ศูนย์ข่าวศรีราชา- ชีวิตจริงยิ่งกว่าละคร! สุดยอดคุณแม่เลี้ยงดูลูกชายพิการซ้ำซ้อนวัย 5 เดือน หวังหาเงินเป็นค่าออกซิเจนต่อลมหายใจอีก 7 เดือน ขณะที่น้ำใจชาวเน็ตยื่นมือช่วยให้สินค้าขายออนไลน์ เผยรายรับไม่พอรายจ่าย ทำสามีต้องทำงาน 2 กะไม่เว้นวันหยุด
วันนี้ (8 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังบ้านเลขที่ 119/143 ม.5 ต.นาเกลือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังได้รับแจ้งจากชาวบ้านในพื้นที่ว่า มีคุณแม่หัวใจแกร่งเลี้ยงดูลูกน้อยวัย 5 เดือน ที่มีความพิการซ้ำซ้อนจนตัวเองต้องเลิกอาชีพเพื่อมาดูแล ปล่อยให้สามีต้องตรากตรำทำงานหนัก 2 กะทั้งเช้าและค่ำ รวมทั้งวันหยุด เพื่อให้มีรายได้เลี้ยงดูครอบครัว
โดยพบ นางอุมาพร สันป่าแก้ว อายุ 41 ปี และลูกชายคนโต วัย 11 ปี ที่กำลังศึกษาอยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนเมืองพัทยา 9 ส่วนลูกชายคนเล็กคือ น้องภาคิน อายุ 5 เดือน มีความพิการซ้ำซ้อน ทำให้ผู้เป็นแม่ต้องคอยเฝ้าดูแลอย่างใกล้ชิด และยังพบถังออกซิเจนหลายถังวางอยู่ไม่ไกล
นางอุมาพร กล่าวว่า น้องภาคิณ มีความพิการซ้ำซ้อนจากโรคโครโมโซม 13 ทั้งปากแหว่งเพดานโหว่ หัวใจรั่ว หัวใจโต และปอดชื้น และแพทย์ระบุว่าจะสามารถอยู่ได้เพียง 1 ปีเท่านั้น โดยยืนยันว่าตั้งแต่ตั้งครรภ์ตนเองได้หยุดทำงานเพื่อเตรียมตัวคลอด กระทั่งคลอดน้องออกมาก็ยังต้องคอยดูแลอย่างใกล้ชิด เนื่องจากต้องให้ออกซิเจนช่วยหายใจตลอดเวลาจนจำเป็นต้องเลิกอาชีพแม่ค้าขายของ ที่สำคัญ น้องภาคิณ ต้องให้นมทุก 3 ชั่วโมง
"ครั้งหนึ่งต้องให้น้องกินนมเพียง 1 ออนซ์ครึ่งเท่านั้น เพราะน้องมีอาการปอดชื้นต้องควบคุมน้ำไม่ให้ท่วมปอด การดูแลจึงจำเป็นต้องพิถีพิถันและมีความละเอียดอ่อนเป็นอย่างมาก ซึ่งที่ผ่านมาได้มีหน่วยงานภาครัฐและบริษัทเอกชน รวมทั้งคนใจบุญช่วยเหลือครอบครัว แต่เงินที่ได้ก็เหลือน้อยลงทุกวัน ปัจจุบัน สามีจึงต้องทำงาน 2 กะ คือ ช่วงเช้าจะเป็นพนักงานบาร์เทนเดอร์ และช่วงค่ำจะทำงานเป็นพนักงานล้างจานที่โรงแรมไบรท์ตัน พัทยา ซึ่งทางโรงแรมก็อนุญาตให้รับงาน 2 กะได้ เมื่อถึงวันหยุดก็จะไปรับจ้างทำความสะอาดอพาร์ตเมนต์เพิ่ม"
ทุกวันนี้ นางอุมาพร มีรายได้เสริมจากการขายสินค้าออนไลน์ที่ชาวเน็ตผู้มีน้ำใจหยิบยื่นให้จำหน่ายโดยไม่คิดในส่วนของเงินกำไร ไม่ว่าจะเป็น ผลไม้ และกระเป๋าสะพาย ล่าสุด ยังมีพ่อค้าทำขนมและเบเกอรีนำสินค้ามาให้ช่วยจำหน่ายและยกกำไรทั้งหมดให้เป็นค่าใช้จ่ายในการดูแล น้องภาคิณ
โดยเฉพาะค่าออกซิเจนที่ต้องใช้มากถึงวันละ 2 ถัง เนื่องจากถังหนึ่งจะใช้ได้ประมาณ 12 ชั่วโมง และมีค่าใช้จ่ายถังละ 400 บาท รวมค่าขนส่งอีก 50 บาท
"ปัจจุบันพบว่าหัวใจ น้องภาคิณ เริ่มโตขึ้นและปอดชื้นขึ้น จากเมื่อก่อนที่เคยใช้ออกซิเจนวันละ 1 ถัง ก็เพิ่มขึ้นเป็น 2 ถัง เพื่อให้น้องมีชีวิตอยู่นานที่สุด แต่รายได้จากสามีคนเดียวประมาณเดือนละ 17,000 บาท ไม่เพียงพอเพราะครอบครัวมีค่าใช้จ่ายหลักอยู่ที่ประมาณเดือนละ 13,000 บาท โชคดีที่ได้น้ำใจจากชาวเน็ตช่วยให้ขายของ แต่ก็ต้องเก็บหอมรอมริบเพราะมีลูกชายคนโตที่กำลังเรียนหนังสือด้วย" นางอุมาพร กล่าว
ทั้งนี้ หากเรื่องราวของคุณแม่หัวใจเพชรที่พยายามดูแลลูกน้อยผู้พิการอย่างสุดชีวิต ในขณะที่สามีต้องตรากตรำทำงานเช้าค่ำเพื่อหาเลี้ยงครอบครัวได้เข้าไปแทรกกลางระหว่างความรู้สึกและจิตใจของผู้อ่านผู้ใจบุญ หรือเป็นข้อมูลเพื่อรับทราบไปยังสาธารณชน หรือหน่วยงานองค์กรต่างๆ ด้านมนุษยธรรม สามารถสมทบทุนเป็นเงินช่วยเหลือครอบครัวนี้ได้โดยตรงที่บัญชีเงินฝากเผื่อเรียก เลขที่ 020103500912 นางอุมาพร สันป่าแก้ว ธนาคารออมสิน