ศูนย์ข่าวศรีราชา - นิสิต ป.โท สาขานวัตกรรมการสื่อสารทางการเมือง ม.บูรพา จัดเสวนาวิชาการ กัญชาเสรี : เป็นจริงหรือขายฝัน แลกเปลี่ยนองค์ความรู้ทั้งภาควิชาการ นักการเมือง และประชาชน เชื่อเป็นพืชเศรษฐกิจได้ ด้าน ผอ.รพ.ม.บูรพา ชี้ยังไม่มีผลระบุรักษามะเร็งได้ แต่ช่วยการแพทย์ได้หลายประการ
วันนี้ (24 ก.ย.) นิสิตระดับบัณฑิตศึกษา สาขานวัตกรรมการสื่อสารทางการเมืองและสังคม รุ่นที่ 4 และ 5 ภาควิชานิเทศศาสตร์ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา ได้จัดโครงการเสวนาวิชาการ กัญชาเสรี : เป็นจริงหรือขายฝัน เพื่อเป็นเวทีแลกเปลี่ยนประสบการณ์ผ่านการบรรยาย อภิปราย กับนักวิชาการ กลุ่มองค์กรอิสระ นักกฎหมายสาธารณสุข นักการเมืองผู้เสนอนโยบายเกี่ยวกับกัญชาเสรี กับนิสิต โดยมี รองศาสตราจารย์ ดร.สุกัญญา บูรณเดชาชัย รองอธิการบดีฝ่ายอำนวยการและสื่อสารองค์กร เป็นประธานกล่าวเปิดโครงการ
และมีวิทยากรร่วมเสวนา ประกอบด้วย นายภิญโญ ตั๊นวิเศษ อดีตนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดชลบุรี (สมาชิกพรรคภูมิใจไทย จ.ชลบุรี) นายแพทย์สุริยา โปร่งน้ำใจ ผู้อำนวยการโรงพยาบาล มหาวิทยาลัยบูรพา ผศ.ดร.บุญอยู่ ขอพรประเสริฐ นักวิชาการด้านการรณรงค์ทางสังคม นายเกรียงไกร กางกำจัด ศูนย์ศึกษาและประสานงานด้านสิทธิมนุษยชน ภาคตะวันออก และ ดร.กังวาฬ ฟองแก้ว นักวิจัยระดับนานาชาติทางสังคม
นอกจากนั้น ยังมีจุดประสงค์สำคัญที่การเปิดโอกาสให้บุคลากรของมหาวิทยาลัยบูรพา ตลอดจนนิสิต ประชาชนทั่วไปที่เข้าร่วมเสวนามีความเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องกัญชา ยาเสพติดให้โทษ และการเปิดเสรีกัญชา รวมถึงแนวทางในการปฏิบัติตามกฎหมายเมื่อกัญชาเข้าสู่กระบวนการเสรี ซึ่งบรรยากาศในการเสวนาได้มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับการใช้กัญชาเพื่อประโยชน์ในการใช้ชีวิตประจำวันอย่างกว้างขวาง
นายภิญโญ ตั๊นวิเศษ อดีตนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดชลบุรี (สมาชิกพรรคภูมิใจไทย จ.ชลบุรี) กล่าวว่า พรรคภูมิใจไทย ได้ประกาศนโยบายกัญชาเสรีในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา เพื่อสนับสนุนให้เป็นพืชเศรษฐกิจตัวใหม่และเสริมสร้างความร่ำรวยให้แก่คนไทย โดยพรรคภูมิใจไทย ได้ชี้ให้เห็นผลการศึกษาวิจัยทั่วโลกแล้วว่า กัญชาเป็นพืชสมุนไพร เป็นการแพทย์ทางเลือก รวมทั้งยังได้นำเสนอรูปแบบการปลูกกัญชาในรัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยให้ผู้ที่จะปลูกกัญชาต้องมีการลงทะเบียนและอนุญาตให้ปลูกได้แต่ต้องมีการจ่ายค่าธรรมเนียมต่อต้น
ขณะที่นโยบายกัญชาเสรี ที่จะทำให้กัญชาเป็นพืชเศรษฐกิจ สร้างรายได้ให้แก่ครัวเรือนโดยสามารถปลูกได้ 6 ต้นต่อครัวเรือน จนทำให้ได้รับคะแนนเสียงจากการเลือกตั้งเป็นจำนวนมาก และตนเองในฐานะสมาชิกพรรค ยังคงเดินหน้าสนับสนุนนโยบายดังกล่าว และเห็นว่าการปลูกกัญชาจะสามารถส่งเสริมเศรษฐกิจได้จริง และหากประชาชนต้องการปลูกในจำนวนมาก จะต้องมีการควบคุมและจัดเก็บค่าภาษีการปลูกให้ชัดเจนเพื่อสร้างรายได้ให้แก่รัฐบาลด้วยเช่นกัน
ระบุยังไม่มีผลชี้ชัดรักษามะเร็งได้ แต่ช่วยผู้ป่วยระยะสุดท้ายให้อยากอาหาร
ด้าน นายแพทย์สุริยา โปร่งน้ำใจ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยบูรพา ผู้ซึ่งผ่านหลักสูตรการใช้สารกัญชาทางการแพทย์ เผยว่ากั ญชาที่พบในประเทศไทยเป็นกัญชาสายพันธุ์กระรอก ที่มีค่า THC สูง จึงถือเป็นกัญชาในสายบันเทิง แต่การปลูกกัญชาจะต้องมีการควบคุมเรื่องความชื้นจึงจะต้องเร่งสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องให้แก่ผู้ที่ต้องการจะปลูกกัญชา ที่สำคัญในปัจจุบันยังไม่มีผลการวิจัยใดทางการแพทย์ที่ระบุว่า กัญชา สามารถรักษาโรคมะเร็งได้ เพียงแต่กัญชาสามารถใช้ได้กับผู้ป่วยมะเร็งระยะสุดท้าย เพื่อให้สามารถมีความอยากอาหารมากขึ้นเท่านั้น
อย่างไรก็ดี โรคที่ระบุชัดว่ากัญชาสามารถบำบัดอาการได้คือ โรคสะเก็ดเงิน และโรคลมชักในเด็ก รวมถึงการใช้เพื่อบำบัดภาวะคลื่นไส้อาเจียนจากเคมีบำบัดในการรักษาโรคมะเร็ง ที่สำคัญการใช้น้ำมันกัญชาต้องใช้ในปริมาณที่เหมาะสม ไม่เช่นนั้นจะทำให้เกิดพิษได้ จึงจำเป็นต้องสร้างความเข้าใจด้านผลวิจัยทางการแพทย์ ซึ่งเชื่อว่าหลังจากนี้ไปจะมีผลวิจัยใหม่ๆ ออกมาเผยแพร่เพื่อเป็นความรู้ให้แก่ประชาชนเกี่ยวกับผลสนับสนุนทางการแพทย์เพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน
