อ่างทอง - เปิดปฏิบัติการ “พิทักษ์อ่างทอง” บุกจับแก๊งค้ามนุษย์จาก 2 โอเกะค้ากาม สามารถช่วยเด็กสาว 15 ปี ถูกบังคับค้าประเวณี หลังจากศูนย์ดำรงธรรม ได้รับข้อมูลจากองค์กรระหว่างประเทศด้านการต่อต้านการค้ามนุษย์ ว่า มีสถานบริการแอบแฝงค้าประเวณีเด็กหญิง อายุไม่ถึง 18 ปี เข้าข่ายค้ามนุษย์
นายรณรงค์ ทิพย์ศิริ ผอ.ศูนย์ปฏิบัติการบังคับใช้กฎหมายพนักงานฝ่ายปกครอง สำนักการสอบสวนและนิติการ กรมการปกครอง เผยว่า เมื่อกลางดึกของวันที่ 14 ต.ค.ที่ผ่านมา ได้ร่วมกับ นายศักดิ์ดา บรรดาศักดิ์ นายอำเภอเมืองอ่างทอง เปิดปฏิบัติการ “พิทักษ์อ่างทอง” นำกำลังเจ้าพนักงานฝ่ายปกครอง จากสำนักการสอบสวนและนิติการ กรมการปกครอง เข้าจับกุมแก๊งค้ามนุษย์ ในพื้นที่อำเภอเมืองอ่างทอง ที่ร้านชิลชิล คาราโอเกะ ต.ป่างิ้ว อ.เมืองอ่างทอง และร้านจิตตรา คาราโอเกะ ต.บ้านอิฐ อ.เมืองอ่างทอง สามารถจับกุมหญิงสาวที่ให้บริการค้าประเวณีได้ 6 คน เป็นคนสัญชาติไทย 4 คน และสัญชาติลาว 2 คน โดยพบเป็นเยาวชนหญิง อายุต่ำกว่า 18 ปี จำนวน 3 คน และหนึ่งในสามมีอายุเพียง 15 ปีเท่านั้น
จากการสอบสวน น.ส.สมจิตร์ เพชรวิจิตร อายุ 50 ปี และนายอภิรมย์ พึ่งประชา อายุ 36 ปี รับเป็นเจ้าของร้าน ซึ่งมีพฤติการณ์แสวงหาประโยชน์มิชอบด้วยการแอบแฝงค้าประเวณีเด็กหญิงอายุไม่ถึง 18 ปี จากการตรวจสอบพบถุงยางอนามัยใช้แล้วจำนวนมาก จึงได้แจ้งข้อหา ความผิดฐานค้ามนุษย์ เป็นธุระจัดหาหรือชักพาไปซึ่งบุคคลใด เพื่อให้บุคคลนั้นกระทำการค้าประเวณี เป็นธุระจัดหา หรือชักพาไปซึ่งเด็กที่มีอายุกว่า 15 ปี แต่ยังไม่เกิน 18 ปี เพื่อให้บุคคลนั้นกระทำการค้าประเวณี เป็นผู้ดูแลหรือผู้จัดการการค้าประเวณีหรือสถานการค้าประเวณี เป็นผู้สนองความใคร่ของผู้อื่น เป็นธุระจัดหา หรือพาไปเพื่อการอนาจาร ซึ่งชายหญิง แม้ผู้นั้นจะยินยอมก็ตาม ยุยงส่งเสริมให้เด็กประพฤติตนไม่สมควร ตั้งสถานบริการโดยไม่ได้รับอนุญาต
จากนั้นจึงควบคุมตัวมามอบให้ ร.ต.อ.จักรี พันเอ็ด รอง สว.สอบสวน สภ.เมืองอ่างทอง ดำเนินคดีต่อไป จากนั้นยังได้ประสานให้ฝ่ายปกครองอำเภอเมืองอ่างทอง ดำเนินการกับโรงแรมที่ใช้เป็นสถานที่ให้กระทำความผิดอาญาในครั้งนี้ด้วย ส่วนหญิงสาวทั้ง 6 คน เจ้าหน้าที่ได้นำตัวมาสอบถามเบื้องต้นเพื่อประกอบบันทึกการจับกุม และนำข้อมูลไปสู่การคัดแยกผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ โดยเจ้าหน้าที่สหวิชาชีพ เพื่อให้ความคุ้มครองและฟื้นฟูในฐานะเป็นผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ต่อไป
นายรณรงค์ ทิพย์ศิริ ผอ.ศูนย์ปฏิบัติการบังคับใช้กฎหมายพนักงานฝ่ายปกครอง สำนักการสอบสวนและนิติการ กรมการปกครอง เปิดเผยว่า ศูนย์ดำรงธรรม กระทรวงมหาดไทย ได้รับข้อมูลจากองค์กรระหว่างประเทศด้านการต่อต้านการค้ามนุษย์ ว่า มีสถานประกอบการ ชื่อร้านชิล ชิล คาราโอเกะ ต.ป่างิ้ว และร้านจิตตรา คาราโอเกะนวดแผนโบราณ ที่บริเวณชั้น 1 โรงแรมซีแอล การ์เด้นอินน์ มีพฤติการณ์แสวงหาประโยชน์โดยมิชอบจากการแอบแฝงค้าประเวณีเด็กหญิง อายุไม่ถึง 18 ปี ซึ่งเข้าข่ายความผิดฐานค้ามนุษย์
ก่อนหน้านี้ จึงได้ส่งพนักงานฝ่ายปกครอง ร่วมกับเจ้าหน้าที่องค์กรระหว่างประเทศด้านการต่อต้านการค้ามนุษย์ ปลอมตัวเป็นนักเที่ยวเข้าสืบสวนข้อเท็จจริงในสถานประกอบการ 2 แห่ง คือ ร้านชิล ชิล คาราโอเกะ ตั้งอยู่ริมถนนทางหลวงหมายเลข 3064 ต.ป่างิ้ว อ.เมืองอ่างทอง จ.อ่างทอง เปิดให้บริการอาหาร เครื่องดื่ม ร้องเพลงคาราโอเกะ โดยมีพนักงานหญิงบริการคอยปรนนิบัติลูกค้า พบพนักงานหญิงบริการอายุต่ำกว่า 18 ปี ภายในร้านจำนวน 3 คน
สอบถามพนักงานหญิงให้ข้อมูลแก่สายลับว่า ทางร้านจะคิดค่าดริงก์ในราคาดริงก์ละ 100 บาท โดยทางร้านจะได้ส่วนแบ่งดริงก์ละ 50 บาท และพนักงานหญิงบริการจะได้ส่วนแบ่งดริงก์ละ 50 บาท และยังสามารถซื้อบริการทางเพศได้ใน ราคา 1,300 บาท สามารถไปร่วมประเวณีกันแบบชั่วคราวได้ที่รีสอร์ตใกล้กันได้ โดยในการขายบริการทางเพศแต่ละครั้ง เจ้าของร้านจะเป็นผู้จัดเก็บเงินค่าบริการทางเพศไว้ทั้งหมด และจะทำการแบ่งให้ภายหลังแบบวันต่อวันหลังเลิกงาน
โดยสามารถรับถุงยางอนามัยเพื่อใช้ร่วมประเวณีได้จากเจ้าของร้านโดยตรง นอกจากนั้น ยังพบข้อมูลว่า หลังพนักงานหญิงบริการทุกคนของร้านชิลชิล คาราโอเกะ ทำงานให้บริการร่วมดื่มกินและขายบริการทางเพศให้แก่ลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการที่ร้านจนร้านปิด ช่วงหลังเที่ยงคืนพนักงานหญิงทุกคนจะต้องไปทำงานต่อที่ร้านจิตตรา คาราโอเกะ ซึ่งตั้งอยู่บริเวณชั้น 1 ของโรงแรมซีแอล การ์เด้นอินน์ ต.ป่างิ้ว เพราะมีเจ้าของเป็นคนเดียวกัน
หลังได้ข้อมูลเบื้องต้น จึงเดินทางไปตรวจสอบที่ร้านจิตตรา คาราโอเกะ ตั้งอยู่ที่ ชั้น 1 ของโรงแรมซีแอล การ์เด้นอินน์ อ.เมือง จ.อ่างทอง พบว่า ภายในมีห้องคาราโอเกะสำหรับดื่มกิน 2 ห้อง และมีห้องสำหรับลูกค้านวดหรือร่วมประเวณี ตั้งอยู่ในพื้นที่เดียวกันกับตัวร้าน จำนวน 4 ห้อง มีพนักงานสาวให้บริการลูกค้า และลูกค้าสามารถซื้อบริการทางเพศได้ในราคา 1,500 บาทต่อครั้ง ซึ่งทางร้านจะหักส่วนแบ่ง 500 บาทต่อการขายบริการทางเพศแบบชั่วคราว ส่วนลูกค้าที่ต้องการซื้อบริการทางเพศในรูปแบบเหมาค้างคืน ต้องจ่ายในราคา 3,500 บาท ซึ่งทางร้านจะหักส่วนแบ่ง 1,100 บาทต่อคืน และบางครั้งพนักงานหญิงจะถูกบังคับให้บริการลูกค้าแบบข้ามวันข้ามคืนโดยไม่มีเวลาพักผ่อน จนกว่าลูกค้าจะพึงพอใจ และในการขายบริการทางเพศแต่ละครั้ง เจ้าของร้านจะหักค่าถุงยางอนามัยเป็นจำนวนชิ้นๆ ละ 50 บาท รวมอยู่ในค่าขายบริการทางเพศของหญิงบริการ
โดยที่ร้านนี้ลูกค้าสามารถเลือกที่จะร่วมประเวณีในห้องนวดของทางร้าน หรือพาออกไปร่วมประเวณีภายนอกร้านก็ได้ เมื่อทราบแน่ชัดจึงได้นำกำลังเข้าจับกุมดังกล่าว จึงขอฝากเตือนผู้ประกอบการที่คิดจะทำความผิดฐานค้ามนุษย์นั้น มีโทษสูงมาก ควรมีสำนึกรับผิดชอบต่อสังคม โดยไม่แสวงหาประโยชน์จากการละเมิดสิทธิมนุษยชน และประชาชนต้องช่วยกันเป็นหูเป็นตา ขจัดการค้ามนุษย์ หากพบเห็นเบาะแส หรือการกระทำที่เข้าข่ายค้ามนุษย์ แจ้งศูนย์ดำรงธรรมอำเภอ ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด หรือศูนย์ดำรงธรรมกระทรวงมหาดไทย หมายเลขโทรศัพท์ 1567
ล่าสุด ผู้ต้องหาได้ถูกควบคุมตัวมาทำการสอบสวนและทำการบันทึกการจับกุมที่ศูนย์ดำรงธรรม ชั้น 3 อำเภอเมืองอ่างทอง ทางด้าน น.ส.รุ่งทิพย์ อายุ 31 ปี ลูกสาวเจ้าของร้าน เปิดเผยว่า ร้านชิลชิลที่แม่ของตนเองเป็นเจ้าของไม่เคยส่งเสียงดังหรือถูกร้องเรียนแต่อย่างใด เพราะเพิ่งเปิดร้านให้บริการได้ไม่นาน ส่วนเด็กสาวที่อายุต่ำกว่า 15 ปี นั้นเพียงแค่สมัครมาเป็นเด็กเสอร์ฟเท่านั้น หลังจากทำบันทึกการจับกุมเรียบร้อยแล้ว ทางเจ้าหน้าที่ได้นำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางและเงินล่อซื้อ ส่ง ร.ต.อ.จักรี พันเอ็ด รองสารวัตรสอบสวน สภ.เมืองอ่างทอง เพื่อทำการแจ้งข้อกล่าวหาและดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป