อุดรธานี - เปิดแหล่งท่องเที่ยวเชิงธรรมะและประวัติศาสตร์แห่งใหม่ในอีสานบน “วัดภูตะเภาทอง” พบภาพวาดคล้ายเรือสำเภาบนก้อนหินใหญ่ที่กรมศิลป์ระบุมีอายุราว 2,500 ปี ใกล้เคียงกับผาแต้ม ขณะที่ชาวบ้านแห่กราบบูชา “พญานาคราชสีทอง” ขอโชคลาภ
“วัดภูตะเภาทอง” ตั้งอยู่บนเทือกเขาภูพาน บ้านหนองแวงศรีชมภู ต.กุดหมากไฟ อ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี เป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงธรรมะและประวัติศาสตร์แห่งใหม่ของ จ.อุดรธานี ที่กำลังเป็นที่นิยมไม่แพ้ที่อื่นๆ ของเมืองอุดร มีความสวยงามอลังการที่ถูกสร้างขึ้นมาจากฝีมือของมนุษย์ ผสานกับธรรมชาติที่แวดล้อมได้อย่างน่ามหัศจรรย์
นายโสพล อินนำคา ผู้ใหญ่บ้าน ม.7 บ.หนองแวงชุมพล ต.กุดหมากไฟ อ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี เล่าว่า วัดภูตะเภาทองมีอาณาบริเวณกว่า 15 ไร่ ปัจจุบันมีพระครูเขมกาญจโนภาส (สุพรรณ) เป็นเจ้าอาวาส มีพระสงฆ์ 5 รูป สามเณร 1 รูป เป็นวัดราษฎร์ สังกัดคณะสงฆ์ฝ่ายธรรมยุตนิกาย เป็นพื้นที่ที่ได้รับอนุญาตจากกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืชให้จัดตั้งวัดอย่างถูกต้อง พื้นที่ส่วนมากเป็นลานหิน ซึ่งนักวิชาการสันนิษฐานว่าเดิมเป็นทะเล ต่อมาเกิดการยกตัวขึ้นเป็นลานหินและพื้นดิน คาดว่าจะมีกลุ่มคนผู้เลี้ยงสัตว์ หรือนายพรานใช้เป็นเส้นทางในการหากิน เนื่องจากมีการพบรอยฝ่ามือคนข้างหินก้อนใหญ่
อย่างไรก็ตาม วัดแห่งนี้เพิ่งเปิดให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวได้ราว 4 เดือน จากที่ก่อนหน้านี้ไม่ได้โปรโมตสักเท่าไหร่ เพราะเป็นสถานปฏิบัติธรรมของชาวบ้านและเป็นแหล่งศึกษาดูงานของคนต่างพื้นที่
นอกจากจะเป็นสถานปฏิบัติธรรมแล้ว วัดแห่งนี้ยังมีจุดเด่นที่มีความศักดิ์สิทธิ์ คือ “พญานาคราชสีทอง” ชื่อมุจลินท์ ซึ่งหลวงพ่อได้สร้างขึ้นตามนิมิต และ “รอยฝ่ามือแดง” ที่ปรากฏให้เห็นตรงหินก้อนใหญ่ เราตั้งชื่อหินนั้นว่าเรือสำเภา เพราะมีรูปร่างคล้ายเรือ
สำหรับรอยฝ่ามือแดงนั้น กรมศิลปากรตรวจสอบแล้วยืนยันว่ามีอายุประมาณ 2,500 ปี ใกล้เคียงกับผาแต้ม จ.อุบลราชธานี ช่วงเสาร์อาทิตย์จะมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาประมาณวันละ 1,000 คน ส่วนวันธรรมดาก็มีประมาณ 300-400 คน
ขณะที่นายปวง เทพมณี ผู้ใหญ่บ้าน ม.8 บ.หนองแวงศรีชมภู ในฐานะประธานการท่องเที่ยวกลุ่ม 3 หนอง ต.กุดหมากไฟ อ.หนองวัวซอ เล่าเสริมว่า ตอนเริ่มสร้างปู่พญานาค เจ้าอาวาสเล่าให้ฟังว่า สถานที่แห่งนี้เก่าและทรุดโทรมมาก จึงได้ว่าจ้างรถแบ็กโฮมาขุดดินตรงจุดที่จะก่อสร้างพญานาค ซึ่งเป็นคันดินธรรมดาและมีพญานาคเก่าอยู่ 2 องค์ ตอนนั้นหลวงพ่อไม่ได้จุดธูปบอกกล่าว แต่ให้รถมาทำการปรับปรุงเลย เมื่อกำลังจะทำการขุดเครื่องยนต์สตาร์ทติดและดับทันทีโดยไม่สามารถติดเครื่องได้อีกเลย จึงจอดรถทิ้งไว้
ช่วงกลางคืนหลวงพ่อฝันว่ามีคนมาพูดว่า “ท่านจะทำอะไรทำไมไม่บอกเรา ท่านจะสร้างอะไร ท่านทำลายเราทำไม”
พอตื่นเช้ามาหลวงพ่อนึกได้ว่าไม่ได้บอกกล่าว จึงตั้งจิตอธิษฐานบอกกล่าว รถแบ็กโฮจึงสามารถทำงานต่อไปได้ หลังสร้างเสร็จก็ยังไม่มีคนมาเที่ยว
จนกระทั่งกลางดึกของคืนหนึ่ง หลวงพ่อก็ได้ฝันอีกว่า มีคนบอกให้หลวงพ่อไปช่วยเปิดถ้ำที่อยู่ด้านบนของภูเขา และเราจะมาช่วยหลวงพ่อสร้างวัด เมื่อสร้างวัดแล้วเราจะไปเกิดเพราะอยู่ที่นี่มานาน เราชื่อ “มุจลินท์” หลวงพ่อก็ไปขุดดินเพื่อเปิดทางถ้ำตามที่ฝัน หลังขุดดินเสร็จยังไม่ทันได้เก็บเครื่องมือ คนจากต่างถิ่นก็หลั่งไหลเข้ามาที่วัด ซึ่งสร้างความประหลาดใจและรู้สึกมหัศจรรย์มาก เพราะเดิมที่วัดแห่งนี้จะไม่มีใครเข้ามา หากจะมาก็เป็นส่วนราชการที่มาศึกษาดูงาน มาแป๊บเดียวแล้วก็กลับ
คนที่มาที่นี่ต่างมาขอโชคขอลาภ และสมความปรารถนา เช่น คนขายลอตเตอรี่คนหนึ่งเขาเคยขอพรกับองค์รูปปั้นปู่ โดยบอกว่าอยากร่ำอยากรวย แล้วถูกลอตเตอรี่ 5 ใบ แต่เขาไม่บอกว่าถูกรางวัลอะไร, เมื่องวดที่ผ่านมามีคนกรุงเทพฯ มาตั้งโต๊ะเครื่องเซ่นบนบานขอพร ซึ่งเขาบอกว่า 64 ก็ไม่รู้ว่าถูกเท่าไร
ทั้งนี้ นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางมาท่องเที่ยว ศึกษาธรรมะเรียนรู้ธรรมชาติที่วัดแห่งนี้ได้ด้วยรถส่วนตัว โดยใช้เส้นทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 2315 อ.หนองวัวซอ เลี้ยวซ้ายเข้าถนนทางหลวงชนบทหมายเลข 4022 ซึ่งจะมีป้ายบอกทางตลอดเส้นทาง ถนนสภาพดี การคมนาคมสะดวก