xs
xsm
sm
md
lg

เปิด “กล่องแสนศุข” ร้านอาหารหรูบนถนนสายชลบุรี-พนัสฯ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


แหล่งสร้างงาน -โอกาส สู่ศูนย์คัดแยกขยะชุมชน


“แมเนเจอร์ออนไลน์” ขอแนะนำร้านอาหารน่านั่งใน อ.พานทอง จ.ชลบุรี ที่มีสไตล์การตกแต่งในรูปแบบอาร์ตเดคโค ตั้งอยู่บนย่านเศรษฐกิจใหม่ใน อ.พานทอง จ.ชลบุรี เพื่อต้อนรับประชาชน นักท่องเที่ยวและกลุ่มผู้บริหารในนิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร เฟส 9 โดยเฉพาะผู้ที่ขับรถอยู่บนถนนศุขประยูร เส้นทางชลบุรี-พนัสนิคม ใกล้แยกมาบโป่ง ร้านแห่งนี้ไม่ใช่มีจุดดึงดูดเพียงการตกแต่งร้านที่สวยงามสะดุดตา



แต่ความน่าสนใจของร้านคือ รสชาติอาหารที่แสนอร่อย ทั้งอาหารไทยและสไตล์ยุโรป รวมถึงเครื่องดื่มเมนูต่างๆ ในร้านกาแฟที่มีสไตล์การตกแต่งสวยงามสร้างบรรยากาศเสมือนนั่งอยู่ในร้านกาแฟต่างประเทศ และร้านนี้ยังเป็นแหล่งสร้างงาน สร้างโอกาส และรายได้ให้แก่คนในชุมชน รวมถึงผู้ที่ต้องการการยอมรับจากสังคมอย่างกลุ่มเด็กแว้น และผู้สูงอายุที่ยังมีไฟ ให้ได้มีอาชีพเลี้ยงดูตนเองและครอบครัว

และในวันนี้ “ร้านกล่องแสนศุข” ยังได้รับการยอมรับให้เป็นศูนย์คัดแยกขยะต้นแบบชุมชนใน อ.พานทอง จ.ชลบุรี และยังเป็นพื้นที่แปลงสาธิตการปลูกพืชผักสวนครัวด้วยปุ๋ยเกษตรอินทรีย์ ตามแนวพระราชดำริเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวงรัชกาลที่ ๙ ที่สามารถประหยัดค่าใช้จ่ายด้านวัตถุดิบให้แก่ร้านได้หลายหมื่นบาทต่อเดือน

คุณสุภมาส คงวิวัฒนากุล หรือคุณปิ๊ก เจ้าของร้าน “กล่องแสนศุข” บอกว่า ธุรกิจร้านอาหารไม่ใช่ธุรกิจแรกที่ทำแต่เป็นธุรกิจที่เกิดจากความมุ่งมั่นและตั้งใจจะสร้างจุดนัดพบและแหล่งพบปะสังสรรที่สามารถตอบสนองความต้องการของคนทำงานและคนใน อ.พานทอง พนัสนิคม และบ้านบึง ให้ได้มีร้านอาหารดีๆ สำหรับการจัดประชุมและจัดเลี้ยง รวมทั้งรองรับผู้ที่ชื่นชอบการรับประทานอาหารหลากหลายรูปแบบ โดยไม่ต้องเดินทางเข้าเมือง หรือเดินทางไกลไปถึงย่านบางแสน และพัทยา

โดยนำประสบการณ์จากการทำธุรกิจการ์เมนต์ของครอบครัวใน อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี ที่คลุกคลีมาตั้งแต่เล็ก และการเป็นสะใภ้เจ้าของธุรกิจโรงเลื่อยไม้ยางพาราใน อ.พานทอง จ.ชลบุรี มาเป็นแนวทางในการบริหารจัดการร้านอาหารที่เกิดจากความใฝ่ฝันของตนเองและสามี ด้วยการวางรูปแบบทั้งการเงิน บุคลากร ต้นทุน และกำหนดแผนการตลาดที่ชัดเจน

“เราเองก็ยังได้ลองทำธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์และธุรกิจค้าปลีกจน สร้างงานให้แก่คนพื้นที่ได้ในระดับหนึ่ง และเมื่อทุกอย่างมันลงตัวก็เลยคิดว่าถึงเวลาแล้วที่จะทำในสิ่งที่ชอบ ก็เริ่มจากการวางแผนเป็นขั้นตอนโดยเชื่อว่าธุรกิจร้านอาหารหากทำด้วยความตั้งใจคู่กับการหาความรู้ยังงัยเราก็ไปรอด จึงเข้าไปเรียนเรื่องการบริหารจัดการต้นทุน แล้วก็ให้สามีที่ชอบทำอาหารและมีฝีมือในด้านนี้เข้าไปเรียนทำอาหารเป็นเรื่องเป็นราวจากเชฟชุมพล กระทะเหล็ก และฝึกงานอยู่อีกครึ่งปี”

และเพื่อป้องกันความเสี่ยงแบบ 100% เต็มในเรื่องการออกแบบและการวางคอนเซ็ปต์ร้าน เธอเองยังใช้มืออาชีพจากกรุงเทพฯ ให้เป็นผู้จัดการทั้งหมด รวมทั้งการสรรหาเชฟมือดีที่ดูแลด้านอาหารให้แก่กงสุลฝรั่งเศส ให้เข้ามาดูแลเรื่องอาหาร เพื่อป้องกันความผิดพลาดและสร้างความเป็นมืออาชีพให้แก่ร้านอย่างเต็มตัว เนื่องจากร้านนี้ใช้งบลงทุนไม่รวมค่าที่ดินสูงถึง 20 ล้านบาท

โดยวางกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่กลุ่มบีบวก และผู้บริหารโรงงานในนิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร รวมถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ชอบลองแต่กำหนดราคาอาหารแบบวาไรตีคือ มีระดับราคาตั้งแต่จานละ 100 ไปจนถึง 8,000 บาท เนื่องจากอาหารต่างประเทศบางจานต้องใช้วัตถุดิบและเนื้อนำเข้าชั้นดี และด้วยคุณภาพอาหารและวัตถุดิบเกรดเอ จึงทำให้ตลอดระยะเวลาเกือบปีที่เปิดให้บริการ ร้านแห่งนี้จึงมีลูกค้าแน่นทุกวัน

“ย้อนไปเมื่อ 3 ปีก่อน ถนนเส้นนี้ยังไม่มีความเจริญอะไร แต่เราก็มองหาโอกาสทางธุรกิจอยู่ตลอด โดยเฉพาะการทำร้านอาหารต้องรอโอกาสที่ดีด้วย และเมื่อกลุ่มอมตะฯ ขยายนิคมฯ เฟสใหม่ เราก็รู้แล้วว่าโอกาสมาถึงแล้วจึงไม่รอช้าที่จะทำร้านอาหารที่เสิร์ฟได้ทั้งอาหารไทย และพรีเมียมสเต๊ก รวมถึงอาหารอินเตอร์ที่ทุกชาติสามารถรับประทานได้”

สำหรับเมนูยอดนิยมของร้านกล่องแสนศุข มีทั้งต้มข่าไก่มะพร้าวอ่อน ห่อหมกทะเล แสร้งว่าไข่หงส์ ซึ่งเป็นอาหารที่หารับประทานยาก และพรีเมียมสเต๊ก ที่ทำจากเนื้อนำเข้าจากต่างประเทศและเนื้อจากเกษตรกรไทยเพื่อให้ได้มีที่ระบายสินค้า เพราะปัจจุบันคนไทยทำเนื้อและชีส ได้ดีและมีคุณภาพ

แหล่งสร้างโอกาสเด็กแว้น-ผู้สูงอายุ และคนที่ต้องการมีรายได้เลี้ยงครอบครัว

“เราเคยมองว่าเด็กแว้นเป็นเด็กดื้อ แต่เมื่อวันหนึ่งกลุ่มเด็กที่เราเคยเห็นว่ารวมตัวกันขี่มอเตอร์ไซค์แข่งกันหน้าร้านสะดวกซื้อของเราทุกวันขี่มอเตอร์ไซค์กันเข้ามาเลย 5 คัน ใส่กางเกงลายดอกเข้ามาเลย เราก็งงว่าเข้ามาทำอะไรกัน พอเขาบอกว่ามาของานทำ เราก็คุยกับเขาดีๆ ว่าเปลี่ยนตัวเองได้มั้ย ตั้งแต่ไปตัดผม ทำหน้าตาให้สะอาด ตัดเล็บให้ดูดีแล้วพรุ่งนี้ให้มาคุยกันใหม่ พออีกวันเขาก็มากันและก็เปลี่ยนลุคให้เราเห็นก็เลย เป็นจุดแรกที่ทำให้รู้ว่าพวกเขาพร้อมที่จะเปลี่ยนตัวเอง เพียงแต่ขอให้มีคนให้โอกาส”

คุณสุภมาส หรือคุณปิ๊ก บอกอีกว่า สิ่งที่ทำให้ภูมิใจที่สุดคือ ในวันนี้เด็กแว้นกลุ่มนี้บางคนยังทำงานอยู่ภายในร้านและสามารถส่งเงินกลับไปเลี้ยงดูพ่อแม่ในต่างจังหวัดได้ ที่สำคัญจากเด็กที่ไม่เคยรู้หนังสือก็ได้เรียน กศน.เพื่อให้สามารถอ่านเขียนได้ และมีความใฝ่ฝันที่จะเติบโตในอาชีพ ส่วนเด็กแว้นบางคนขอกลับไปเรียนหนังสือ บางคนก็ขอไปมีครอบครัว โดยที่ไม่มีใครกลับไปขี่มอเตอร์ไซค์ซิ่งบนถนนอีกเลย

อีกกลุ่มพนักงานในร้านคือ กลุ่มคนสูงอายุ ซึ่งบางคนอายุมากกว่า 70 ปี แต่ยังมีไฟ และขอโอกาสมาทำงานด้าน รปภ. ช่วยโบกรถ และดูแลต้นไม้ในสวนหน้าร้าน รวมถึงในสวนผัก ซึ่งทางร้านก็ยินดีที่จะให้โอกาสเพื่อให้เกิดการเห็นคุณค่าในตนเอง และยังมีรายได้โดยไม่ต้องพึ่งพาลูกหลาน

ศูนย์ศึกษาการคัดแยกขยะชุมชน จัดทำปุุ๋ยอินทรีย์

นโยบายสำคัญของทางร้านอีกประการ คือ การลดจำนวนขยะที่จะกลับสู่ชุมชน เนื่องจากทราบดีว่าธุรกิจร้านอาหารคือแหล่งสร้างขยะจำนวนมหาศาล และตั้งแต่เปิดร้านกล่องแสนศุข ทางร้านได้จัดอบรมความรู้เกี่ยวกับการคัดแยกขยะและเศษอาหารเพื่อใช้ทำปุ๋ยหมักในบ่อหมักที่อยู่ด้านหลังร้าน จนได้รับการยกย่องจากหน่วยงานภาครัฐในพื้นที่ให้เป็นจุดศึกษาดูงานเรื่องการคัดแยกขยะชุมชน และการทำปุ๋ยหมักชีวภาพ

“ในส่วนของขยะพลาสติกเราก็สอนให้เด็กๆ รู้จักการคัดแยกเพื่อนำไปขาย เราได้จัดทำที่เก็บขยะพลาสติก ขวดแก้วและกล่องกระดาษ เพื่อให้เด็กๆ ได้ช่วยกันดูแล และเมื่อได้จำนวนมากเขาก็นำไปขายและนำเงินมาแบ่งกัน วันนี้เราจึงมีขยะที่ส่งให้รถขยะจัดเก็บเพียงแค่วันละ 2 ถุงดำ แต่สิ่งที่ภูมิใจกว่านั้นคือ พนักงานในร้านมีความตะหนักเรื่องการคัดแยกขยะ และปฏิบัติจนกลายเป็นนิสัย” คุณสุภมาส หรือคุณปิ๊ก กล่าว















กำลังโหลดความคิดเห็น