xs
xsm
sm
md
lg

นักท่องเที่ยวทะลักสองฝั่งโขงชมไหลเรือไฟออกพรรษานครพนม

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


นครพนม - สุดเจ๋ง อ.นาแก และ อ.โพนสวรรค์ คว้าแชมป์ชนะเลิศประกวดเรือไฟออกพรรษานครพนมท่ามกลางสายตานักท่องเที่ยวหลายหมื่นที่เฝ้าชมสองฝั่งโขง นายอำเภอนาแกเผยชาวบ้านทำด้วยใจ ทำด้วยพลังศรัทธา ไม่หวังผลรางวัล



ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ จ.นครพนม ในช่วงเมื่อคืนที่ผ่านมาบรรยากาศไหลเรือไฟเป็นไปอย่างคึกคัก ตลอดแนวริมฝั่งแม่น้ำโขงในเขตเทศบาลเมืองนครพนมเนืองแน่นไปด้วยประชาชน นักท่องเที่ยวจากทั่วสารทิศ ทั้งชาวไทย ชาวลาว ชาวต่างชาติหลายหมื่นคนที่เดินทางเข้ามาเฝ้ารอชมการประกวดไหลเรือไฟทั้ง 12 ลำ จากชาวบ้านทั้ง 12 อำเภอ และ อบจ.นครพนมอีก 1 ลำ

ในปีนี้ถือว่ามีประชาชน นักท่องเที่ยวมากกว่าทุกปีเนื่องจากเป็นวันหยุดยาว ส่งผลดีต่อภาคเศรษฐกิจการค้า การท่องเที่ยวเงินสะพัดหลายสิบล้านบาท ทั้งโรงแรม ที่พัก ร้านค้า ร้านอาหาร ถูกจับจองเต็มหมด

สำหรับผลการประกวดไหลเรือไฟปีนี้ รางวัลชนะเลิศ ประเภทความคิด ความยาวตั้งแต่ 60 เมตรขึ้นไป ได้แก่ อำเภอนาแก และยังได้รางวัลศิลปินเรือไฟประเภทความคิด รับเงินสด จำนวน 70,000 บาท รองชนะเลิศอันดับ 1 คือ อบจ.นครพนม รองชนะเลิศอันดับ 2 อ.ศรีสงคราม

ส่วนรางวัลประเภทความสวยงาม รางวัลชนะเลิศ คือ อ.โพนสวรรค์ อดีตแชมป์เก่าหลายสมัย และยังได้รับรางวัลศิลปินเรือไฟประเภทความสวยงาม รองชนะเลิศอันดับ 1 อ.เมืองนครพนม และรองชนะเลิศอันดับ 2 คือ อ.เรณูนคร นอกจากนี้ ยังมีรางวัลไม่เกิน 60 เมตร ไม่แยกประเภท รางวัลชนะเลิศ คือ อ.ปลาปาก รองชนะเลิศอันดับ 1 อ.นาหว้า และรองชนะเลิศอันดับ 2 คือ อ.ปลาปาก

นายศรี ศรีพุทธรินทร์ นายอำเภอนาแก จ.นครพนม เปิดเผยว่า สำหรับการทำเรือไฟของชาว อ.นาแก ได้ร่วมกับชาวบ้านในพื้นที่ทุ่มเทแรงกายแรงใจสละเวลาทำการก่อสร้างมาเกือบ 2 เดือน สิ่งสำคัญที่สุดคือความร่วมมือร่วมใจ ตลอดจนความรักความสามัคคี เนื่องจากเรือไฟทำขึ้นด้วยหัวใจ ไม่มีค่าจ้างรางวัล ทุกคนมีความภาคภูมิใจที่ได้มีส่วนร่วมในการทำเรือไฟ ส่วนงบประมาณ มีภาครัฐสนับสนุนบางส่วน และจากแรงศรัทธาบริจาคช่วยเหลือ

ปีนี้เรือไฟของอำเภอนาแกทำขึ้น ขนาดความยาวประมาณ 68 เมตร สูงประมาณ 30 เมตร ตะเกียงไฟ ประมาณ 20,000 ดวง ถือว่าภาคภูมิใจสูงสุดที่ได้รับรางวัลชนะเลิศประเภทความคิด

ที่สำคัญ ในการทำเรือไฟ ชาว อ.นาแก รวมถึงทุกอำเภอไม่ได้หวังค่าจ้างหรือรางวัล เพราะการก่อสร้างใช้งบประมาณเกือบล้านบาท แต่เงินรางวัลหลักหมื่น สิ่งที่ได้คือการสืบสานประเพณี และสร้างความประทับใจให้ประชาชน นักท่องเที่ยว ซึ่งสืบทอดกันมาหลาย 10 ปี จากวิถีชีวิตสู่ประเพณียิ่งใหญ่

ส่วนลวดลายปีนี้ภาคภูมิใจสูงสุด เป็นการน้อมใจแสดงออกถึงความจงรักภักดีต่อในหลวงรัชกาลที่ ๙ และ ในหลวงรัชกาลที่ ๑๐ ที่มีพระมหากรุณาธิคุณต่อชาวไทยตลอดมา สื่อออกมาเป็นตะเกียงไฟที่ส่องสว่าง เป็นลวดลายภาพพระราชกรณียกิจต่างๆ ให้ประชาชน นักท่องเที่ยวได้น้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ


กำลังโหลดความคิดเห็น