ฉะเชิงเทรา- ผู้ปกครองเด็กอนุบาลวัย 4 ปีข้องใจกระบวนสอบหาข้อเท็จจริงเหตุลูกถูกครูทำร้าย หลังศึกษาธิการจังหวัดฉะเชิงเทรา ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงแต่กลับไม่มีอะไรคืบหน้าหวั่นไม่โปร่งใส
วันนี้ ( 27 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีที่ผู้ปกครองเด็กหญิงวัย 4 ปี นักเรียนโรงเรียนอนุบาลเอกชนชื่อดังเมืองแปดริ้ว ที่ได้ร้องเรียนต่อสื่อมวลชนเพื่อเรียกร้องให้ผู้บริหารโรงเรียนออกมาแสดงความรับผิดชอบหลังเกิดเหตุครูผู้ช่วยสอนทำร้ายบุตรสาวด้วยการตบหน้าถึง 2 ครั้ง เมื่อวันที่ 27 ส.ค. และวันที่ 9 ก.ย.ที่ผ่านมา จนใบหน้าและขอบตาบวมแดง เหตุเพราะไม่พอใจที่บุตรสาวนำเรื่องถูกเพื่อนกลั่นแกล้งมาฟ้อง ซึ่งที่ผ่านมาเคยขอความเป็นธรรมต่อผู้บริหารโรงเรียนแต่กลับเงียบเฉย และท้าทายให้เข้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ
และเมื่อวันที่ 25 ก.ย.ที่ผ่านมา นายตั้ง อสิพงษ์ ศึกษาธิการจังหวัดฉะเชิงเทรา พร้อมด้วย นายเชาว์ จันทนา ผู้อำนวยการกลุ่มส่งเสริมการศึกษาเอกชน สำนักงานศึกษาธิการจังหวัด ได้ออกมาเปิดเผยกับสื่อมวลชนว่า รองผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา ได้กำชับให้ตรวจสอบข้อเท็จจริง จึงต้องลงพื้นที่ตรวจสอบรายละเอียดที่โรงเรียนจุดเกิดเหตุในวันที่ 26 ก.ย.ที่ผ่านมานั้น
ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก นายบุญเลิศ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 46 ปี บิดาของเด็กนักเรียนหญิงวัย 4 ปีว่าเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ตนเองและ น.ส.ณัฐภัสสร อายุ 36 ปีภรรยา รวมทั้งบุตรสาววัย 4 ขวบ ได้เดินทางไปเข้าพบ นายตั้ง อสิพงษ์ ศึกษาธิการจังหวัดฉะเชิงเทรา หลังจากได้รับการประสานงานเพื่อให้เข้าพูดคุยและให้ข้อมูลต่อเจ้าหน้าที่ เกี่ยวกับเหตุการณ์ทำร้ายบุตรสาวที่เกิดขึ้นในห้องเรียน ซึ่งการพูดคุยใช้เวลานานกว่า 2 ชั่วดมงแต่กลับไม่มีความคืบหน้าในการดำเนินการใดๆ กับครูผู้กระทำความผิด
และยังไม่มีการจดบันทึกการให้ข้อมูลในลักษณะลายลักษณ์อักษร แต่กลับเป็นเรียกเข้าไปให้ข้อมูลด้วยวาจาแบบปากเปล่าเท่านั้น ทำให้ตนมองว่าจุดประสงค์ในการเรียกเข้า พบก็เพื่อให้ครบองค์ประกอบว่า ศึกษาธิการจังหวัด ได้เรียกผู้เกี่ยวข้องทั้ง 2 ฝ่ายเข้าให้ข้อมูลและได้ให้ความเป็นธรรมแล้วเท่านั้น
“ที่อยากถามไปยังศึกษาธิการจังหวัดก็คือ เมื่อช่วงบ่ายวานนี้ที่ได้มีการนำคณะลงพื้นที่ไปยังโรงเรียนที่เกิดเหตุนั้น ได้อะไรมาบ้างและมีความคืบหน้าเป็นอย่างไร ซึ่งทางศึกษาธิการระบุเพียงว่าทางโรงเรียน ยังคงยืนยันตามข้อมูลการสอบสวนเดิมของคณะกรรมการว่าครูผู้ก่อเหตุทำร้ายร่างกายบุตรสาวนั้น ไม่ได้มีกระทำความผิด จึงเท่ากับว่า การลงพื้นที่ไปดูจุดเกิดเหตุไม่มีความคืบหน้าอะไรเลย”
ขณะที่ศึกษาธิการจังหวัด ยังระบุว่าการดำเนินการสอบสวนเรื่องที่เกิดขึ้น ทางโรงเรียนมีอำนาจตามระเบียบที่กำหนดขึ้นเอง ตาม พ.ร.บ.โรงเรียนเอกชน พ.ศ.2550 แก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ.2554 โดยที่โรงเรียนเอกชนสามารถกำหนดระเบียบหลักเกณฑ์ได้เองทั้งหมด โดยที่ศึกษาธิการจังหวัดไม่มีอำนาจอะไรที่จะเข้าไปดำเนินการ
นายบุญเลิศ ยังเผยอีกว่าการลงพื้นที่โรงเรียนที่เกิดเหตุของศึกษาธิการจังหวัดฉะเชิงเทราเมื่อวานนี้ เป็นช่วงปิดภาคเรียนจึงเป็นแค่การพบเพียงครูผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง 3 คนเท่านั้น ทำให้เกิดความข้องใจและสงสัยในกระบวนการตั้งคณะกรรมการสอบสวนหาข้อเท็จจริงของทโรงเรียนว่า เป็นการทำกันอย่างรวดเร็วและแล้วเสร็จภายในวันเดียวทั้งที่ในห้องเรียนมีเด็กนักเรียนมากถึง 28 คน และยังมีครูผู้เกี่ยวข้องอีกหลายคน กระบวนการสอบสวนที่เกิดขึ้นจึงไม่น่าเชื่อถือ และไม่โปร่งใส
“ และในเวลา 14.30 น. ที่ผ่านมาทางครอบครัวยังได้เดินทางเข้าให้ปากคำต่อ ร.ต.อ.สมศักดิ์ ศรีณรงค์ พนักงานสอบสวนเจ้าของคดี ที่ สภ.เมืองฉะเชิงเทรา ซึ่งก็ได้มีการสอบสวนลูกสาวที่ถูกครูทำร้าย รวมทั้งได้มีการทำบันทึกเในเบื้องต้นแล้ว ” นายบุญเลิศ กล่าว
