บุรีรัมย์ - เจ้าของ รร.ดังบุรีรัมย์แฉ เจ้าบ่าวหมื่นล้านกำมะลอติดต่อเช่าสถานที่และอาหารโรงแรมพร้อมจ้างออร์แกไนซ์จาก กทม.จัดงานแต่งสุดหรูหราอลังการแต่ไม่จ่ายค่ามัดจำ อ้างรอเงินจากหุ้นส่วนธุรกิจเครื่องบินเช่าเหมาลำไทย-ฮ่องกง เสร็จงานกลับเบี้ยวไม่จ่าย 4 แสนติดต่อไม่ได้ มีเพียงเจ้าสาวมาร้องขอผ่อนชำระ
วันนี้ (2 ต.ค.) จากกรณีที่ น.ส.ดา (นามสมมติ) อายุ 30 ปี พริตตี้สาวชาว จ.บุรีรัมย์ เข้าร้องขอความเป็นธรรมต่อ ทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม ว่าถูกนายนัท (นามสมมติ) อ้างว่าเป็นเสี่ยหมื่นล้าน หลอกให้แต่งงาน จดทะเบียนสมรส โดยมีการจัดงานแต่งใหญ่โตที่โรงแรมหรูแห่งหนึ่งใน จ.บุรีรัมย์ มีการจ้างออร์แกไนซ์ มีค่าใช้จ่ายต่างๆ ในการจัดงานรวมกว่า 3.5 ล้านบาท จากนั้นเบี้ยวไม่จ่ายเงินค่าจัดงานทำให้ฝ่ายหญิงต้องมารับผิดชอบนั้น
ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้ไปสอบถามกรณีดังกล่าวจาก นายวสันต์ เทพนคร เจ้าของโรงแรมอัลวาเรซ ซึ่งเป็นโรงแรมชื่อดังของจังหวัดบุรีรัมย์ เปิดเผยว่า ทางโรงแรมได้รับจัดงานแต่งให้แก่คู่บ่าวสาวดังกล่าวจริง โดยทั้งเจ้าบ่าวและเจ้าสาวได้มาติดต่อกับพนักงานฝ่ายขายของทางโรงแรมว่าจะจัดงานแต่งงานในวันที่ 10 พ.ค. 2562 โดยฝ่ายเจ้าบ่าวบอกว่าตัวเองทำธุรกิจเกี่ยวกับเครื่องบินเช่าเหมาลำไทย-ฮ่องกง แต่ไม่ได้จ่ายเงินมัดจำอ้างว่ารอเงินจากหุ้นส่วนที่จะโอนมาให้ เสร็จงานแล้วจะเคลียร์ให้ พนักงานฝ่ายขายจึงหลงเชื่อตกลงจัดสถานที่และอาหารให้งบประมาณทั้งหมดกว่า 400,000 บาท
ส่วนออร์แกไนซ์ เพื่อนเจ้าบ่าว เพื่อนเจ้าสาว ดนตรี และดอกไม้ในการจัดงานก็จัดหามาจากกรุงเทพฯทั้งหมด ซึ่งยอมรับว่าเป็นงานแต่งที่หรูหราอลังการงานหนึ่ง ซึ่งคนมีฐานะจึงจะจัดงานใหญ่ๆ แบบนี้ได้ แต่ไม่เอะใจว่าจะมีปัญหา
กระทั่งเสร็จงานพนักงานไปสอบถามค่าสถานที่และอาหารจัดงานจากทางเจ้าบ่าวหลายครั้ง แต่บ่ายเบี่ยง กระทั่งปิดโทรศัพท์หนีติดต่อไม่ได้ พนักงานจึงได้ติดต่อไปทางฝ่ายเจ้าสาว จึงได้ทราบปัญหาที่เกิดขึ้น จากนั้นเจ้าสาวพาแม่มาพูดคุยที่โรงแรมขอร้องไม่ให้เอาเรื่อง โดยรับปากว่าจะผ่อนจ่ายค่าเช่าสถานที่และอาหารในการจัดงาน ด้วยความเห็นใจและสงสารจึงยอมให้ผ่อนชำระ จากนั้นทางเจ้าสาวก็นำเงินมาจ่ายให้ก่อนเบื้องต้นจำนวน 80,000 บาท ส่วนที่เหลืออีกกว่า 300,000 บาทบอกว่าจะทยอยหามาจ่ายให้จนครบ
นายวสันต์ยังบอกอีกว่า ปกติการรับจัดงานทางโรงแรมจะขอเก็บเงินมัดจำก่อนครึ่งหนึ่ง หลังเสร็จงานก็จ่ายอีกครึ่งหนึ่ง ซึ่งที่ผ่านมาไม่เคยมีปัญหาอะไร ไม่คิดว่าจะมาเจอกรณีแบบนี้ ซึ่งหลังจากนี้ได้กำชับพนักงานให้รอบคอบมากขึ้นเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ในลักษณะนี้อีก ส่วนตัวอยากฝากถึงฝ่ายเจ้าบ่าวน่าจะออกมาแสดงความรับผิดชอบบ้าง
