นครปฐม - วอนสังคมช่วยหญิงสู้ชีวิตเลี้ยงลูก-หลานรวม 5 ชีวิตอย่างโดดเดี่ยว อาศัยอยู่กระต๊อบหลังเล็กที่ใช้เป็นทุกอย่าง รวมอยู่ในห้องๆ เดียว
วันนี้ (7 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บ้านหนองเขมร อำเภอกำแพงแสน จังหวัดนครปฐม มีผู้แจ้งว่ามีครอบครัวของยายต๋อย หญิงสู้ชีวิตเพื่อลูกและหลานรวม 5 ชีวิต หลังผู้นำครอบครัวสามีได้ลาจากโลกนี้ไปเปรียบเสมือนครอบครัวไร้ที่พึ่ง และลูกสาวที่เป็นหัวเรี่ยวหัวแรงก็ได้ลาจากไปอีกคน โดยเพิ่งได้เผาศพไปเมื่อวันที่ 3 ต.ค.ที่ผ่านมา ทิ้งลูกไว้ให้ยายต๋อย เลี้ยงดูลำพังด้วยความยากลำบาก
จากการตรวจสอบที่บ้านเลขที่ 78 ม.1 ต.หนองกระทุ่ม อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม ได้พบกับนางวรรณา หรือยายต๋อย เกิดศรีชัง อายุ 52 ปี กล่าวว่า ตนเองเมื่อก่อนสามีจะเป็นเสาหลักให้ครอบครัว แต่สามีได้ป่วยเป็นมะเร็งตับและเสียชีวิตไปเกือบจะ 2 ปีแล้ว
ล่าสุด ลูกสาวชื่อ น.ส.วารุณี เกิดศรีชัง อายุ 25 ปี ก็ได้ล้มป่วยไปหาหมอเป็นประจำ สุดท้ายติดเชื้อในกระแสเลือดและเสียชีวิต และทำการฌาปณกิจไปเมื่อวันที่ 3 ต.ค.ที่ผ่านมา ทิ้งลูกเอาไว้ 2 คนคือ ด.ญ.ศิริพร เกิดศรีชัง อายุ 9 ขวบ เรียนอยู่ชั้น ป.3 โรงเรียนบ้านหนองเขมร อ.กำแพงแสน และ ด.ญ.นารากร เกิดศรีชัง อายุ 7 ขวบ เรียนอยู่ชั้น ป.1 โรงเรียนบ้านหนองเขมร และลูกชายของนางวรรณา ลูกคนเล็ก ด.ช.ณัธพล เกิดศรีชัง อายุ 11 ปี เรียนอยู่ชั้น ป.5 โรงเรียนบ้านหนองเขมร และหลานชาย ด.ช.ปฑณกร สีสัน อายุ 14 ปี ไม่ได้เรียนหนังสือจบแค่ ป.6 เนื่องจากไม่มีทุนเรียนหนังสือและดวงตาข้างซ้ายของ ด.ช.ปฑณกร มองไม่เห็น
นางวรรณา กล่าวอีกว่า ตนเองทำงานคนเดียว รับจ้างเป็นแม่บ้านกวาดถนนในปั๊มน้ำมัน ทำความสะอาดโต๊ะได้ค่าแรงวันละ 325 บาท วันไหนไปทำก็จะได้ค่าแรง วันไหนไม่ได้ไปก็ไม่ได้ค่าแรง ตนเองเพิ่งจะเริ่มเข้าไปทำงานได้เดือนกว่า ในแต่ละวันก่อนจะไปทำงานก็จะต้องเตรียมหุงข้าวใช้เตาแก๊สปิคนิคหุ้งข้าว เพราะบ้านที่ตนอยู่ไม่มีไฟฟ้าใช้
ประกอบกับเวลาฝนตกก็ต้องนำขัน หม้อมารองน้ำเอาไว้เพราะหลังคารั่วทั้งหลัง ทอดไข่และปลากระป๋อง เตรียมไว้ให้ลูกและหลานรวมทั้งตนเอง 5 คน ก็จะกินข้าวเช้าด้วยกัน บ้านที่ตนเองอยู่เป็นที่ของญาติ บ้างครั้งก็โดนไล่ให้ออกจากที่ ตนเองจึงไปขอร้องถ้าไล่ตนเองไป และหลานจะไปอยู่กันที่ไหน
สำหรับที่อาศัยอยู่เป็นเพิงเล็กๆ กว้าง 5 เมตร ยาว 5 เมตร หลังคามุงจากก็ผุร่วงลงมา จึงใช้สังกะสีครอบทับอีกชั้น แต่ก็ไม่สามารถกันฝนตกได้จึงต้องใช้หม้อ ขันมารองเอาไว้ ในบ้านที่นอนที่ทำครัว ที่นั่งกินข้าว ที่วางเสื้อผ้า อยู่กันแบบแออัด และภายในบ้านจะนอนรวมกันในมุ้งหลังเดียว 5 คน เวลาจะปลดทุกข์ ก็จะต้องไปขอเพื่อนบ้านเข้าห้องน้ำ เพราะที่บ้านตนเองไม่มีห้องน้ำ ที่อาบน้ำ ตักอาบน้ำกันแบบโล่งๆ ยามค่ำคืนเด็กก็ทำการบ้านไม่ได้เพราะที่บ้านไม่มีไฟฟ้า
นางวรรณา กล่าวต่อไปว่า พอให้หลานนอนหลับถ้าคนไหนไม่หลับจากอากาศร้อน ก็จะใช้ผ้า หรือกระดาษพัดให้มีลมเย็นเพื่อให้นอนหลับ จากนั้นตนเองต้องจุดเทียนออกมานั่งซักผ้าด้วยมือเปล่าให้หลานและลูกเอาไว้ใส่ไปโรงเรียน และใส่อยู่บ้าน กว่าจะนอนก็ดึก
ตื่นเช้าก็จะจัดเตรียมอาหารให้หลานและห่อข้าวไปกินที่ทำงาน ขับรถ จยย.ไปส่งหลานที่โรงเรียน ก่อนไปทำงาน ซึ่งรถ จยย.คันที่ขับไปทำงานไปขอร้านที่ขายซ่อม จยย.ว่า ขอไปใช้ก่อน โดยร้านให้เป็นรถ จยย.ฮอนด้า เทียน่า ในราคา 7,500 บาท แต่ตนเองไม่มีเงินจึงให้ไปก่อน 100 บาท และทำงานมาได้จะส่งให้เดือนละ 2,000 บาท ร้านซ่อมก็เห็นใจจึงให้รถไว้ใช้ขับขี่ไปส่งหลานและขับไปทำงาน ซึ่งตนต้องรับภาระค่าใช้จ่ายทุกอย่าง โดยได้ค่าแรง 325 บาทต่อวันเลี้ยงคนทั้ง 5 ชีวิต
ตนเองอยากมีไฟฟ้าใช้ จะได้สว่างเหมือนบ้านอื่นเขา และอยากมีหลังคาบ้านที่น้ำไม่รั่วหยดเข้ามาในบ้านและเครื่องซักผ้าเอาไว้ซักชุดนักเรียน จะได้แห้งทันสวมใส่ไปโรงเรียน
วอนผู้ที่มีจิตใจเมตตา ผู้ที่ใจบุญ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยเหลือครอบครัวนางวรรณา เกิดศรีชัง ได้ที่บ้านหนองเขมร ม.1 ต.หนองกระทุ่ม อ.กำแพงแสน ตรงข้ามสถานีอนามัยหนองกระทุ่ม หรือโอนเงินบริจาคช่วยเหลือได้ที่หมายเลขบัญชีธนาคารกรุงไทย สาขากำแพงแสน ชื่อบัญชี นางวรรณา เกิดศรีชัง เลขที่บัญชี 726-0-57373-2
