พลิกแฟ้มคดี ที่มาคำสั่งประหาร “นวัธ” บุกยิง ‘ปลัด อบจ.’ ถึงหน้าบ้าน

วันนี้ (24 ก.ย.) ศาลจังหวัดขอนแก่นได้ตัดสินประหารชีวิต นายนวัธ เตาะเจริญสุข สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) จ.ขอนแก่น เขต 7 พรรคเพื่อไทย ฐานจ้างวานฆ่าอดีตปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ขอนแก่น ซึ่งเป็นคำพิพากษาของศาลชั้นต้น โดยทนายความเตรียมยื่นขอประกันตัวเพื่อสู้คดีต่อในชั้นอุทธรณ์

คดีดังกล่าวนั้นเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม 2556 คนร้ายใช้อาวุธปืนบุกยิง นายสุชาติ โคตรทุม ปลัด อบจ.ขอนแก่น เสียชีวิตที่บริเวณหน้าบ้านพักของตนเอง ย่านหมู่บ้านจอมพล อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ขณะกำลังขับรถออกจากบ้านไปทำงาน

สำหรับหมู่บ้านดังกล่าวนั้นเป็นแหล่งที่พักอาศัยของข้าราชการระดับสูงของจังหวัด ทั้งบ้านพัก จวนผู้ว่าราชการจังหวัด รองผู้ว่าราชการจังหวัด รวมทั้งข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ที่เกษียณอายุราชการ จากนั้นคนร้ายได้ขับรถกระบะโตโยต้า วีโก้ พรีรันเนอร์ สีดำ หลบหนี

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจพบว่านายสุชาติถูกยิงด้วยกระสุนปืนขนาด 9 มม. จำนวน 5 นัด และกระสุนปืนขนาด .38 จำนวน จำนวน 3 นัด นอนคว่ำหน้าเสียชีวิตบริเวณหน้าบ้านพักของตนเอง คาดว่าน่าจะเสียชีวิตทันที โดยการเชื่อมโยงของพยานหลักฐานต่างๆ ตำรวจระบุมาจากปัญหาชู้สาว และได้เกี่ยวโยงไปถึง นายนวัธ เตาะเจริญสุข

เบื้องต้นทีมสืบสวนสอบสวนได้แกะรอยจากพยานบุคคล พยานแวดล้อม กล้องวงจรปิด ทำให้รู้ตัวกลุ่มมือปืนทั้งหมด จึงได้ขออนุมัติศาลเพื่อออกหมายจับกลุ่มมือปืน และแจ้งข้อหาหลักคือ ร่วมกันฆ่าผู้อื่น โดยไตร่ตรองไว้ก่อน หนึ่งในผู้ต้องหาคือ นายนวัธ เตาะเจริญสุข ส.ส.ขอนแก่น พรรคเพื่อไทย

คำให้การเบื้องต้นของผู้ต้องหาหลายคนตรงกันว่า นายนวัธ เตาะเจริญสุข เป็นผู้บงการ โดยในชั้นพนักงานสอบสวน จำเลยได้ให้การปฏิเสธ และขอสู้คดีในชั้นศาลมาโดยตลอด จนกระทั่งมีคำพิพากษาจากศาลชั้นต้นตัดสินประหารชีวิต

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 19 มกราคม 2559 ศาลอุทธรณ์ ภาค 4 ได้อ่านคำพิพากษาคดีที่กลุ่มคนร้ายยิง นายสุชาติ โคตรทุม อายุ 53 ปี ปลัด อบจ.ขอนแก่น จนเสียชีวิตที่หน้าบ้านพัก เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม 2556 ซึ่งต่อมาได้มีการจับกุมผู้ต้องหา 5 ราย ดังนี้ จำเลยที่ 1 คือ ด.ต.วีระศักดิ์ ชำนาญพล อดีต ผบ.หมู่ปราบปราม สภ.หนองเรือ ขอนแก่น จำเลยที่ 2 คือ พ.ต.ท.สมจิต แก้วพรม อดีตรอง ผกก.(ป) สภ.หนองเรือ จำเลยที่ 3 คือ นายประพันธ์ ศรีพิลัย จำเลยที่ 4 คือ นายบุญช่วย จูงกลาง

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ เมื่อเดือนตุลาคม 2557 ศาลชั้นต้นได้พิพากษาลงโทษจำเลยที่ 2 จำคุกตลอดชีวิต, จำเลยที่ 3 จำคุก 37 ปี และยกฟ้องจำเลยที่ 1 จำเลยที่ 4 แต่ศาลอุทธรณ์ได้พิพากษาแก้เป็นลงโทษจำเลยทั้ง 4 ฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนด้วยการให้ลงโทษประหารชีวิต แต่จำเลยที่ 1 จำเลยที่ 3 จำเลยที่ 4 ให้การเป็นประโยชน์จึงลดโทษ 1 ใน 3 เป็นให้ลงโทษจำคุกตลอดชีวิต และให้จำเลยที่ 2 ลงโทษประหารชีวิต

สำหรับ นายนวัธ เตาะเจริญสุข ส.ส.ขอนแก่น ก็เคยมีประเด็นในลักษณะนี้เกิดขึ้นมาแล้ว โดยเมื่อวันที่ 10 กันยายนเกิดการวางมวยกันระหว่างนายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม กับนายนวัธ เตาะเจริญสุข ส.ส.ขอนแก่น ภายในห้องทำงานนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย โดยนายนวัธได้นำลูกน้องมารุมทำร้ายนายยุทธพงศ์ และนายยุทธพงศ์ได้รับบาดเจ็บจนต้องพักรักษาตัวที่โรงพยาบาล

**ประวัติ “นวัธ เตาะเจริญสุข”

ประวัติของ นายนวัธ เตาะเจริญสุข เกิดเมื่อ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2510 ชื่อเดิม ประสิทธิ์ เตาะเจริญสุข เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรขอนแก่น เขต 7 โดยได้รับการเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรครั้งแรกในปี พ.ศ. 2550 ในสังกัดพรรคพลังประชาชน ปัจจุบันสังกัดพรรคเพื่อไทย

เป็นบุตรของนายเง็กเท้ง และนางสำเนียง เตาะเจริญสุข มีพี่น้อง 9 คน สำเร็จการศึกษาจากรีพับลิกัน คอลเลจ ฟิลิปปินส์ สมรสและหย่ากับนางสรพิกา เตาะเจริญสุข อดีตผู้สมัครนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น เมื่อปี พ.ศ. 2551

อดีตเป็นสมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น เขตอำเภอหนองเรือ และรองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น ตามลำดับ พ.ศ. 2548 ลงสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สังกัดพรรคมหาชน พ่ายให้แก่ นายสมศักดิ์ คุณเงิน จากพรรคไทยรักไทย ต่อมาในการเลือกตั้งปี พ.ศ. 2550 ย้ายเข้ามาลงสมัครกับพรรคพลังประชาชน และได้คะแนนมาเป็นอันดับที่ 1 ของเขต (มี ส.ส.ได้ 3 คน พรรคพลังประชาชนยกทีม) ซึ่งทำให้นายสุวิทย์ คุณกิตติ จากพรรคเพื่อแผ่นดิน สอบตกยกทีม หลังจากนั้น พ.ศ. 2554 ลงสมัครและได้รับการเลือกตั้งในนามพรรคเพื่อไทย

นอกจานนั้น นายนวัธได้เข้าซื้อกิจการ บจก.แม็กซ์มวยไทย จากนายนริศ ว่องประเสริฐการ มาบริหาร โดยให้บุตรชาย (นายอาสิระ เตาะเจริญสุข) ดำรงตำแหน่งประธานบริษัท โดยได้สร้างสนามมวยแม็กซ์มวยไทยสเตเดียม ที่ถนนสุขุมวิทพัทยา 42 อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี และจัดรายการชกมวยไทยในรูปแบบมวยไทย 3 ยก จนได้รับความนิยมจากผู้ชมและนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงเป็นสนามแรกที่จัดมวยถ่ายทอดสด 7 วันต่อสัปดาห์