ไม่ได้ บสย.ช่วย!..วันนี้อาจไม่มี “ทองเรียน” จักสานขึ้นชื่อเมืองอุดรฯ

ศูนย์ข่าวขอนแก่น - “ทองเรียน” จักสานพลาสติกขึ้นชื่อเมืองอุดรฯ ขายดีจนผู้ผลิตต้องเลิกทำนา หันมาทุ่มเทการผลิตและทำตลาดอย่างจริงจังกอบโกยรายได้แต่ละปีไม่ต่ำกว่าแสนบาท ชี้ ถ้าไม่ได้ บสย.ค้ำประกันเงินกู้เมื่อหลายปีก่อน วันนี้คงไม่มีทองเรียน

ในงาน “มหกรรมคลินิกหมอหนี้ บสย.” ที่ บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) จัดขึ้นที่โรงแรมอวานี ขอนแก่น โฮเทล แอนด์ คอนเวนชั่น เซ็นเตอร์ ไปเมื่อต้นเดือนตุลาคม 2562 ที่ผ่านมา มีกลุ่มผู้ประกอบการรายย่อยจากจังหวัดต่างๆ ในภาคอีสานหลายสิบรายได้นำสินค้าของตนเองมาวางขาย หนึ่งในจำนวนนี้มีผลิตภัณฑ์กระเป๋าจักสานจากพลาสติกภายใต้แบรนด์ “ทองเรียน” ได้รับความสนใจจากผู้มาร่วมงานค่อนข้างมาก

ด้วยดีไซน์ของผลิตภัณฑ์ที่ดูทันสมัย เข้ากับเทรนด์แฟชั่น คงทน แข็งแรง สีสันสวยงาม ผ่านการออกแบบที่คำนึงถึงประโยชน์ในการใช้สอยได้จริง ในขนาดการใช้งานที่เหมาะสม และมีตัวสินค้าให้เลือกหลากหลาย ทั้งกระเป๋า ตะกร้า กล่องอเนกประสงค์ ฯลฯ บ้างซื้อไปใช้เอง บ้างก็ซื้อไปเป็นของฝาก

นางทองเรียน รู้ทำนอง อายุ 53 ปี ในฐานะผู้นำกลุ่มกระเป๋าจักสานพลาสติก “ทองเรียน” เล่าว่าผลิตภัณฑ์จักสานจากพลาสติกภายใต้ชื่อที่เหมือนกับชื่อของเธอนั้น ปัจจุบันเป็นสินค้าโอทอป ของอำเภอศรีธาตุ เป็นสินค้าจักสานที่ขึ้นชื่อของจังหวัดอุดรธานี ออกร้านวางขายตามงานแสดงสินค้าที่จัดขั้นภายในจังหวัดต่อเนื่องแทบตลอดทั้งปี ไม่นับรวมกับงานแสดงสินค้าในต่างจังหวัด และศูนย์การค้าใหญ่ๆในกรุงเทพฯทางกลุ่มก็ไปร่วมเปิดบูธโชว์สินค้าเพื่อรับออร์เดอร์และขายปลีกหน้าร้านด้วยเช่นกัน

นางทองเรียน บอกว่า เริ่มแรกรวบรวมสมาชิกได้ประมาณ 15 รายจดทะเบียนเป็นวิสาหกิจชุมชนเมื่อกลางปี 2552 เริ่มต้นจากการทำผลิตภัณฑ์จักสานจากไม้ไผ่ จำพวก กระเป๋า กล่องใส่ของอเนกประสงค์ ฯลฯ วางขายตามงานต่างๆ ทั้งในตัวอำเภอศรีธาตุและในตัวจังหวัดอุดรธานี ทั้งงานของหน่วยงานราชการและตามห้างสรรพสินค้า

“สินค้าของเราขายดี ขายได้เรื่อยๆ ทั้งขายปลีกและขายส่งตามแต่จะสั่งผลิต เมื่อขายดีเราก็ต้องใช้เงินทุนหมุนเวียนมากขึ้น สุดท้ายต้องพึ่งแหล่งเงินทุนที่เป็นธนาคาร เราได้รับคำแนะนำให้กู้กับทางเอสเอ็มอีแบงก์เพราะดอกเบี้ยต่ำกว่าธนาคารพาณิชย์”นางทองเรียนเล่าและบอกอีกว่า

ทางกลุ่มตัดสินใจขอสินเชื่อจาก เอสเอ็มอีแบงก์ ในปี พ.ศ. 2558 เราต้องการใช้เงินทุนประมาณ 2 แสนบาท แต่ปัญหาการกู้เงินตอนนั้นคือต้องหาบุคคลมาเซ็นค้ำประกันเงินกู้ให้ ไม่รู้ไปหาใครมาค้ำให้ แต่ถ้าหาได้ในตอนนั้น เราต้องจ่ายเงินค่าจ้างค้ำประกันให้บุคคลนั้นนับหมื่นบาท พวกเราไม่มีเงินมากขนาดนั้น

อย่างไรก็ตาม นางทองเรียน บอกว่า นับว่าโชคดีมากที่ได้รับคำแนะนำให้ปรึกษาหาทางออกเรื่องนี้กับ บสย.สาขาอุดรธานี ในที่สุดทางกลุ่มก็ได้รับความช่วยเหลือจาก บสย.ที่เข้ามาค้ำประกันเงินกู้ให้ เรากู้มาทั้งหมด 2 แสนบาท ตอนนี้เหลือหนี้อยู่ประมาณ 8 หมื่นบาท นอกจากช่วยค้ำประกันเงินกู้ให้ เจ้าหน้าที่ บสย.ยังได้ให้คำปรึกษา คำแนะนำเรื่องการผลิต การบริหารเงินทุนและการทำตลาดให้อีกด้วย

“คราวนั้นถ้าเราไม่ได้ บสย.ช่วยค้ำประกันเงินกู้ให้ต้องแย่แน่ๆเลย ไม่อย่างนั้นอาจต้องหาเงินไปจ่ายไปจ้างข้าราชการมาเซ็นค้ำประกันให้ ขอบคุณ บสย.จริงๆ” นางบัวเรียน กล่าวย้ำและบอกอีกว่า

ทุกวันนี้เธอถือเป็นกำลังหลักในการนำสินค้าออกตระเวนขายตามงานแสดงสินค้าต่างๆ แต่ด้วยคุณภาพของสินค้าจักสานพลาสติกที่คงทน แข็งแรงและความทันสมัยของงานดีไซน์ทำขายออกได้เรื่อยๆ รายได้แต่ละปีหลักแสนบาท ทำให้ตัวเธอและครอบครัวต้องเลิกทำนาให้คนอื่นเช่าทำแทน แล้วหันมาเน้นผลิตและขายผลิตภัณฑ์จักสานทองเรียนอย่างจริงจัง