xs
xsm
sm
md
lg

รอง ผวจ.กาญจน์แนะให้ประชาชนเตรียมพร้อมรับการเปลี่ยนแปลง หลังทางหลวงพิเศษหมายเลข 81 บางใหญ่-กาญจนบุรีเกิด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


กาญจนบุรี - รอง ผวจ.กาญจน์ ย้ำให้ประชาชนเตรียมพร้อมรับการเปลี่ยนแปลง พร้อมเชื่อมั่นโครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษหมายเลข 81 บางใหญ่-กาญจนบุรี หากแล้วเสร็จจะเกิดประโยชน์แก่ประเทศไทยหลายด้าน



นายบวรศักดิ์ วานิช รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี เปิดเผยว่า ตนเองมั่นใจว่าโครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษหมายเลข 81 บางใหญ่-กาญจนบุรี จะเกิดประโยชน์แก่ประเทศไทยในหลายด้าน ได้เน้นย้ำให้ชาวกาญจนบุรีเตรียมความพร้อมรับความเปลี่ยนแปลงในการพัฒนา รวมทั้งใส่ใจในเรื่องธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม และสุขภาพ เพื่อให้เกิดความสมดุลกับสิ่งที่กำลังจะเปลี่ยนแปลงในอนาคตอันใกล้นี้

โครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษหมายเลข 81 บางใหญ่-กาญจนบุรี นั้นจากที่ได้ลงพื้นที่ไปดูความคืบหน้าการก่อสร้างบริเวณตำบลหนองขาว อ.ท่าม่วง พบว่า ปัจจุบันในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรีการก่อสร้างเส้นทางทั้ง 6 ตอน คือ ตอนที่ 18-23 สามารถดำเนินการแล้วเสร็จถึง 80% ส่วนปัญหาของการก่อสร้างขณะนี้คือเรื่องการเวนคืนที่ดินในช่วงต้นทาง อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี เป็นเงินกว่า 12,000 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้กรมทางหลวงได้ดำเนินการของบประมาณเพิ่มเติมในส่วนนั้น และคาดว่าหากได้รับงบประมาณดังกล่าวจะสามารถดำเนินการก่อสร้างให้แล้วเสร็จภายในปี 2565

ดังนั้น ประชาชนโดยเฉพาะชาวจังหวัดกาญจนบุรีต้องเตรียมความพร้อมรับความเปลี่ยนแปลงที่จะพัฒนาเมืองในทุกๆ ด้าน โดยเฉพาะเรื่องของเศรษฐกิจการลงทุน ไม่ควรจะให้จังหวัดกาญจนบุรีเป็นเพียงทางผ่านของสินค้าหรือเฉพาะที่ตั้งของโรงงานอุตสาหกรรมเท่านั้น

สำหรับโครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษสายนี้จะทำให้การจราจรจากกรุงเทพมหานครและปริมณฑล สามารถเดินทางไปภาคตะวันตกของประเทศได้โดยสะดวก และจะเป็นโครงสร้างพื้นฐานสำคัญที่เชื่อมต่อระหว่างฐานการผลิตโครงข่ายคมนาคมสู่ภาคตะวันตก และโครงการท่าเรือน้ำลึกทวาย ประเทศพม่าได้อย่างสะดวก รวดเร็ว และส่งเสริมการส่งออกของประเทศเพื่อนบ้านด้านตะวันตกได้เป็นอย่างดี

นายบวรศักดิ์ เปิดเผยอีกว่า การพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษนั้น รัฐบาลหวังที่จะมายกระดับรายได้ของประชาชนและของประเทศ ในเบื้องต้น เขตเศรษฐกิจพิเศษได้ดำเนินการเต็มรูปแบบ ในเรื่องของรายได้ประชาชนในพื้นที่ก็คงจะได้รับรายได้จากการที่ประชาชนมีงานทำมากขึ้น มีการผลิตสินค้าอุตสาหกรรมทางด้านการเกษตรและเกษตรกรรมทางด้านอื่นๆ ด้วย

สำหรับการพัฒนาเขตเศรษฐกิจนั้นต้องพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของถนนหนทาง ไฟฟ้า ประปา โทรศัพท์ การสื่อสาร การคมนาคม และพี่น้องประชาชนที่อยู่ในจังหวัดกาญจนบุรีจะได้รับประโยชน์ทางด้านการเดินทางไปมาหาสู่ รวมทั้งการสื่อสารก็จะสะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น การจราจรการขนส่งจะลื่นไหลมากขึ้น เมื่อการขนส่งดีขึ้นจะทำให้มีธุรกิจต่างๆ ตามมา

ด้าน นายสะอาด ทั่นเส้ง ผู้จัดการบริษัท กาญจนบุรีแอนด์ทวายทัวร์ เปิดเผยว่าตนได้มีโอกาสลงพื้นที่บ้านพุน้ำร้อน ด่านชายแดนกาญจนบุรี-ทวาย พบว่า ในขณะนี้การดำเนินงานก่อสร้างด่านถาวร กำลังใกล้จะเสร็จ ซึ่งเป็นยุทธศาสตร์สำคัญที่จะเชื่อมโยงด้านเศรษฐกิจ ด้านขนส่งสินค้า การท่องเที่ยว การลงทุน การค้าการขายระหว่างไทยกับพม่า

หากเส้นทางภายในประเทศจากบางใหญ่ สู่กาญจนบุรี และเส้นทางสาย 4 จากอำเภอท่ามะกา อำเภอท่าม่วง อำเภอด่านมะขามเตี้ย อำเภอเมือง สุดด่านบ้านพุน้ำร้อน ได้ลงมือก่อสร้างเสร็จวันใด จะเป็นนิมิตหมายที่ดีกับคนกาญจนบุรีและประเทศไทย และภายนอกประเทศ

เส้นทางที่สำคัญถือว่าเป็นยุทธศาสตร์ระหว่างด่านบ้านพุน้ำร้อน สู่เมืองทวาย หากได้ดำเนินการแล้วเสร็จ จะเป็นเส้นทางที่เชื่อมโยงความสำเร็จของทั้ง 2 ประเทศ ให้แก่พี่น้องประชาชนได้ไปมาหาสู่อย่างสะดวกสบายมากขึ้น

ในขณะเดียวกัน คนกาญจนบุรีเองยังไม่ได้รับความรู้ความเข้าใจกับการเปลี่ยนแปลงในอนาคตที่กำลังจะเกิดขึ้นในเร็ววัน จึงใคร่ขอเชิญชวนทุกท่านได้มีโอกาสไปสัมผัสด่านบ้านพุน้ำร้อน อันเป็นด่านถาวรที่คนกาญจนบุรีจะต้องให้ความสนใจ และช่วยกันผลักดันให้เกิดเป็นด่านที่ทรงคุณค่าต่อพี่น้องประชาชนอย่างแท้จริง

เพราะขณะนี้การดำเนินการก่อสร้างได้แล้วเสร็จไปถึง 70 เปอร์เซ็น ซึ่งถือว่าเป็นด่านที่ใกล้ใจกลางเมืองหลวงของประเทศ และเป็นเส้นทางยุทธศาสตร์ที่สามารถขนส่งสินค้าสู่ภูมิภาคตะวันตกได้เป็นอย่างดี และจะส่งผลด้านเศรษฐกิจ ให้แก่คนในประเทศอย่างมหาศาล

ในขณะเดียวกัน รัฐบาลไทยได้ลงทุนในการก่อสร้างด่านถาวร ด้วยงบประมาณจำนวนมาก และให้รัฐบาลพม่า ได้ยืมเงินเพื่อการก่อสร้างถนน จากบ้านพุน้ำร้อน ไปสู่เมืองทวาย แต่สิ่งสำคัญที่สุด รัฐบาลชุดปัจจุบันจะต้องดำเนินการสร้างถนน เชื่อมโยง ตามที่แผนรัฐบาลได้กำหนดไว้ให้เสร็จสมบูรณ์ไปในเวลาเดียวกัน เพื่อให้ผลที่จะเกิดขึ้นในระยะ 4-5 ปี ได้เกิดเป็นรูปธรรม




กำลังโหลดความคิดเห็น