xs
xsm
sm
md
lg

ลูกชายร้องตามหาแม่หาย 4 ปี! รถถูกทิ้งทุ่งนาสุรินทร์ ล่าสุดเทียบ DNA พบเป็นศพที่มหาสารคาม-ตร.เร่งล่าฆาตกร

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


สุรินทร์ - ลูกชายเข้าร้องมูลนิธิกระจกเงา ประสานตำรวจเร่งติดตามคดีแม่หาย 4 ปี พบรถยนต์ถูกทิ้งกลางทุ่งนาแต่ไม่พบคนขับ ล่าสุดเทียบดีเอ็นเอกับญาติผู้สูญหายยืนยันพบเป็นศพถูกฆ่ารัดคอที่ จ.มหาสารคาม หลัง ผบก.ทว.ลงพื้นที่เร่งรัดคดี เตรียมเร่งล่าตัวฆาตกร

วันนี้ (3 ต.ค.) เวลา 10.00 น. ที่ห้องที่ทำการคณะกรรมการตรวจสอบและติดตามการบริหารงานตำรวจ สภ.เมืองสุรินทร์ อ.เมือง จ.สุรินทร์ พล.ต.ต.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บังคับการกองทะเบียนประวัติอาชญากร (ผบก.ทว.) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.), เจ้าหน้าที่จากมูลนิธิกระจกเงา ได้ลงพื้นที่เพื่อประชุมติดตามความคืบหน้าและเร่งรัดคดีเกี่ยวกับคดีคนหาย พร้อมกับ นางสิญา ทองดี ยุติธรรม จ.สุรินทร์, ตำรวจชุดสืบสวนสอบสวน ตำรวจภูธรภาค 3, ชุดสืบสวน ตำรวจภูธร จ.สุรินทร์, พ.ต.อ.ยศวัจน์ งามสง่า ผกก.สภ.เมืองสุรินทร์ และตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองสุรินทร์ โดยมี นายปราโมทย์ หอมดอกพุท อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 27/1 ม.6 ต.เทนมีย์ อ.เมือง จ.สุรินทร์ บุตรชายคนกลางของผู้สูญหาย และภรรยาคือ นางลักษณา กวดแก้ว อายุ 38 ปี เดินทางมายื่นหนังสือขอความเป็นธรรมให้เร่งรัดคดี ต่อ พล.ต.ต.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บังคับการกองทะเบียนประวัติอาชญากร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ด้วย


หลังจากครอบครัวและญาติของ นางสุมาลี แสงเดือน ผู้สูญหาย อายุ 48 ปี ในขณะนั้นเมื่อ 4 ปีที่แล้ว ปัจจุบันอายุ 52 ปี อยู่บ้านหมื่นไชย (ไม่ทราบเลขที่) ต.กระเทียม อ.สังขะ จ.สุรินทร์ หายตัวไปเมื่อวันที่ 12 พ.ย. 2558 พบเพียงรถยนต์กระบะของผู้สูญหาย ยี่ห้อนิสสัน ฟรอนเทียร์ สีบรอนซ์เงิน หมายเลขทะเบียน บย 4384 บุรีรัมย์ ถูกจอดทิ้งไว้กลางทุ่งนา มีรอยคราบเลือดภายในรถ แต่ไม่พบตัว เกรงจะเกิดอาชญากรรม และมีการแจ้งตำรวจตั้งแต่เกิดเหตุแต่ยังไม่มีความคืบหน้า และยังเป็นคดีคนหายรายสำคัญที่ สตช. โดย พล.ต.ต.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บังคับการกองทะเบียนประวัติอาชญากร สตช. ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการบริหารจัดการคนหายและศพนิรนาม สตช. (ศูนย์คนหายตำรวจ)

พล.ต.ต.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บังคับการกองทะเบียนประวัติอาชญากร สตช. กล่าวว่า ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ให้ความสำคัญในเรื่องของผู้สูญหายเป็นอย่างมาก และการติดตามหาคนหายต้องมีการติดตามอย่างไม่ลดละ จนกว่าจะพบสาเหตุหรือคนหายเท่านั้นถึงจะมีการยุติ ในระหว่างดำเนินการจะไม่มีการยุติอย่างแน่นอน เรื่องของนางสุมาลี แสงเดือน ที่หายตัวไปเมื่อปี 2558 ทางญาติได้ยื่นหนังสือให้ติดตามหา ทางผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ได้สั่งการให้พลตำรวจโท วิเชียร สัตตะวิริยะ ผู้บัญชาการตำรวจพิสูจน์หลักฐาน ได้กำกับดูแล

วันนี้ส่วนของกองทะเบียนประวัติอาชญากรได้ประสานตำรวจภูธรภาค 3 ในการเข้าดูแลเรื่องนี้ ซึ่งหลังจากนี้จะมีการยกระดับในการดำเนินการ สำนักงานตำรวจแห่งชาติโดยศูนย์ค้นหายผู้สูญหาย และตำรวจภูธรภาค 3 ตำรวจภูธรจังหวัดสุรินทร์ จะได้บูรณาการกันในการสืบสวนติดตามอย่างเข้มข้น ที่ผ่านมาตำรวจภูธรเมืองสุรินทร์ก็ได้ดำเนินการอย่างต่อเนื่อง แต่ยังมีอีกหลายประเด็นที่จะต้องช่วยกันเพิ่มเติมได้


ในขณะเดียวกัน เรื่องของคนหาย ทางกระทรวงยุติธรรม ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม นายสมศักดิ์ เทพสุทิน ได้ยกระดับความสำคัญ พร้อมมอบหมายให้ยุติธรรมจังหวัดเข้ามาดูแลในเรื่องการดูแลฟื้นฟู เยี่ยมเยือนครอบครัวผู้สูญหายด้วย ยืนยันการติดตามผู้สูญหายจะดำเนินการตามนโยบายสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะติดตามค้นหาอย่างไม่ลดละ เพื่อให้กลับบ้านให้ได้ พล.ต.ต.ไตรรงค์ ผิวพรรณ กล่าว

นายปราโมทย์ หอมดอกพุท ลูกชายของผู้สูญหาย กล่าวว่า เหตุเกิดเมื่อปี 58 เดือนพฤศจิกายน คือน้องติดต่อแม่ไม่ได้ เลยโทรศัพท์มาบอกตน พอประมาณสิ้นเดือนตนตัดสินใจมาหาแม่ที่ห้องพักก็ไม่เจอ เจอเพื่อนของแม่ บอกว่าหายไปตั้งแต่วันที่ 11-12 พ.ย. 2558 ตอนกลางคืน คือออกไปแล้วไม่กลับมาอีกเลย ส่วนรถที่แม่ขับตนมาเจอที่โรงพัก สภ.เมืองสุรินทร์ วันที่มาแจ้งความคนหายวันที่ 30 พฤศจิกายน 2558 คือก่อนหน้านั้นมีคนไปเจอรถตกอยู่ทุ่งนาแล้ว และตำรวจได้นำมาเก็บรักษาไว้ที่โรงพัก และไม่พบทรัพย์สินภายในรถ คือตอนนี้ขอให้พบแม่จะพบแบบไหนก็ได้เพราะว่ามันนานมากแล้ว

นายเอกลักษณ์ หลุ่มชมแข หัวหน้าศูนย์คนหาย มูลนิธิกระจกเงา เปิดเผยทางโทรศัพท์ว่า เมื่อช่วงเที่ยงของวันเดียวกันนี้ พล.ต.ต.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บังคับการกองทะเบียนประวัติอาชญากร ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทั่วประเทศที่พบศพนิรนาม และมีการตรวจเก็บดีเอ็นเอไว้เพื่อนำมาเปรียบเทียบกับดีเอ็นเอของญาติผู้สูญหาย จึงพบว่าตรงกันกับศพหญิงนิรนามรายหนึ่ง หน้าตาดี ถูกฆ่ารัดคอ มีบาดแผลที่ใบหน้า อยู่ในพื้นที่ สภ.ท่าตูม ต.ท่าตูม อ.เมือง จ.มหาสารคาม เมื่อวันที่ 13 พ.ย. 2558 ที่ผ่านมา พร้อมกับนำภาพผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุส่งมาให้บุตรชายดู และได้รับการยืนยันว่าเป็นแม่ของตนเองที่สูญหายไปจริง

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่จะได้ประสานงานเพื่อนำศพที่พบดังกล่าวไปตรวจพิสูจน์ความชัดเจนอีกครั้งที่ สถาบันนิติเวช และอยู่ระหว่างการดำเนินการประสานงานว่าศพถูกฝังไว้ที่ใด หากมีความชัดเจนครอบครัวและญาติพี่น้องจะได้นำศพกลับมาบำเพ็ญกุศลตามประเพณีต่อไป

ส่วนในเรื่องคดีฆาตกรรม เจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้เร่งดำเนินการสืบสวนสอบสวนติดตามจับกุมผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีต่อไป และยังไม่ขอเปิดเผยรายละเอียด แต่ยืนยันว่าจะเร่งคลี่คลายคดีนี้ให้เร็วที่สุด






กำลังโหลดความคิดเห็น