ประจวบคีรีขันธ์ - กรมนักเรียน โรงเรียนนายสิบทหารบก จัดพิธีแสดงความชื่นชมให้แก่นักเรียน 5 นาย ที่มีจิตอาสาเข้าช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุรถชน ในพื้นที่อำเภอชะอำ อย่างกล้าหาญ จนเป็นที่ชื่นชมในโลกโซเชียล พร้อมเปิดใจ เมื่อเห็นอุบัติเหตุต่างก็พร้อมใจเข้าช่วยเหลืออย่างเต็มกำลังทันที
วันนี้ (2 ต.ค.) ที่กองบังคับการ กรมนักเรียน โรงเรียนนายสิบทหารบก อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พ.อ.จะเด็จ เถื่อนทอง ผู้บังคับการกรมนักเรียนโรงเรียนนายสิบทหารบก เป็นประธานในพิธีแสดงความชื่นชม และมอบของที่ระลึกให้แก่นักเรียนนายสิบ รุ่นที่ 23 จำนวน 5 นาย ที่มีจิตอาสา ไม่เพิกเฉยต่อความเดือดร้อนของประชาชน ในกรณีหยุดรถและให้การช่วยเหลือประชาชนที่ประสบอุบัติเหตุรถชนตกลงข้างทาง ที่ อ.ชะอำ จังหวัดเพชรบุรี เมื่อวันที่ 29 ก.ย.ที่ผ่านมา ได้แก่ นักเรียนนายสิบอนุสรณ์ บุญประสพ นักเรียนนายสิบอนุวัฒน์ สารจุม นักเรียนนายสิบอนาวิณ สวาสดิ์เพ็ชร นักเรียนนายสิบสิทธิชัย เพ็ชรรัตน์ และนักเรียนนายสิบสุกฤษ แก้วลอย
พร้อมกันนี้ ผู้บังคับการกรมนักเรียนโรงเรียนนายสิบทหารบก ได้กล่าวให้โอวาท ขอให้ยึดมั่นในการทำความดี มีจิตสำนึกในการแสดงออกต่อประชาชน รวมทั้งยึดมั่นทำความดี ตามโครงการ “ออกนอกโรงเรียนต้องทำความดีและเสียสละต่อส่วนร่วม”
ด้าน พ.อ.มานพ น่วมบัว ผู้บัญชาการโรงเรียนนายสิบทหารบก ได้อนุญาตให้ผู้สื่อข่าวได้พูดคุยกับนักเรียนนายสิบทั้ง 5 นาย โดยนักเรียนทั้ง 5 นาย เป็นนักเรียนนายสิบรุ่นที่ 23 เข้ารับการฝึกตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2562 มีกำหนดจบหลักสูตร วันที่ 30 เมษายน 2563 ได้ลาพักกลับบ้านเป็นระยะเวลา 10 วัน มีกำหนดกลับเข้าหน่วยในวันที่ 29 กันยายน 2562
นักเรียนนายสิบอนุสรณ์ บุญประสพ กล่าวว่า ในวันที่ 29 กันยายน 2562 ได้นัดเจอเพื่อนๆ อีก 4 คน เพื่อเดินทางกลับเข้าหน่วยพร้อมกัน โดยเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวของพี่สาว ทั้งหมดออกเดินทางจากกรุงเทพมหานคร ตั้งแต่เวลา 10.00 น. มาถึงที่เกิดเหตุบริเวณจุดกลับรถ ฝั่งตรงข้ามโรงแรมชะอำฟิชชิ่งอินน์ ถนนเพชรเกษมขาลงใต้ ต.เขาใหญ่ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี พบว่ามีอุบัติเหตุรถเก๋งเฉี่ยวชนกับรถเก๋งตกลงไปในคูน้ำข้างทาง มีผู้ได้รับบาดเจ็บติดภายในรถหลายราย จึงได้ให้พี่สาวหยุดรถเพื่อช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ทั้งหมดต่างรีบลงไปในคูน้ำเข้าช่วยเหลือและปฐมพยาบาลเบื้องต้นผู้ได้รับบาดเจ็บที่ติดอยู่ภายในรถ จำนวน 4 ราย ออกมาได้อย่างปลอดภัยทั้งหมด พร้อมทั้งโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ 1669 เพื่อมาช่วยเหลือ
ทันทีที่เห็นว่ามีอุบัติเหตุข้างหน้า ทุกคนต่างพร้อมใจกันถอดเสื้อสูทตัวนอกออก และลงไปช่วยเหลือผู้บาดเจ็บทันที ไม่คำนึงถึงความสกปรกของเครื่องแบบ เนื่องจากรถยนต์คันที่ตกลงไปในคูน้ำ กระจกแตก น้ำกำลังค่อยๆ ทะลักเข้า หากปล่อยไว้คนในรถอาจจะเป็นอันตรายถึงชีวิต ประกอบกับตนเองและเพื่อนๆ เคยเรียนหลักสูตรการปฐมพยาบาล และการช่วยเหลือผู้ประสบภัยเบื้องต้น จึงประเมินสถานการณ์ได้ว่า พวกตนสามารถช่วยเหลือผู้บาดเจ็บทั้ง 4 รายได้ก่อน รวมทั้งหากปล่อยไว้อาจจะเกิดอุบัติเหตุซ้ำซ้อนขึ้นมาอีก
ด้วยจิตวิญญาณแห่งการเป็นทหารของประชาชน นักเรียนนายสิบทั้ง 5 นาย ต่างเข้าช่วยเหลือในส่วนต่างๆ อย่างเต็มที่ ทั้งการขนสัมภาระออกจากรถเพื่อนำผู้บาดเจ็บ ซึ่งเป็นชาวต่างชาติและคนไทยออกมาทีละราย แจ้งเหตุหน่วยกู้ชีพ 1669 เพื่อนำคนเจ็บส่งโรงพยาบาล รวมทั้งโทรศัพท์แจ้งหัวหน้าหน่วย เพื่อขออนุญาตกลับเข้าโรงเรียนด้วยชุดที่ผิดระเบียบ เนื่องจากเครื่องแบบของตนและเพื่อนต่างก็เลอะเทอะเต็มไปด้วยโคลนและเปียกน้ำ เมื่อผู้บังคับบัญชาทราบเรื่องว่าทั้ง 5 นาย ได้เข้าไปช่วยเหลือผู้ประสบอุบัติเหตุก็อนุญาตให้เปลี่ยนชุดเป็นชุดฝึกกลับเข้าโรงเรียนได้
ภายหลังจากนักเรียนโรงเรียนนายสิบทหารบก ช่วยผู้บาดเจ็บทั้ง 4 คน รถพยาบาลมารับตัวผู้บาดเจ็บไปส่งโรงพยาบาลเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทั้งหมดก็ออกเดินทางกลับเข้าหน่วย ไม่ทราบว่าในช่วงชุลมุนช่วยคนเจ็บ พี่สาวได้หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาถ่ายรูป และมีชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ถ่ายคลิปวิดีโอ และนำมาแชร์ต่อจนเป็นที่ชื่นชมในโลกโซเชียลอย่างมาก กลับมาแล้วก็มาทราบจากผู้บังคับบัญชาว่าในสื่อสังคมออนไลน์มีการชื่นชมกันเป็นจำนวนมาก รู้สึกดีใจ ภาคภูมิใจที่ได้ใช้วิชาความรู้ช่วยชีวิตประชาชนให้ปลอดภัย โดยในวันนั้น ชาวต่างชาติที่ได้รับบาดเจ็บได้กล่าวขอบคุณเป็นภาษาไทยด้วย
พ.ท.ประเสริฐศักดิ์ แก้วคำ ผู้บังคับกองพันนักเรียนนายสิบที่ 3 กล่าวว่า โรงเรียนนายสิบทหารบก ถือเป็นสถาบันต้นน้ำที่หล่อหลอมนักเรียนนายสิบทหารบกให้มีความรู้ มีอุดมการณ์ทางทหาร ครั้งนี้ถือเป็นสิ่งที่นักเรียนนายสิบทั้ง 5 นายได้ปฏิบัติ ถือเป็นผลผลิตที่พิสูจน์ได้ชัดเจนว่าสิ่งที่ผู้บังคับบัญชา และครูฝึกช่วยกันอบรมสั่งสอนประสบความสำเร็จ และจะต้องปลูกฝังกันไปเรื่อยๆ
