์นางรอง โดยมี พ.ต.อ.ภูมิพัฒน์ ภัทรศรีวงษ์ชัย รองผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.บุรีรัมย์ พร้อม พ.ต.อ.ภควัต ธรรมดี ผู้กำกับการ (ผกก.) สภ.นางรอง ร่วมลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุด้วย
เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุซึ่งเป็นบ้านพักข้าราชการตำรวจแบบสองชั้นครึ่งปูนครึ่งไม้ อยู่ติดกับที่ว่าการอำเภอนางรอง เมื่อเข้าไปตรวจสอบพบศพ พ.ต.ท.ศุภศิษฎ์ สมศรี อายุ 48 ปี ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งสารวัตรสอบสวน สังกัดสถานีตำรวจภูธรนางรอง ในสภาพแต่งกายครึ่งท่อนใช้สายเตารีดผูกคอตัวเองติดกับราวบันไดบริเวณหน้าห้องน้ำชั้นล่าง โดยศพอยู่ในสภาพขึ้นอืดส่งกลิ่นเหม็นเน่าคละคลุ้ง จึงคาดว่าน่าจะเสียชีวิตมาแล้วไม่น้อยกว่า 4-5 วัน
จากการตรวจสอบสภาพศพเบื้องต้นไม่พบร่องรอยบาดแผลจากการถูกทำร้ายร่างกายแต่อย่างใด จึงสันนิษฐานว่าน่าจะเกิดความเครียดเรื่องงาน หนี้สิน หรือปัญหาในครอบครัวเพราะผู้ตายเพิ่งหย่าร้างกับภรรยา และแยกกันอยู่ได้ไม่นาน และมาอาศัยอยู่บ้านพักหลังดังกล่าวคนเดียวได้ระยะหนึ่งแล้ว
จากการสอบถาม นางจิดาภา ดวงชะอุ่ม อายุ 40 ปี น้องสาวภรรยาของผู้ตาย เล่าว่า ตนไม่ได้เห็น พ.ต.ท.ศุภศิษฎ์ สมศรี ซึ่งเป็นพี่เขยมาประมาณ 2 สัปดาห์แล้วหลังจากที่แยกกันอยู่กับพี่สาว แต่พี่สาวบอกตนว่าเพิ่งเจอกับพี่เขยเมื่อตอนวันเสาร์ที่ผ่านมาเพราะเพิ่งนัดพูดคุยกันเรื่องเงินค่าเลี้ยงดูบุตร แต่หลังจากนั้นก็ไม่ได้เจอกันอีก กระทั่งมาทราบว่าพี่เขยผูกคอเสียชีวิตแล้วก็รู้สึกตกใจมาก ส่วนสาเหตุที่พี่เขยคิดสั้นนั้นตนไม่ทราบอาจจะเครียดเรื่องงาน หนี้สิน หรือเครียดเรื่องครอบครัว เพราะเพิ่งหย่ากับพี่สาวและแยกกันอยู่ได้ไม่กี่เดือน
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่จะได้ส่งศพไปผ่าพิสูจน์ที่โรงพยาบาลเพื่อหาสาเหตุการตายอีกครั้ง ก่อนมอบให้ญาตินำกลับไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีต่อไป