อุตรดิตถ์ - ถึงกับผงะ-โร่แจ้งตำรวจทันที..หนุ่มนั่งสมาธินิมิตเห็นคนถูกฆ่าแล้วเผา ชวนพ่อ-ยายตามไปพิสูจน์เจอศพถูกไฟเผาไหม้เกรียมคาห้องน้ำปั๊มน้ำมันร้างริมทางวังกะพี้
วันนี้ (7 ต.ค.) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.วังกะพี้ อ.เมืองอุตรดิตถ์ ได้เร่งสืบสวน-ติดตามค้นหาผู้สูญหายที่มีการแจ้งความไว้ที่สถานีตำรวจต่างๆ เพื่อตรวจหาบุคคล-คลี่คลายคดีฆาตกรรมฆ่าแล้วเผา บริเวณด้านหลังปั๊มน้ำมันร้างแห่งหนึ่งริมถนนสายเอเชียที่ 11 พิษณุโลก-อุตรดิตถ์ (ฝั่งขาล่อง) ในพื้นที่หมู่ 8 บ้านดงช้างดี ต.หาดกรวด อ.เมืองอุตรดิตถ์ ว่าบุคคลที่เสียชีวิตเป็นใครมาจากไหน หากทราบตัวบุคคลก็จะทำให้คดีนี้กระจ่างขึ้นอย่างรวดเร็ว เนื่องจากคดีนี้เป็นคดีฆาตกรรมอำพรางและเป็นคดีที่ประชาชนให้ความสนใจมาก จึงต้องเร่งสืบหาคนร้ายและนำตัวมาลงโทษอย่างเร่งด่วน และเชื่อว่าผู้ก่อเหตุเผาอำพรางคดีนี้มีไม่ต่ำกว่า 2 คน
ร.ต.อ.มานัส สุระจิต รองสารวัตร สส.สภ.วังกะพี้ ได้รับแจ้งเหตุพบศพคนถูกฆ่าแล้วเผาจนเสียชีวิตบริเวณด้านหลังปั๊มน้ำมันร้างเมื่อวานนี้ (6 ต.ค.) จึงรายงานผู้บังคับบัญชา ก่อนรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.ท.นรพนธ์ อุสาใจ นวท.สบ.3 หน.พฐ.จว.อุตรดิตถ์, นายณัฐวัตร แซ่จิว แพทย์เวรโรงพยาบาลอุตรดิตถ์ และเจ้าหน้าที่กู้ภัยวัดหมอนไม้
ที่เกิดเหตุเป็นห้องน้ำหญิงห้องที่ 4 นับจากทางทิศใต้ ในจำนวน 10 ห้องเรียงแถวกัน พบศพชายไทยไม่ทราบชื่อ อายุประมาณ 25-40 ปี สูงไม่เกิน 170 เซนติเมตร นอนเสียชีวิตลักษณะถูกไฟเผาไหม้เกรียมทั้งร่างจนดำเป็นตอตะโกจำหน้าตาและรูปร่างไม่ได้ รอบห้องน้ำจุดเกิดเหตุพบร่องรอยของควันไฟเกาะอยู่ทั่วผนังห้องน้ำ พบเศษกระเบื้องแตกกระจายเกลื่อน รวมทั้งพบรอยนิ้วมือแฝงในห้องน้ำจำนวนมาก
นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือในสภาพถูกทำลายทิ้งตกอยู่ที่กองเปลือกทุเรียนหน้าห้องน้ำ 1 เครื่อง, กระป๋องน้ำมันเครื่องขนาด 1 ลิตรตกอยู่บริเวณกองแกลบซึ่งอยู่ใกล้กัน และพบรองเท้าสีน้ำเงินตกอยู่ภายในป่ารกอีก 1 คู่ เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานจึงรวบรวมเก็บเอาไว้เป็นหลักฐานในทางคดี
จากการชันสูตรพลิกศพชายนิรนามเบื้องต้น พอจะสันนิษฐานได้ว่าผู้ตายเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 1 สัปดาห์ โดยถูกไฟเผาทั่วร่าง ที่ตัวศพเจ้าหน้าที่พบเชื้อราเกาะตามร่างกายส่วนหนึ่ง และพบหนอนเริ่มไต่ขึ้นตามตัว ส่วนสาเหตุการเสียชีวิตยังไม่สามารถระบุได้ จึงนำร่างผู้เสียชีวิตส่งยังโรงพยาบาลพุทธชินราช จ.พิษณุโลก เพื่อทำการผ่าพิสูจน์หาสาเหตุการเสียชีวิตในครั้งนี้
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.วังกะพี้ตั้งข้อสังเกตการเสียชีวิตในครั้งนี้เอาไว้ถึง 3 แนวทาง คือ 1. เรื่องชู้สาว 2. เรื่องส่วนตัว และ 3. เรื่องธุรกิจมืด ที่ผู้ตายอาจไปล่วงรู้ความลับมาจึงถูกฆ่าให้ตายจากสถานที่อื่นแล้วนำศพมาทิ้งภายในห้องน้ำหญิงบริเวณปั๊มน้ำมันร้างแห่งนี้ จากนั้นนำน้ำมันเบนซินที่เตรียมเอาไว้ราดทั่วร่างผู้เสียชีวิตแล้วจุดไฟเผาเพื่ออำพรางคดี
นายเกียรติศักดิ์ เสียบขุดทด อายุ 30 ปี หนึ่งในผู้พบศพฆ่าแล้วเผาอำพรางคดี เล่าให้ฟังว่า ตนนั่งสมาธิอยู่ที่บ้าน ซึ่งเคยนั่งเป็นประจำเนื่องจากเป็นคนที่มีสมาธิสั้น ขณะเริ่มนั่งสมาธิค่ำคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา จิตได้พามาที่บริเวณห้องน้ำในปั๊มน้ำมันร้างแห่งนี้ พบไอความร้อนและกลิ่นเหม็นไหม้ เห็นขาโผล่ออกมาแต่ไม่มีเล็บเท้า รู้สึกใจหายและหวิวๆ จึงถอดจิตออกจากสมาธิทันที
หลังจากนั้นก็นอนไม่หลับ อยากจะรู้ว่าผู้เสียชีวิตเป็นใคร เป็นอะไรมาและอยู่ตรงไหน รุ่งเช้าวันเสาร์ (5 ต.ค.) ระหว่างกินข้าวจึงเล่าให้แม่และพ่อฟัง ก่อนเดินทางไปไหว้พระที่จังหวัดสุโขทัยทั้งวัน แต่ใจก็ยังนึกถึงเรื่องดังกล่าวนี้ตลอด จึงชวนพ่อมาเป็นเพื่อนเพื่อค้นหาตามนิมิตที่เห็นตอนนั่งสมาธิ โดยแวะรับยายคือ นางน้ำเย็น แก้วพันคำ อายุ 79 ปี ผู้ปฏิบัติธรรมวัดพระแท่นศิลาอาสน์ มาด้วย
เมื่อแวะเข้าไปที่ปั๊มน้ำมันร้างแห่งนี้เป็นจุดแรก พบด้านหลังเป็นห้องน้ำเรียงกัน พอลงจากรถเดินดูก็เริ่มได้กลิ่นเหม็นจากควันไฟ ซึ่งยังไม่รู้ว่าเป็นอะไร ขณะนั้นยายเดินนำหน้าอยู่ ส่วนตนรู้สึกใจไม่ดี พร้อมชี้ให้พ่อกับยายดูรอยเขม่าควันที่ปรากฏเต็มไปหมด ยายเดินดูตั้งแต่ห้องแรกจนถึงห้องที่ 4 จนพบศพแล้วบอกว่าอยู่นี่เอง จึงได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทราบ
“สิ่งที่เกิดขึ้นจากการนั่งสมาธินั้นเป็นความเชื่อส่วนบุคคล และเกิดขึ้นจริงกับผมเป็นครั้งแรก”