xs
xsm
sm
md
lg

(ชมคลิป)ชาวพิจิตรแห่ร้องศูนย์ดำรงธรรมฯ-แจ้งจับคนอ้าง “นโยบายลุงตู่” ชวนตั้งกลุ่มกู้เงินแบงก์ออมสิน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


พิจิตร - ชาวเมืองพิจิตรรวมตัวร้องศูนย์ดำรงธรรมฯ-แจ้งความตำรวจดำเนินคดีคนอ้าง “นโยบายลุงตู่” ชวนรวมตัวตั้งกลุ่มแล้วพาเข้ากู้เงินแบงก์ออมสิน แต่ยึดทั้งเอทีเอ็ม-สมุดบัญชี แล้วกดเงินออกเกลี้ยงบัญชีจนตกเป็นหนี้กันระนาว



นายทรงพล จันทร์สิงห์ อยู่บ้านเลขที่ 147 หมู่ 5 ต.ป่ามะคาบ อ.เมืองพิจิตร, นายเฉลิม พุ่มสว่าง อยู่บ้านเลขที่ 348/1 ถนนพระพิจิตร อ.เมืองพิจิตร พร้อมชาวบ้านรวมแล้วเกือบ 20 คน ได้เข้าร้องเรียนต่อนายสิริบูรณ ชูตระกูร ผู้อำนวยการศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดพิจิตร และ พ.ต.ท.กฤติกร ปานผล หัวหน้าชุดเฉพาะกิจศูนย์ดำรงธรรมฯ

ชาวบ้านกลุ่มนี้แจ้งว่าพวกตน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้มีอาชีพรับจ้างหาเช้ากินค่ำได้ถูกบุคคลที่มีชื่อเล่น “น.หนู” (นามสมมติ) บ้านอยู่ย่านบึงสีไฟ อ.เมืองพิจิตร มาบอกว่ามีนโยบายของ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่จะให้คนจนกู้ยืมเงินผ่านธนาคารออมสิน แต่ให้รวมเป็นกลุ่มและทำเป็นกลุ่มฌาปนกิจ, กลุ่มสัจจะ, กลุ่มออมทรัพย์ ฯลฯ

จากนั้นก็ดำเนินการทางเอกสาร และพาไปเปิดบัญชีมีสมุดบัญชี กู้ยืมเงินที่ธนาคารออมสินสาขาพิจิตร พร้อมทำบัตรเอทีเอ็มของธนาคาร พร้อมกับอ้างว่าตนเป็นประธานกลุ่มได้ขอเก็บสมุดบัญชี-บัตรเอทีเอ็มของทุกคนไป ต่อมาก็มีการโอนเงินกู้เข้าบัญชี ซึ่งมีการแจ้งผ่านแอปพลิเคชันของธนาคารออมสิน แต่หลังจากนั้นไม่กี่นาทีก็ถูกกดเงินออกไปจนเกลี้ยงบัญชี

เมื่อพวกตนไปทวงถามว่าเงินที่กู้ธนาคารมาทำไมพวกตนจึงไม่ได้ใช้เงินก้อนนี้ ก็บอกว่าต้องนำเงินไปหมุนและนำไปให้คนอื่นกู้ยืมก่อนเป็นไปตามระเบียบที่ตกลงกันไว้มิใช่หรือ?..เวลาผ่านไป 4-5 เดือน พวกตนเห็นว่ากู้เงินตกเป็นลูกหนี้ธนาคารตั้งแต่หลักพันถึงหลักแสนบาทแต่ไม่ได้จับเงิน และมีหนังสือแจ้งสภาพการเป็นลูกหนี้ของธนาคารออมสินส่งมาและมีกำหนดเวลาที่จะต้องไปใช้หนี้ให้กับธนาคาร จึงมาร้องต่อศูนย์ดำรงธรรมฯ

เบื้องต้นศูนย์ดำรงธรรมฯ ได้รับเรื่องพร้อมทั้งให้ความรู้ให้คำแนะนำทางกฎหมาย และให้ไปแจ้งความที่ สภ.เมืองพิจิตรเพื่อดำเนินคดี ซึ่งกลุ่มผู้เสียหายได้เข้าแจ้งความต่อ พ.ต.ท.ณรงค์ ทับมา รอง ผกก.สอบสวน สภ.เมืองพิจิตร เพื่อจะได้สอบสวนหาข้อมูลและหลักฐาน พร้อมทั้งจะได้เรียกผู้ถูกกล่าวหามาสอบสวนตามขั้นตอนต่อไป

อย่างไรก็ตาม ล่าสุดมีตัวแทนของศูนย์ประสานงานเครือข่ายชุมชนแห่งหนึ่งได้โทรศัพท์มาชี้แจงต่อผู้สื่อข่าวว่า กลุ่มผู้ที่ไปร้องทุกข์ร้องเรียนหรือไปแจ้งความที่ สภ.เมืองพิจิตรนั้นน่าจะเป็นการเข้าใจผิดและไม่ทราบถึงกฎกติกาหลักเกณฑ์ ซึ่งขณะนี้ประธานของศูนย์ฯ และคณะกรรมการกำลังรวบรวมเอกสารเพื่อที่จะชี้แจงต่อสาธารณะและสมาชิกที่มีมากถึง 8 ตำบล ได้เข้าใจถึงเจตนาบริสุทธิ์ที่ดำเนินการอยู่ทุกวันนี้อีกครั้ง
กำลังโหลดความคิดเห็น