อุทัยธานี - ผอ.โรงพยาบาลอุทัยธานีนำคณะแพทย์-พยาบาลรณรงค์แบน 3 สารพิษอันตราย กระตุ้นผู้ป่วย-ญาติตระหนักถึงโทษและพิษภัย จนเลิกใช้อย่างถาวร
วันนี้ (10 ต.ค.) นายแพทย์ สุรชัย โชคครรชิตไชย ผู้อำนวยการโรงพยาบาลอุทัยธานี ร่วมกับคณะแพทย์ พยาบาล โรงพยาบาลอุทัยธานี จัดกิจกรรมรณรงค์ที่อาคารผู้ป่วยนอก โรงพยาบาลฯ เพื่อขอการสนับสนุนจากญาติ-ผู้ป่วยยกเลิกการใช้ 3 สารพิษอันตราย ได้แก่ พาราควอต คลอร์ไพริฟอส และไกลโฟเซต
หลังสังคม รวมทั้งบุคลากรด้านสุขภาพออกมาสนับสนุนและร่วมรณรงค์ให้รัฐบาลยกเลิกการนำเข้าและห้ามจำหน่ายสารพิษทางการเกษตร 3 ตัว คือ สารฆ่าหญ้าพาราควอต สารฆ่าแมลงคลอร์ไพริฟอส และไกลโฟเซต ซึ่งปัจจุบันมีอย่างน้อย 51 ประเทศทั่วโลก รวมทั้งประเทศเพื่อนบ้าน อย่างเช่น ลาว กัมพูชา เวียดนาม และมาเลเซีย ได้ยกเลิกการใช้พาราควอต
นายแพทย์ สุรชัยได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลอุทัยธานีบรรยายให้ความรู้ พร้อมเดินรณรงค์ประชาสัมพันธ์ และจัดทำวิดีโอเป็นสื่อประชาสัมพันธ์ในเรื่องดังกล่าวผ่านทางโทรทัศน์ของโรงพยาบาล ให้ญาติ-ผู้ป่วยทราบถึงโทษและพิษภัยของสารเคมีทั้ง 3 ชนิด
เพื่อให้ประชาชนตระหนักและให้ความสำคัญต่อเรื่องดังกล่าว จนนำไปสู่การเลิกใช้สารเคมีในพืชผลการเกษตรในที่สุด เนื่องจากประชาชนส่วนใหญ่ในจังหวัดอุทัยธานีประกอบอาชีพเกษตรกร ทำนา ทำไร่เป็นหลัก ซึ่งเสี่ยงที่จะได้รับผลกระทบและอันตรายจากการใช้สารเคมีดังกล่าวเป็นอย่างมาก
นายแพทย์ สุรชัยกล่าวว่า โรงพยาบาลอุทัยธานีขอสนับสนุนมาตรการรณรงค์ดังกล่าวอย่างเต็มที่ และสนับสนุนให้รัฐบาลยกเลิก หรือแบนสารพาราควอต คลอร์ไพริฟอส และไกลโฟเซต ซึ่งมีผลกระทบต่อสุขภาพร่างกาย เพราะจากการเก็บข้อมูลพบว่าทุกปีจะมีคนป่วยจากการใช้ยาฆ่าหญ้าจำนวน 14,000 คน และเสียชีวิตมากกว่า 600 คนต่อปี
ทั้งนี้ หวังเป็นอย่างยิ่งว่านโยบายการต้านสารพิษของนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ปลัดกระทรวงสาธารณสุข และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จะสามารถยกเลิกสารพิษที่เป็นอันตรายร้ายแรงทั้ง 3 ชนิดได้ในเร็ววัน
เพื่อสร้างความมั่นใจให้ประชาชนว่า กระทรวงสาธารณสุขมิได้เพิกเฉยต่อชีวิตและสุขภาพของคนไทย สร้างสังคมไทยที่สะอาดไร้สารพิษในระยะยาวต่อไป
ขณะเดียวกัน โรงพยาบาลอุทัยธานีได้เห็นถึงความสำคัญต่อการดูแลสุขภาพของผู้ป่วย โดยเฉพาะในเรื่องของการรับประทานอาหาร ทางโรงพยาบาลอุทัยธานีได้มีการจัดทำโครงการอาหารปลอดภัย โดยมีการนำเข้าผักซึ่งเป็นผักปลอดสารพิษที่ปลูกได้จากประชาชนในจังหวัดอุทัยธานี นำเข้ามาปรุงให้แก่ผู้ป่วยภายในโรงพยาบาลได้รับประทานเพื่อให้มีสุขภาพอนามัยที่ดี ตลอดจนเป็นการส่งเสริมให้เกษตรกรได้ปลูกผักปลอดสารพิษเพิ่มมากขึ้นอีกด้วย
ด้านนางฉลวย เชาว์ธรรม อายุ 73 ปี หนึ่งในผู้ป่วยที่เดินทางมาใช้บริการที่โรงพยาบาลอุทัยธานี กล่าวว่า หลังจากที่ได้รับฟังบรรยายจากทางโรงพยาบาลเกี่ยวกับเรื่อง 3 สารพิษในครั้งนี้รู้สึกตื่นตัวมากขึ้น เนื่องจากตนก็มีอาชีพทำการเกษตร ทั้งทำนา และปลูกพืชผัก ซึ่งได้มีการใช้สารเคมีดังกล่าวในบางส่วนเช่นเดียวกัน และยังมีระบบปลูกแบบกางมุ้งเพิ่มเข้ามา
“ฉันมองว่าการใช้สารเคมีมีข้อดี คือทำให้พืชผลการเกษตรเติบโตและเสียหายน้อยกว่าการปลูกแบบปลอดสาร แต่ผลเสียก็มีมากด้วยเช่นเดียวกัน ซึ่งก็เห็นด้วยกับเรื่องที่จะมีการยกเลิกการใช้สารดังกล่าว เพื่อให้ประชาชนนั้นมีสุขภาพที่ดีและปลอดภัยมากขึ้น”
