อุทัยธานี - “ชาดา ไทยเศรษฐ์-ส.ส.คนดังอุทัยฯ” โพสต์เดือดบอกอย่าทำอะไรน้องผม พร้อมจวกกระทรวงเกษตรฯ บางหน่วยทำตัวเป็นเอเยนต์ขายสารเคมี-ปัดความรับผิดชอบ ระบุผลประโยชน์ฝังลึกระบบราชการขวางแบน 3 สารพิษ
สายวันนี้ (16 ต.ค.) นายชาดา ไทยเศรษฐ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดอุทัยธานี รองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ได้โพสต์ข้อความผ่านทางเฟซบุ๊กส่วนตัว กรณีนางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รมช.กระทรวงเกษตรฯ ผู้เป็นน้องสาว ได้ออกมาเดินหน้าลุยแบน 3 สารพิษเพื่อพี่น้องเกษตรกรและคนไทย
โดยระบุข้อความถึงการทำงานของส่วนราชการที่เกี่ยวข้องอย่างกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นส่วนสำคัญที่ยังทำให้ 3 สารพิษนี้ยังคงอยู่ รวมไปถึงระบบการเกษตรที่ยังไม่มีการแก้ไขหรือพัฒนา ขาดจิตสำนึก และควรปฏิรูปองค์กรนี้ใหม่ว่า “.. วันนี้ขอพูดบ้างเรื่องแบนสาร 3 ตัวที่ รมช.มนัญญาดำเนินการอยู่ มีหลายคนเตือนผมว่าผลประโยชน์มันเยอะทำยากไม่สำเร็จหรอกแล้วอันตราย ผมบอกเอาเหตุผลมา แต่อยู่บนผลประโยชน์สุขภาพของประชาชนคนไทยทั้งชาติ ไม่ใช่ผลประโยชน์ของกลุ่มคนกลุ่มเดียว ใช้หลักการคุยกัน อย่ามาใช้วิธีการทำลายล้างกัน อย่ามาทำอะไรน้องสาวผมนะ
แต่ดูไปดูมา มันฝังผลประโยชน์กับระบบราชการลึกมาก นายทุนครอบงำจนข้าราชการบางคนทำเหมือนว่าถ้าเลิกสารสามตัวนี้ประเทศนี้จะล่มสลาย เรื่องเกษตรกรจะใช้อะไรในการกำจัดวัชพืชก็เป็นเรื่องสำคัญ ที่ราชการที่เกี่ยวข้องจะต้องดำเนินการ ทั้งการหาวิธีในการจัดการวัชพืชและการเยียวยาให้พี่น้องเกษตกรอย่างดีที่สุด ปัจจุบันพี่น้องเกษตกรมีปัญหาเรื่องราคาสินค้าเกษตรราคาตกต่ำก็ลำบากมาก กระทรวงเกษตรฯ จะต้องรับผิดชอบและแก้ไขปัญหาเกิดขึ้น
เรื่องสารพิษไม่ใช่ความผิดของพี่น้องเกษตกร กระทรวงเกษตรฯ เป็นผู้แนะนำส่งเสริมให้เกษตกร โดยไม่ได้บอกว่าโทษของมันเป็นอย่างไร วิธีการใช้ทำอย่างไรให้ถูกต้อง ข้าราชการกระทรวงเกษตรฯ บางคน หน่วยงานบางหน่วยงานทำตัวเป็นเอเยนต์หรือเซลส์ของบริษัทขายสารเคมี วันนี้กรมที่รับผิดชอบไม่เคยออกพูดว่าทางแก้คืออะไร ชี้แนวทางว่าถ้าใช้ต่อต้องทำแบบไหน ไม่ใช้ต้องดำเนินการอย่างไร แต่วันนี้กลับทำตัวเป็นผู้แทนบริษัทขายสารเคมี
เรื่องทั้งหมดเกิดจากกระทรวงเกษตรฯ ขาดสำนึกในการที่จะทำหน้าที่เพื่อเกษตรกรและประชาชนคนไทย องค์กรนี้ต้องปฏิรูปใหม่ วันนี้ปัดความรับผิดชอบตลอดเวลา เรื่องสินค้าเกษตรราคาตกต่ำก็อ้างว่าไม่ใช่หน้าที่ขาย มีหน้าที่สงเสริมการผลิตไม่ใช่ขาย แต่วันนี้การผลิตมีปัญหาคุณยอมรับหรือไม่ว่า ปัญหาการผลิตที่ผิดพลาดเกิดจากหน่วยงานกระทรวงนี้ทั้งนั้น”