กาญจนบุรี - ผู้ว่ากาญจน์ จับมือ ลุงจำลอง และหลวงตาจันทร์ สร้างสถานที่พักพิงให้สุนัขและแมวจรจัด แห่งใหม่ให้ชาวกาญจน์ เพื่อแก้ไขปัญหาผลกระทบ ให้เหมาะสมกับเป็นเมืองท่องเที่ยว อนาคตอาจเป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่สำหรับคนรักสัตว์
วันนี้ (26 ต.ค.) นายจีระเกียรติ ภูมิสวัสดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี เป็นประธานพิธีการยกเสาเอก ที่สำนักงานมูลนิธิสงเคราะห์สัตว์แห่งใหม่ บนเนื้อที่ 25 ไร่ ที่อยู่หน้าวัดป่าหลวงตาบัว ญาณสัมปันโน หรือวัดเสือ ท้องที่ หมู่ 5 ต.สิงห์ อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี โดยมี พล.ต.จำลอง ศรีเมือง ประธานมูลนิธิพลตรีจำลอง ศรีเมือง และที่ปรึกษามูลนิธิสงเคราะห์สัตว์ สวนสัตว์เลี้ยงกาญจนบุรี พ.ต.หญิงศิริลักษณ์ ศรีเมือง นายจรินทร์ อิ้วสวัสดิ์ ท้องถิ่นจังหวัดกาญจนบุรี ดร.วรสุดา สุขารมณ์ เข้าร่วมพิธี
ทั้งนี้ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง เปิดเผยว่า วันนี้จะทำพิธีลงเสาเอกเพื่อวางศิลาฤกษ์ โดยท่านผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี เป็นประธาน ที่ท่านจะดำเนินการเลี้ยงสุนัขจรจัดในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี สุนัขจรจัดผมเริ่มเลี้ยงและดูแลมาตั้งแต่สมัยตนเอง เป็นผู้ว่ากรุงเทพมหานคร เพราะตอนนั้นได้เกิดปัญหาขึ้นมาคือปัญหาโรคพิษสุนัขบ้า ซึ่งผู้ว่าคนอื่นเขาก็เจอมาบ้างแต่เขาก็ไม่ได้แก้ไขปัญหาอะไร
ดังนั้นจึงลงมือแก้ไขปัญหาโดยประกาศว่าเราจะเลี้ยงสุนัขจรจัด ครั้งแรกก็มีคนโทรศัพท์มาต่อว่าเช่น มีชายหนุ่มคนหนึ่งโทรมาบอกว่าคุณจำลองผมและคณะเลือกคุณมาเป็นผู้ว่าราชการนะ ไม่ใช่เลือกให้มาเป็นผู้ว่าให้หมา หรือให้มาทำเรื่องหมาๆ ซึ่งขณะนั้นเราประกาศว่าเพื่อแก้ปัญหาโรคพิษสุนัขบ้า ดังนั้น กทม.จะเลี้ยงสุนัขจรจัดโดยไม่ใช้เงินหลวง เพราะมั่นใจอยู่แล้วว่าประชาชนสงสารสุนัขมาก เราเริ่มเลี้ยงครั้งแรกที่ทุ่งสีกัน ต่อมาเห็นว่าที่ตรงนั้นเริ่มจะเจริญขึ้น จึงคืนที่ดินให้เจ้าของนำไปทำธุรกิจอย่างอื่นคงจะดีกว่าเราจึงต้องการที่จะย้ายสถานที่
“ ครั้งแรกก็ไม่รู้ว่าจะย้ายไปที่ไหน แต่บังเอิญเรามีโรงเรียนผู้นำอยู่ที่จังหวัดกาญจนบุรี จึงตัดสินใจนำสุนัขจรจัดย้ายมาอยู่ใกล้ๆกับโรงเรียนผู้ ท้องที่หมู่ 7 ต.หนองบัว อ.เมืองกาญจนบุรี โดยเลี้ยงสุนัขอยู่ที่ทุ่งสีกันได้ 10 ปี และมาเลี้ยงที่เมืองกาญจน์ได้ 22 ปี รวมแล้วก็เลี้ยงสุนัขและแมวจรจัดมา 32 ปี ก็มีความรู้สึกน่าดีใจที่มีประชาชนนำเงินมาบริจาคเพื่อสนับสนุนอยู่เรื่อยๆ โดยที่เราไม่ได้ขอเรี่ยไร เพียงแต่เราประกาศไปเป็นครั้งคราวเท่านั้นว่า มีสถานที่เลี้ยงแมวและสุนัขจรจัดอยู่ที่จังหวัดกาญจนบุรีเท่านั้นเอง คนก็ช่วยกันบริจาค มาจนกระทั่งถึงทุกวันนี้”
ต่อมาเนื่องจากทางตนเอง และ ภรรยา เริ่มมีอายุมากขึ้น จึงไม่สามารถเลี้ยงดูหมาและแมวจรจัดที่มูลนิธิสงเคราะห์สัตว์ สวนสัตว์เลี้ยงกาญจนบุรีได้ ประกอบกับท่านผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรีต้องการจะให้จังหวัดกาญจนบุรีที่ท่านดูแลอยู่ มาเลี้ยงสุนัขจรจัด ก็เลยมาประสานกัน สุดท้ายมาได้ที่ดินตรงนี้ ซึ่งท่านผู้ว่าฯได้กำหนดให้วันนี้เป็นวันทำพิธีเปิดลงเสาเอก เพื่อสร้างอาคารเลี้ยงสุนัขและแมวจรจัดแห่งใหม่ขึ้นมา แต่ยังไม่ได้ทำพิธี ก็มีคนนำแมวมาทิ้งให้แล้วถึง 32 ตัว
พล.ต.จำลอง ศรีเมือง เปิดเผยว่า สำหรับสุนัขและแมวจรจัดที่มีอยู่สถานสงเคราะห์สัตว์ของมูลนิธิสงเคราะห์สัตว์ สวนสัตว์เลี้ยงกาญจนบุรี ปัจจุบันมีสุนัขและแมวทั้งตัวผู้และตัวเมียรวมกันทั้งสิ้น 1,574 ตัว หลังจากผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรีสร้างบ้านพักให้สุนัขและแมวแล้วเสร็จ ก็จะทยอยนำมาเลี้ยงที่นี่ทั้งหมด ส่วนเรื่องการเลี้ยงดูนั้น จังหวัดกาญจนบุรีจะเป็นผู้ดำเนินการต่อไป
ด้านนายจีระเกียรติ ภูมิสวัสดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี กล่าวถึงที่มาที่ไปของโครงการสร้างบ้านพักเพื่อดูแลสุนัขและแมวจรจัด ว่าเนื่องจากจังหวัดกาญจนบุรี เป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงระดับต้นๆของประเทศ และเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก ในแต่ละวันมีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางเข้ามาในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรีเป็นจำนวนมาก
โดยตั้งแต่ตนมารับตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรีได้ประมาณ 2 ปี ก็ได้รับทราบข่าวและข้อมูลอยู่เนืองๆว่า นักท่องเที่ยวและพี่น้องประชาชนได้รับความเดือดร้อนจากสุนัขจรจัด ที่มีอยู่ตามสถานที่ท่องเที่ยว หรือสถานที่ออกกำลังกาย รวมทั้งตามวัดวาอารามต่างๆ จึงคิดว่าจังหวัดกาญจนบุรี ควรที่จะมีสถานที่ในการนำสุนัขและแมวจรจัดมาดูแลให้เป็นสัดเป็นส่วน ซึ่งจะทำให้ภาพรวมสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆในจังหวัดกาญจนบุรีมีภาพลักษณ์ที่ดูดีขึ้น
ซึ่งครั้งแรกก็ได้ไปดูสถานที่เลี้ยงสุนัขและแมวจรจัดของมูลนิธิสงเคราะห์สัตว์ สวนสัตว์เลี้ยงกาญจนบุรี ที่อยู่บริเวณโรงเรียนผู้นำ ของ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แต่ปรากฏว่าทางมูลนิธิมีแผนที่จะย้ายสุนัขและแมวทั้งหมดไปไว้ที่จังหวัดเพชรบุรี จึงได้มีการปรึกษาหารือกันว่าควรที่จะหาพื้นที่แห่งใหม่มาสร้างบ้านให้กับสุนัขและแมว โดยไม่ต้องย้ายไปที่จังหวัดอื่น
ซึ่งต่อมาทางผู้จัดการมูลนิธิฯ ก็ได้นำพามากราบนมัสการพระวิสุทธิสารเถร (ภูสิต ขันติธโร) หรือหลวงตาจันทร์ เจ้าอาวาสวัดป่าหลวงตาบัว ญาณสัมปันโน หรือวัดเสือ แห่งนี้เพื่อปรึกษาขอใช้พื้นที่ที่เหมาะสม ซึงเดิมทีทางวัดพร้อมที่จะมอบที่ดินแห่งนี้ให้กับมูลนิธิฯอยู่แล้ว หลังจากพูดคุยกันจึงมีความเห็นพร้อมกันว่าทางวัดจะร่วมจับมือกันกับทางจังหวัดฯ ในการมอบที่ดิน จำนวน 25 ไร่ เพื่อสร้างบ้านพักแห่งใหม่ในการดูแลสุนัขและแมวจรจัด ส่วนค่าใช้จ่ายในการดูแลเรื่องอาหารและยารักษาโรค ก็ได้มีการพูดคุยกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะท้องถิ่นจังหวัด ซึ่งก็ได้รับความร่วมมือกันเป็นอย่างดี
ด้าน ดร.วรสุดา สุขารมณ์ หรือ ดร.จุ๊บ เลขานุการประจำคณะกรรมาธิการการท่องเที่ยว สภาผู้แทนราษฎร ซึ่งเป็นหนึ่งในบุคคลสำคัญในการผลักดันให้มีการสร้างบ้านพักเพื่อดูแลสุนัขและแมวจรจัดในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี ให้สมกับเป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง เปิดเผยว่า จุดเริ่มต้นเริ่มมาจากท่านจีระเกียรติ ภูมิสวัสดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ท่านได้มองเห็นปัญหาของสุนัขและแมวจรจัด ที่มีผลกับนักท่องเที่ยวและมีผลกระทบกับชุมชนบางชุมชน
เนื่องจากสุนัขจรจัดอาจจะมีนิสัยที่ก้าวร้าวและเป็นปัญหามาเนิ่นนาน ซึ่งท่านผู้ว่าราชการจังหวัด ท่านมองว่าตัวจุ๊บเองก็เป็นอีกคนหนึ่งที่รักสัตว์และดูแลเรื่องสัตว์จรจัดมานานแล้ว เมื่อท่านทราบเรื่องจึงได้ชวนไปพบเพื่อพูดคุยกันว่าอยากจะให้จังหวัดกาญจนบุรีมีศูนย์พักพิงสุนัขและแมวจรจัด
โดยที่ทางจังหวัดจะเป็นผู้ดูแลในช่วงเริ่มต้นให้ แต่ต้องได้รับความร่วมมือจากทุกๆฝ่ายในการช่วยเหลือ เพราะลำพังเฉพาะทางจังหวัดเองก็คงจะไม่ยั่งยืน ซึ่งโครงการนี้ที่เกิดขึ้นได้นั้นต้องขอขอบคุณมูลนิธิสงเคราะห์สัตว์ สวนสัตว์เลี้ยงกาญจนบุรี ของท่านพล.ต.จำลอง ศรีเมืองด้วย ซึ่งมองว่าหลังจากนี้ไปสัตว์ที่ถูกทอดทิ้ง ควรจะได้รับการดูแลบ้า
สำหรับโครงการดังกล่าว เฟสแรกจะดำเนินการก่อสร้างอาคารเพื่อรองรับสุนัขและแมวจรจัด จำนวน 15 หลัง หลังจากสร้างเสร็จ จะทำการย้ายสุนัขและแมวจรจากมูลนิธิฯ ของ พล.ต.จำลอง ซึ่งมีสุนัขและแมวอยู่กว่า 1 พันตัว มาไว้ที่นี่
และในอนาคตมีแผนการพัฒนาเป็นลานกิจกรรมรวมทั้งการจัดการแสดงโชว์ต่างๆ รวมทั้งจะมีการก่อสร้างโรงพยาบาลเพื่อดูแลรักษาสุนัขและแมวด้วย เชื่อว่าในอนาคตสถานที่แห่งนี้จะกลายเป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่สำหรับคนรักสัตว์ ซึ่งจะเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดอีกทางหนึ่งด้วย