ศูนย์ข่าวศรีราชา - สภากัญชาแห่งประเทศไทย เตรียมเดินหน้าผลักดันนิคมฯกัญชง-กัญชาใน จ.ชลบุรี รับโครงการอีอีซี เผยพร้อมทั้งกฎหมายอีอีซี และสถาบันการศึกษาที่สามารถวิจัยและพัฒนาสายพันธุ์เฉพาะ เชื่อสร้างทั้งเศรษฐกิจและสมุนไพรรักษาโรค
วันนี้ (24 ต.ค.) มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก ได้จัดให้มีพิธีลงนามความร่วมมือทางวิชาการโครงการพัฒนากัญชาและพืชสมุนไพรอื่นๆ เพื่อประโยชน์ทางการเกษตรและทางการแพทย์ ณ ห้องประชุมวันวิสาข์ ชั้น 8 อาคารสรรพวิชญ์บริการ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก ต.บางพระ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี
โดยมี นายศิริชัย สมแสน รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก เป็นประธานในพิธี และมี 12 วิสาหกิจชุมชน ประกอบด้วย วิสาหกิจชุมชนพืชสมุนไพรบางพระ วิสาหกิจชุมชนไทยทวีกิจ วิสาหกิจชุมชนสมุนไพรเพื่อความยั่งยืน วิสาหกิจชุมชนเมืองพระรถ วิสาหกิจชุมชนฅนหนองปรือ วิสาหกิจชุมชนกลุ่มรักษ์สมุนไพรกุฎโง้ง วิสาหกิจชุมชนกลุ่มอนุรักษ์สมุนไพรหนองเหียง วิสาหกิจชุมชนกล้วยม้วนสมุนไพร กลุ่มแม่บ้านไผ่สีทอง วิสาหกิจชุมชนเกษตรทฤษฎีใหม่ วิสาหกิจชุมชนประปาบาดาลบ้านโป่งตามุข วิสาหกิจชุมชนบ้านหนองสองห้อง และวิสาหกิจชุมชนสมุนไพรบ้านอมพนม เข้าร่วม
จุดประสงค์สำคัญคือ การส่งเสริมความร่วมมือกันด้านเกษตรกรรม เภสัชกรรม พาณิชยกรรม หรืออุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องต่อการพัฒนากัญชาและพืชสมุนไพรอื่นๆ เพื่อสร้างประโยชน์ทางการเกษตรและการแพทย์ พร้อมส่งเสริมการศึกษา วิจัยทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการผลิตที่เหมาะสมในการคิดค้นพัฒนาสายพันธุ์ วัตถุดิบคุณภาพดี สูตรตำรับยาและวิธีการบำบัดรักษาโรคให้มีคุณภาพและปลอดภัยสำหรับรับรองอุปสงค์ในยารักษาโรค
สภากัญชาแห่งประเทศไทย ดันตั้งนิคมฯ กัญชง-กัญชาในเขตอีอีซี
นายวัฒนา โมสิกมาศ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สภากัญชาแห่งประเทศไทย เผยว่า หลังก่อตั้งสภาฯ มาได้ประมาณ 1 ปี ได้มีการผลักดันให้มีการปลูกกัญชาเพื่อให้สถาบันการศึกษาต่างๆ ได้วิจัยในแง่ของการเป็นยาและแก้ปัญหาเศรษฐกิจของแต่ละจังหวัด แต่ปัจจุบันยังติดเรื่องของนโยบายรัฐบาลที่ไม่ชัดเจนทำให้หลายจังหวัดไม่ได้รับสิทธิในการปลูกกัญชาแบบเท่าเทียมกัน
หลังจากนี้ สภากัญชาจะเดินหน้าผลักดันใน 3 เรื่องคือ 1.ข้อกฎหมายที่เกิดความไม่เป็นธรรมเกี่ยวกับพื้นที่ปลูก 2.การอนุญาตปลูกที่ยังไม่มีมาตรฐานชัดเจน และ 3.การวิจัยเพื่อการเป็นยารักษาโรค ที่จะสามารถสร้างเศรษฐกิจให้แก่คนในทุกชุมชนได้
“จ.ชลบุรี มีข้อดีที่การเป็น 1 ในพื้นที่โครงการอีอีซี ที่หากผลักดันให้เกิดการจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมกัญชง-กัญชา ได้ก็จะมีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก เป็นหลักในการวิจัยและพัฒนาสายพันธุ์เพื่อสร้างประโยชน์ให้แก่ประชาชนในทุกจังหวัดในนามสหกรณ์กัญชา แต่จะต้องเกิดขึ้นภายใต้การสนับสนุนของ 3 องค์กรหลักคือ 1.สถาบันการศึกษาที่มีความแน่วแน่ในการผลักดันต่อรัฐ 2.กระทรวงอุตสาหกรรม และ 3.กระทรวงพาณิชย์ รวมทั้งหน่วยงานความมั่นคง ซึ่งหลังจากนี้ เราจะเดินหน้าทำหนังสือถึงรัฐบาลเพื่อให้พิจารณาอนุมัติจัดตั้งนิคมฯ ดังกล่าวใน จ.ชลบุรี เป็นที่แรก” นายวัฒนา กล่าว
มทร.ตะวันออก พร้อมสนับสนุนพื้นที่จัดทำโรงเรือนปลูกกัญชา
รองศาสตราจารย์ประพฤติ พรหมสมบูรณ์ คณบดีคณะเกษตรศาสตร์และทรัพยากรธรรมชาติ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก เผยว่าขณะนี้คณะเกษตรศาสตร์และทรัพยากรธรรมชาติ มีนักวิจัยที่ศึกษาในเรื่องการปลูกกัญชาและการใช้ประโยชน์นับตั้งแต่เรื่องของการรวบรวมพันธุ์เพื่อคัดเลือกและผสมข้ามระหว่างสายพันธุ์เพื่อให้ได้สายพันธุ์ที่มีคุณภาพดี มีสารสำคัญสูงสำหรับนำไปสู่การพัฒนาผลิตภัณฑ์ต่างๆ เพื่อรักษาผู้ป่วยและใช้ในการเกษตร รวมทั้งเป็นอาหารทั้งสัตว์บกและสัตว์น้ำ
ส่วนในแง่การผลิตตัวยาจากสารสกัดกัญชา จะดำเนินการศึกษาควบคู่กันไปเพื่อให้ได้พันธุ์ที่เหมาะสมและเป็นสายพันธุ์เฉพาะของ จ.ชลบุรี ที่คาดว่าจะเห็นผลเป็นรูปธรรมในอีก 3 ปีข้างหน้า โดยจะต้องผ่านกระบวนการต่างๆ รวมทั้งกระบวนการปรับปรุงพันธุกรรมพืชอย่างชัดเจน
“การลงนามความร่วมมือในวันนี้ เป็นการเดินหน้าปลูกและพัฒนาพันธุ์กัญชาให้ถูกต้องตามหลักวิธีและมีคุณภาพที่ดี และจะต้องเป็นกัญชาปลอดสารพิษ โดยในอนาคตกลุ่มวิสาหกิจชุมชน จะเข้ามาต่อยอดในแง่การปลูกและการผลิตที่ถูกต้องตามวิชาการ รวมทั้งควบคุมการปลูกไม่ให้เล็ดลอดสู่การเป็นสารเสพติดตามนโยบายของรัฐบาลที่พยายามจะปลดล็อกกัญชาในแง่สารเสพติด สู่การเป็นสมุนไพรที่มีสรรพคุณในการรักษาโรค”
รองศาสตราจารย์ประพฤติ ยังเผยอีกว่า มหาวิทยาลัยฯ มีความพยายามที่จะประสานงานไปทาง อย. และ ป.ป.ส.จังหวัดชลบุรี เพื่อดำเนินการให้ถูกต้องตามกฎหมาย โดยเฉพาะการจัดทำโรงเรือนสำหรับปลูกกัญชา เพื่อให้วิสาหกิจสามารถต่อยอดได้อย่างถูกต้อง โดยเชื่อว่าเนื้อที่ของมหาวิทยาลัยฯ ที่มีมากกว่า 600 ไร่ จะสามารถต่อยอดงานวิจัยเรื่องกัญชาได้เป็นอย่างดี