ตาก - สาวใหญ่วัย 53 ซิ่งรถยนต์เก๋งรีบกลับบ้าน เหลือแค่ 300 เมตรจะถึงเจอสุนัขวิ่งข้ามถนนหักหลบรถเสียหลักพุ่งชนทะลุร้านอาหารเก่าแก่กลางเมืองแม่สอดพังยับเยินทั้งร้านทั้งรถ แถมก๊าซรั่วซ้ำจนชาวบ้านแตกตื่นทั้งชุมชน
เมื่อเวลา 01.00 น. วันนี้ (22 ก.ย.) ตำรวจ สภ.แม่สอด จังหวัดตาก รับแจ้งเหตุรถยนต์เก๋งเสียหลักพุ่งชนร้านอาหารตามสั่งชื่อดัง ริมถนนใกล้สามแยกศูนย์ตำรวจจราจรแม่สอด ย่านใจกลางเมืองแม่สอด จึงพร้อมหน่วยกู้ภัยแม่สอดและทีมดับเพลิงอาสาร่วมกันรีบเดินทางไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุพบรถเก๋ง ยี่ห้อนิสสัน สีขาว หมายเลขทะเบียน ฆก 4568 กรุงเทพมหานคร จอดในลักษณะพุ่งทะลุเข้าไปภายในร้านอาหารตามสั่ง จนทำให้ข้าวของภายในร้านถูกชนพังเสียหายกระจายเกลื่อนเกือบทั้งร้าน สภาพรถด้านหน้าและด้านข้างพังเสียหายอย่างหนัก ขณะเดียวกันยังพบว่ารถยนต์ได้พุ่งชนอัดเข้ากับแนวเก็บถังก๊าซหุงต้มของร้านอาหารจำนวน 4 ถัง จนทำให้ถังก๊าซรั่วไหลออกมา 1 ถัง หน่วยกู้ภัยแม่สอดต้องรีบช่วยกันลำเลียงถังก๊าซที่รั่วไหลออกจากจุดเกิดเหตุจนสร้างความตกใจให้ชาวบ้านและเจ้าของร้านอาหารที่เกิดเหตุต้องรีบหนีไปอยู่ที่ปลอดภัย
จากนั้นหน่วยกู้ชีพแม่สอดได้เข้าตรวจสอบรถยนต์คันเกิดเหตุ พบนางสาวพรทิพย์ ขุนองศ์แก้ว อายุ 53 ปี เป็นคนขับรถได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อยเนื่องจากคาดเข็มขัดนิรภัย ให้การเบื้องต้นว่าตนทำงานรอบดึก พอเลิกงานก็ขับรถยนต์คันเกิดเหตุกลับบ้านพัก
แต่พอขับมาถึงจุดเกิดเหตุ ซึ่งเหลืออีก 300 เมตรก็จะถึงบ้าน ได้มีสุนัขจรจัดวิ่งข้ามถนนตัดหน้ารถ ตนสงสารสุนัขจะถูกรถชน ประกอบกับตกใจจึงรีบหักรถหลบ ทำให้รถเสียการควบคุมพุ่งข้ามเลนชนทะลุเข้าไปในร้านอาหาร จนรถและร้านอาหารริมทางพังยับเยิน
ส่วนนายเสรี สนิชัย อายุ 62 ปี เจ้าของร้านอาหารเกิดเหตุ และชาวบ้านอีกหลายคนที่มีบ้านในละแวกที่เกิดเหตุต่างเล่าเป็นเสียงเดียวกันว่า ทุกคนกำลังนอนพักผ่อนอยู่ภายในบ้านซึ่งเป็นชุมชนหนาแน่น และได้ยินเสียงรถพุ่งชนดังสนั่น จนทุกคนในชุมชนต่างตกใจนึกว่าแผ่นดินไหวรีบออกมาดูเหตุการณ์ ซึ่งโชคดีที่เหตุการณ์ครั้งนี้ไม่มีผู้เสียชีวิตและก๊าซไม่ระเบิดเนื่องจากหน่วยกู้ภัยแม่สอดมาช่วยได้ทันเวลา