นครปฐม- เป็นเรื่อง เจ้าของหมาโพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก ก่อนข้าแจ้งความเอาผิดจิตอาสาเปิดประตูน้ำที่เจ้าของสุนัขร้องขอให้เปิดเพื่อใช้เป็นเส้นทางสัญจร เป็นเหตุทำให้สุนัขที่ใส่เรือไว้ 4 ตัว ตาย เพราะเรือล่ม ด้านอีกฝั่งโต้มาเปิดประตูน้ำพร้อมเตือนแล้วว่าน้ำแรง ตำรวจเรียกไกล่เกลี่ยแต่ยังไม่ลงตัว
วันนี้ (1 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานจากกรณีมีผู้โพสต์ข้อความในสังคมออนไลน์ ที่ใช้ชื่อว่า Iwhile Breathe Ihope ได้มีการโพสต์ข้อความว่า “#ขอความยุติธรรมให้กับผมด้วยครับ ขอให้เข้าใจคนรักหมาด้วย คนทำปัดความรับผิดชอบ!!! ความเสียใจที่ไม่มีวันหวนคืน ปอมๆ 4 ตัว จมน้ำตายผมขอเล่าเหตุการณ์ก่อนนะครับ!!
ผมกับแฟน รักหมามากรักเหมือนลูก ให้คลิปเล่าเองแล้วกันว่ารักมากแค่ไหน!! เหตุเกิดตอน 3 ทุ่มกว่า แถวๆ วัดทรงคนอง คือเอาหมาไปฝากเลี้ยง แล้วกำลังจะกลับบ้านบอกก่อนนะครับว่า บ้านของผมต้องนั่งเรือไปอย่างเดียว รถเข้าไม่ได้ ทุกคนคงรู้จักประตูกั้นน้ำตามคลองต่างๆ เหตุเกิดที่ว่า เรือจอดอยู่ด้านในแล้วผมจะออก เลยบอกให้คนคุมประตูน้ำมาเปิด พอเค้ามาเค้าก็เปิดครับ
โดยที่ไม่ดูเลยว่าระดับน้ำข้างในกับข้างนอกมันต่างกัน อีกซ้ำยังพูดว่าให้รีบๆหน่อยเดี๋ยวน้ำเข้าสวน ด้วยความที่เค้าเร่งๆ ผมก็เลยรีบๆ เอาหมาลงเพราะพอเค้าเปิดจะได้รีบออก พอเปิดแค่นั้นล่ะครับ น้ำทะลักมาเหมือนน้ำตามเขื่อนที่โดนขังแล้วถูกเปิดออก ผมอยู่ในเรือซึ่งว่ายน้ำไม่เป็นกับหมาปอมๆ 4 ตัวที่อยู่ในกรง ถูกกระแสน้ำพัดคว่ำกันไปหมด แฟนผมเห็นท่าไม่ดีเลยกระโดดไปช่วย ทุลักทุเลกันอยู่ 2 คน
แฟนผมตะโกนให้ปิดประตู เค้าก็ปิดนะครับ แต่คือคุณเห็นคนตกน้ำ เห็นเรือคว่ำ คุณยืนดูเฉยๆ ไม่มีการช่วยเหลือแต่อย่างใด แฟนผมโทรหาคนมาช่วยงมหมาที่อยู่ในกรง 4 ตัว คิดดูสิครับว่ามันทรมานขนาดไหนกว่าจะตาย เราหากันอยู่ 2 ชม. กว่าจะหาหมาเจอ ภาพสลดก็เกิดขึ้น หมาจมน้ำตายหมด #ขอความเห็นใจทุกคนช่วยแชร์หน่อยนะครับ หาความยุติธรรมให้ผมด้วยครับที่สูญเสียน้องหมาไป ปอมๆ 4ตัว”
ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปพบกับ นายนฤเบศ ดิษฐีพร ผู้ที่โพสต์ข้อความดังกล่าว ซึ่งอยู่กับ น.ส.สาวิตรี ปู่จุ้ย แฟนสาว ที่บ้านเลขที่ 53 ม.5 ต.ทรงคนอง อ.สามพราน จ.นครปฐม ซึ่งเป็นที่เกิดเหตุ โดยพบว่าทั้งคู่ได้อาศัยอยู่ในบริเวณจุดที่เกิดเหตุ ซึ่งบอกว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืนวันที่ 30 กันยายน 62 ที่ผ่านมา ทำให้สุนัข ปอมเมอเรเนียน ที่เลี้ยงไว้ตายหมดทั้ง 4 ตัว
น.ส.สาวิตรี ปู่จุ้ย กล่าวว่า จะต้องเข้าออกโดยการให้คนมาเปิดประตูน้ำให้ทุกครั้ง วันหนึ่ง 5-6 รอบต่อวัน ซึ่งช่วงก่อนเกิดเหตุ เวลาประมาณ 17.00 น. ของวันที่ 30 ก.ย. ตนเองได้อยู่บ้านและเห็นว่าน้ำในแม่น้ำท่าจีนนั้นยังเสมอกับน้ำในคลองที่เชื่อมกับแม่น้ำ ที่มีประตูน้ำกั้นเอาไว้ ที่ ม.4 ต.ทรงคนอง
ต่อมาเวลา 21.00 น. ตนเองจะออกไปข้างนอกซึ่งทางเข้าออกบ้านนั้นไม่มีถนนและจำเป็นจะต้องใช้เรือออกไป จึงได้ให้แฟนคือนายนฤเบศ จับหมาปอมเปอเรเนียน ใส่กรงไว้ 4 ตัวแล้วเอาขึ้นมาบนเรือที่ใช้ประจำ แต่พบว่าประตูน้ำได้ปิดแล้ว จึงได้เดินไปตาม นายนายนที สุดประเสริฐ สมาชิก อบต.ม.4 ต.ทรงคนอง ซึ่งจะทำหน้าที่เป็นคนคอยเปิดปิดประตูน้ำ ซึ่งได้เดินมาเปิดแบบรีบเร่ง ซึ่งขณะนั้นแม่ของตนเองก็เห็นว่าน้ำในแม่น้ำสูงกว่าในคลอง ซึ่งคนเปิดประตูก็ไม่ได้แจ้งบอกว่าน้ำจะทะลักเข้ามา เมื่อเขาเปิดแม่ได้ตะโกนบอกว่าระวังน้ำจะไหลทะลักเข้ามา และเมื่อเปิดประตูน้ำก็ได้ไหลมาอย่างรวดเร็ว
น.ส.สาวิตรี กล่าวอีกว่า ขณะนั้นตนเองได้ตะโกนบอกกับนายนที ไปว่าให้ปิดประตูน้ำ แต่เขาก็ไม่ปิด และยืมมองน้ำไหลทะลักเข้ามาจนพัดเรือปลิวไปไกลกว่า 10 เมตร และทำให้เรือจมลง โดยที่กรงใส่หมา 4 ตัว ได้จมลงไปเช่นกัน ตนเองได้ตะโกนบอกไปว่า ให้นายนที ลงมาช่วยกัน เพราะแฟนว่ายน้ำไม่เป็น แต่นายนที ก็ยืนมองเฉยๆ และไม่ช่วยเหลือ ตนเองจึงต้องกระโดดลงไปช่วย ซึ่งกรงของสุนัขดึงไม่ขึ้นต้องรีบโทรศัพท์ให้หลานมาช่วยกันงม และเมื่อเอาขึ้นมาก็พบเป็นภาพตามในคลิบวิดิโอที่เห็น
หลังจากมีการโพสต์คลิปไปแล้ว วันนี้ได้เดินทางไปแจ้งความเอาผิดต่อนายนที เพื่อจะให้ดำเนินคดีถึงที่สุด เพราะตนเองเสียใจกลัวสุนัขทั้ง 4 ตัวจะตายฟรี และขอความเป็นธรรมให้แก่สุนัขทั้ง 4 ตัว โดยจะเรียกค่าเสียหายเอาเฉพาะตัวแม่ที่ตาย ที่ซื้อมา 1.5 หมื่นบาท และยังสงสัยว่าทำไม่รู้ว่าน้ำสูงแล้วยังเปิดประตูน้ำและเมื่อเกิดเหตุแล้วยังไม่ช่วย ซึ่งร้อยเวรได้มาคุยเพื่อให้มีการเจรจาเรื่องการชดใช้ค่าเสียหายแต่ยังไม่ลงตัว ซึ่งยังไม่รู้ว่าจะต้องไปฟ้องศาลเอาความผิดต่อไปหรือไม่
ขณะที่ นายสุวิทย์ ฤทธิ์คำ รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบลทรงคนอง ให้ความเห็นว่า เรื่องดังกล่าวตนเองได้เห็นในโลกโซเชียลและทราบว่ามีการแจ้งความกันไปแล้ว ซึ่งปกติประตูน้ำดังกล่าวก่อสร้างจากกรมเจ้าท่า และยกให้ อบต.ทรงคนอง มาดูแล ซึ่งที่ผ่านมา ใช้เปิดปิดสำหรับการเกษตรหรือการกำหนดระดับและกักเก็บน้ำ และทาง อบต.ไม่เคยมีการตั้งเจ้าหน้าที่มาดูแลโดยตรงแต่เป็นงานจิตอาสา ซึ่ง นายนที เป็นสมาชิก อบต.ม.4 จะทำหน้าที่อาสาดูแลให้ โดยตนเองมองเหตุการณ์ว่าเรื่องนี้น่าเห็นใจนายนที เพราะถูกเรียกไปกลางดึกเพื่อให้เปิดประตูน้ำให้ แต่กลับมาถูกแจ้งความแบบนี้ ไม่สมเหตุสมผล ซึ่งเรื่องนี้น่าจะมีการเจรจากันให้ชัด ซึ่งผู้เสียหายใช้โซเชียลอ้างมาด้านเดียวก็ดูจะไม่เป็นธรรมนัก และยังจะมีการเรียกร้องค่าเสียหาย ยิ่งดูไม่เหมาะสม
ขณะที่ นายนที สุดประเสริฐ จิตอาสา และเป็นสมาชิก อบต.ม.4 บอกว่าเรื่องดังกล่าว เป็นเวลาประมาณ 3 ทุ่ม ซึ่งตนเองนอนในบ้านพัก น้องผู้หญิงมาบอกให้ช่วยเปิดประตูน้ำ ซึ่งปกติตนเองจะมีไฟฉายมาด้วยเพื่อส่องดูให้เห็นแต่เมื่อรีบออกมาได้บอกไปว่าระดับน้ำในแม่น้ำสูงกว่าในคลองแล้ว เขาบอกให้เปิดเมื่อเปิดแล้วน้ำมันไหลทะลักเข้ามา ทางผมได้ยินเสียงว่าให้ปิดประตูน้ำ จึงได้รีบเดินไปปิด แต่ประตูน้ำมันมีน้ำหนักและมีแรงทดมาก การปิดไม่สามารถทำได้รวดเร็ว
จากนั้นไม่ได้ยินสียงตะโกนว่า หมาจมน้ำและมองไม่เห็นว่าด้านในมันมืดมากและมีต้นไม้ใหญ่มาบังจึงมองไม่เห็นเหตุการณ์ ซึ่งตอนแรกบอกไปแล้วว่าถ้าจะออกเข้าจะต้องติดเครื่องเรือเอาไว้เลย พอประตูเปิดก็ให้รีบเร่งเครื่องออกไปเพราะถ้าน้ำไหลเข้าทะลักไปในคลองเยอะแล้วน้ำท่วม ชาวบ้านเดือดร้อนตนเองก็ต้องไปเสียค่าทำขวัญหรือค่าเสียหายให้คนในสวนถ้าเขาเสียหายจากน้ำทะลัก และขอยืนยันว่าได้บอกไปแล้วว่าระดับน้ำสูงแต่มันมืดบอกไม่ได้ว่าสูงกว่ากันเท่าไหร่
ซึ่งขณะนี้การตกลงของทั้ง 2 ฝ่ายยังไม่ลงตัวและยังรอให้มีการเจรจากันอีกครั้งเพื่อหาทางออกในเรื่องนี้ หากยังไม่ได้ก็อาจจะต้องไปจบกันที่ศาลอีกครั้งหนึ่ง
