เชียงราย - ผู้บริหาร ม.แม่ฟ้าหลวง ประกาศเป้าหมายทศวรรษที่ 3 เดินหน้าเป็นมหาวิทยาลัยระดับโลก-ภูมิภาคลุ่มน้ำโขง หลังก่อตั้งมา 20 ปีเศษ คว้าอันดับ 1 มหาวิทยาลัยไทยตาม THE World University Ranking 2020
วันนี้ (25 ก.ย.) รศ.ดร.วันชัย ศิริชนะ อดีตอธิการบดี ผู้ก่อตั้งมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง (มฟล.), รศ.ดร.ชยาพร วัฒนศิริ อธิการบดี ม.แม่ฟ้าหลวง ได้นำคณาจารย์ เจ้าหน้าที่ และนักศึกษา ร่วมทำบุญตักบาตรพระสงฆ์จำนวน 160 รูป บริเวณลานดาว พร้อมถวายสักการะพระราชานุสาวรีย์สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนี ก่อนที่จะมีการประกอบพิธีกรรมทางศาสนาภายในหอประชุมสมเด็จย่า พิธีถวายผ้าป่าเพื่อทุนการศึกษา และสรุปผลการดำเนินการของ มฟล.ตลอด 1 ปีที่ผ่านมา-มอบประกาศเกียรติคุณและทุนการศึกษาประจำปี 2562
รศ.ดร.ชยาพรกล่าวว่า นับตั้งแต่ มฟล.ได้รับการสถาปนาเป็นมหาวิทยาลัยของรัฐตาม พ.ร.บ.จัดตั้งเมื่อวันที่ 25 ก.ย. 2541 รวมเป็นเวลาเกิน 2 ทศวรรษแล้ว อธิการบดีผู้ก่อตั้งได้นำมหาวิทยาลัยฯสืบสานพระราชปณิธานของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีในการ “ปลูกป่า สร้างคน” มาอย่างต่อเนื่อง พัฒนาจากการเปิดทำการเรียนการสอนเพียง 2 สำนักวิชามาเป็น 17 สำนักวิชา 71 สาขา มีนักศึกษาจำนวน 14,594 คน
ทั้งยังได้รับเลือกให้เป็นมหาวิทยาลัยอันดับ 1 ของประเทศไทยจากการจัดอันดับโดย THE World University Ranking 2020 ที่วางเกณฑ์ว่าต้องเป็นมหาวิทยาลัยที่มีผลงานวิจัยปีละไม่น้อยกว่า 150 เรื่อง รวมแล้วไม่น้อยกว่า 1,000 เรื่อง แต่ทาง มฟล.มีมากกว่า 1,200 เรื่องแล้ว และยังทำให้อยู่ในอันดับที่ 601-800 ของโลกแล้วอีกด้วย
“ในทศวรรษที่ 3 นี้ มหาวิทยาลัยฯ มุ่งจะเป็นผู้นำการศึกษาของอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง และมหาวิทยาลัยในระดับโลกต่อไป”
โดยในปีงบประมาณ 2563 ทาง มฟล.ได้รับการจัดสรรงบประมาณเพื่อการวิจัยอีกจำนวน 71.82 ล้านบาท 113 โครงการ ซึ่งโครงการเด่นๆ คือ ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี หลังจากที่ผ่านมาเคยมีการวิจัยเชื้อรา จนทำให้กลายเป็นแหล่งเก็บรวบรวมสายพันธุ์เชื้อรากว่า 10,000 ตัวอย่าง และเผยแพร่เนื้อหาวิชาการเกี่ยวกับเชื้อราออกไปสู่นานาชาติกว่า 800 เรื่อง และค้นพบตัวอย่างเชื้อราสายพันธุ์ใหม่ได้กว่า 500 สายพันธุ์ด้วย ทำให้ศูนย์ความเป็นเลิศทางด้านการวิจัยเชื้อรา มฟล.ได้รับยกย่องให้เป็นแหล่งเรียนรู้เรื่องเชื้อราเป็นอันดับ 1 ของโลกแล้ว
นอกจากนี้ยังมีศูนย์ศึกษาวิจัยวิจัยและปฏิบัติการเพื่อลดปัญหาการเกิดไฟป่าหมอกควันในประเทศไทย เนื่องจากเชียงราย และภาคเหนือได้รับผลกระทบโดยตรงจากปัญหาฝุ่นละอองและหมอกควันในช่วงต้นปีที่ผ่านมา โดยมีการจัดอบรมอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) เกษตรกร ฯลฯ เพื่อให้ความรู้และส่งเสริมอาชีพโดยทำการเกษตรด้วยการไม่ต้องเผาซึ่งจะทำให้เกิดฝุ่นละอองและหมอกควันอีกต่อไป
อธิการบดี มฟล.กล่าวด้วยว่า ปัจจุบันเชียงรายได้รับเลือกจากรัฐบาลให้เป็น 1 ใน 4 จังหวัดเมืองสมุนไพร ดังนั้น มฟล.จึงมุ่งศึกษาวิจัยเรื่องสมุนไพร โดยร่วมกับกลุ่มเกษตรกรและผู้ประกอบการในการพัฒนาสมุนไพรมาจัดทำเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพได้มาตรฐานสากลด้วย ซึ่งก็จะส่งผลให้เชียงรายเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงสุขภาพได้
ทั้งนี้ ที่ผ่านมา มฟล.ยังเป็นสถานที่เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมทางวิชาการต่างๆ ทั้งระดับนานาชาติและภายในประเทศเป็นประจำ และล่าสุดยังได้เปิดตัวศูนย์การแพทย์ มฟล.ภายในประกอบด้วยโรงพยาบาลศูนยฺการแพทย์ มฟล.โรงพยาบาล มฟล.และศูนย์บริการสุขภาพแบบครบวงจรแห่งภาคเหนือและอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง โดยหวังให้เป็นศูนย์กลางการแพทย์หรือ Medical Education Hub และ Medical Service Hub บริการคนไทยและนานาชาติโดยเฉพาะชาวลุ่มแม่น้ำโขงทั้งไทย พม่า สปป.ลาว เวียดนาม กัมพูชา จีน และสุดท้ายในทศวรรษที่ 3 ของ มฟล.ก็มุ่งสู่การเป็นมหาวิทยาลัยระดับโลกดังกล่าว