นครปฐม - “ธนาธร” ขึ้นเวทีปราศรัยเลือกตั้งซ่อม อัดรัฐบาลใช้งบประมาณสิ้นเปลือง ไม่สนสร้างเยาวชนเน้นแต่จัดซื้ออาวุธ ด้าน ปิยบุตร อ้อนขอคะแนนเสียงผู้สมัครซ่อม ส.ส.นครปฐม เขต 5 เพื่อทำให้คนทั้งประเทศเห็นว่าคนไทยอยากได้ ธนาธร เป็นนายกฯ
ค่ำวานนี้ (20 ต.ค.) ที่ตลาดธันยา ต.อ้อมใหญ่ อ.สามพราน จ.นครปฐม พรรคอนาคตใหม่ ได้มีการเปิดเวทีปราศรัยหาเสียงในการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.เขต 5 นครปฐม ซึ่งได้ว่างหลังจาก นางจุมพิตา จันทรขจร ส.ส.จากพรรคอนาคตใหม่ ที่ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งครั้งล่าสุดต้องลาออกจากตำแหน่งเนื่องจากประสบอุบัติเหตุ จนไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ เมื่อวันที่ 10 กันยายนที่ผ่านมา โดยทางพรรคได้ส่งให้ นายไพรัฏฐโชติก์ จันทรขจร ผู้สมัครหมายเลข 6 สามีของนางจุมพิตา เป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งซ่อมในตำแหน่งที่ว่างลง โดยมีประชาชนหลายร้อยคนได้เข้ามาร่วมในการฟังการปราศรัย ซึ่งแกนนำของพรรคได้เดินทางมาเพื่อร่วมหาเสียงแบบครบครัน
ทั้งนี้ ในการเริ่มการปราศรัย นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ ได้ขึ้นปราศรัยบนเวที ซึ่งได้มีการแสดงเจตนาในการรับสมัครรับเลือกตั้งซ่อมในวันที่ 23 ตุลาคม ซึ่งก่อนหน้านี้ ถูกโดนดูถูกมาตลอด และเป็นที่สงสัยว่ามีแต่การหาเสียงบนโลกโซเชียล ซึ่งจะมาช่วยปรับเปลี่ยนช่วยเหลือประชาชนในประเทศนี้ได้อย่างไร แต่การเลือกตั้งที่ผ่านมา ได้มีการพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าได้รับการยอมรับจากประชาชนมากเพียงใด
โดยถามประชาชนจังหวัดนครปฐม ว่า อยากจะเห็นคนที่ชื่อ ธนาธร เป็นนายกรัฐมนตรี ก็ขอให้เทคะแนนให้ผู้สมัครรับเลือกตั้งของพรรคอนาคตใหม่ครั้งนี้เพื่อให้คนทั้งประเทศที่จับตาดูว่ากระแสของคนที่นี่ต้องการอะไร ซึ่งยังได้ติงไปยัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีว่าเป็นนายกฯ ที่เล่นโซเชียลไม่เป็น ในขณะที่คนสูงวัยในประเทศนั้นเล่นได้หมดแล้ว โดยทราบว่ามีการเริ่มซื้อเสียงในพื้นที่ โดยไม่ขัดที่จะให้ชาวบ้านรับเงินไว้ แต่วันลงคะแนนขอให้มาลงคะแนนให้แก่ผู้สมัครของพรรคอนาคตใหม่ด้วย
ซึ่งเวลาเดียวกัน ช่อ - พรรณิการ์ วานิช โฆษกพรรคอนาคตใหม่ ได้เดินลงมาจากเวทีเพื่อสอบถามผู้ที่เข้ามาร่วมฟังการปราศรัยถึงกระแสการซื้อเสียง โดยมีชาวบ้านได้บอกข้อมูลว่า บางรายก็ได้หัวละ 500 บาท ถึง 1.5 พันบาท โดยได้ถามต่อหน้าสื่อมวลชนที่เข้ามาทำข่าวการปราศรัย โดยบอกว่า ไม่ขอพูดอะไรแต่ให้ชาวบ้านเป็นคนพูดเอง
กระทั่งในเวลา 19.45 น. นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ได้ขึ้นเวทีปราศรัย โดยได้ขอคะแนนเสียงจากคนนครปฐมซึ่งได้ติงการทำงานของรัฐบาลว่ามีการจัดสรรงบประมาณไปในสิ่งที่สิ้นเปลืองและไม่ได้ให้ความสำคัญต่อการศึกษาของเด็กและเยาวชนมากเท่าที่ควร ซึ่งจริงแล้วการให้ความสำคัญต่อการศึกษากับเด็กและเยาวชนนั้นมีความสำคัญมาก
หากมีการสร้างเด็กและเยาวชนที่มีคุณภาพด้วยการศึกษา ก็จะมีทรัพยากรที่มีคุณภาพในการทำงานและสร้างรายได้ให้แก่ประเทศสำหรับการนำมาดูแลผู้สูงอายุ แต่รัฐบาลกับปล่อยงบประมาณไปกับการให้ความสำคัญของหน่วยงานราชการ เช่น การเอาไปให้ในการสัมมนา ดูงาน ซึ่งเป็นสิ่งที่สิ้นเปลือง ยิ่งกับกองทัพ ได้มีการสิ้นเปลืองไปกับการใช้ในการซื้อยุทโธปกรณ์ และยานพาหนะต่างๆ ที่ทำให้เสียงบประมาณไปเป็นจำนวนมาก
นายธนาธร ยังบอกอีกว่า ยิ่งวันนี้ตนเองได้พบกับชาวบ้านและเกษตรกรพบว่าทุกวันนี้พวกเขาแทบจะตายหมดแล้วเพราะไม่มีรายได้ และได้นำประสบการณ์ในการเจอครอบครัวคนยากจนที่บอกว่าอยากจะฆ่าตัวตายเพราะไม่มีเงิน ไม่มีรายได้ ซึ่งเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจริง ตนเองถึงมีความตั้งใจที่จะแก้ไขปัญหาดังกล่าวให้แก่คนไทย ซึ่งหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ได้กล่าวบนเวทีเพียงไม่นาน และไม่ได้มีการพูดถึงคดีการโอนหุ้นที่กำลังเป็นกระแสอยู่ในช่วงนี้ ก่อนจะลงจากเวทีเพื่อไปร่วมถ่ายภาพกับชาวบ้านที่แห่เข้ามาขอถ่ายภาพเป็นจำนวนมาก
