พิษณุโลก - เศร้าสลดกันทั่ว พ่อแม่ยังทำใจไม่ได้..ลูกชายคนเดียวเรียนชั้น ม.4 โรงเรียนดังพิษณุโลก เพิ่งว่ายน้ำเป็น ชวนเพื่อนลงสระสนามกีฬากลางฯ-ถ่ายคลิปส่งอาจารย์พละ เกิดจมน้ำดับ
วันนี้ (18 ก.ย.) นายอัฑฒกิจ สูงตรง อายุ 52 ปี อยู่บ้านเลขที่ 245/66 ถ.บรมไตรโลกนารถ ต.ในเมือง อ.เมืองพิษณุโลก และ น.ส.สมปอง หล่อนิมิตดี อายุ 52 ปี พ่อและแม่ พร้อมกับญาติๆ ได้เดินทางไปรอรับร่างอันไร้วิญญาณของนายณัฐกิตติ์ สูงตรง หรือน้องเจปลื้ม อายุ 16 ปี นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาภาคเหนือ จ.พิษณุโลก ที่อาคารเก็บศพแผนกนิติเวช โรงพยาบาลพุทธชินราช
หลังน้องเจปลื้มไปฝึกว่ายน้ำกับเพื่อนๆ เพื่อถ่ายคลิปส่งอาจารย์วิชาพลศึกษา ที่สระน้ำสนามกีฬากลางจังหวัดพิษณุโลก ขนาด 25 เมตร ลึกประมาณ 2-3 เมตร เมื่อวานนี้ (17 ก.ย.) แล้วเกิดจมน้ำไปนานกว่า 45 นาที กระทั่งมีนักว่ายน้ำมาพบกลายเป็นศพจมอยู่ก้นสระดังกล่าว
นายอัฑฒกิจ พ่อน้องเจปลื้มกล่าวว่า วานนี้ได้รับโทรศัพท์จากลูกโทร.มาแจ้งว่าจะไปฝึกว่ายน้ำกับเพื่อนๆ 3-4 คน ที่สนามกีฬากลางจังหวัดพิษณุโลก เนื่องจากสระว่ายน้ำของทางโรงเรียนปิดทำความสะอาด 1 สัปดาห์ หลังจากวางสายก็ยังรู้สึกเป็นห่วงเพราะน้องเจปลื้มเพิ่งเรียนว่ายน้ำได้เพียง 1-2 สัปดาห์ และยังว่ายไม่เป็น ก็รีบขี่จักรยานยนต์กลับมาที่บ้านหวังให้ทันลูกเพราะติดต่อลูกไม่ได้ แต่รถก็ดันมาเสียกว่าจะมาถึงบ้านก็พบว่าน้องออกจากบ้านไปแล้ว
กระทั่งช่วงเย็นเมื่อรถซ่อมเสร็จแล้วแต่น้องก็ยังไม่กลับบ้าน จึงตัดสินใจขี่รถตามไปดูที่สระว่ายน้ำ สวนทางกับรถของเจ้าหน้าที่กู้ภัยตรงประตูก็รู้สึกใจหายภาวนาขอให้ไม่ใช่ลูกของตนเอง แต่พอไปถึงสระว่ายน้ำก็เจอจักรยานของน้องเจปลื้มจอดอยู่พร้อมด้วยเสื้อผ้าก็รีบโทร.หาน้อง ซึ่งเพื่อนน้องเป็นคนรับสายแล้วเล่าว่าน้องจมน้ำกำลังไปโรงพยาบาล ตนก็รีบตามไป สุดท้ายคุณหมอแจ้งว่าไม่สามารถยื้อชีวิตน้องเอาไว้ได้ เพราะน้องจมน้ำนานกว่า 45 นาที
นายอัฑฒกิจบอกอีกว่า ได้ถามเพื่อนของน้องว่าเกิดอะไรขึ้น ระหว่างที่ฝึกว่ายน้ำกันอยู่นั้น น้องเจปลื้มได้บอกเพื่อนว่าจะขอตัวไปเข้าห้องน้ำ เพื่อนๆ ก็ไม่ได้สงสัยอะไร ผ่านไป 30 นาที น้องเจปลื้มก็ยังไม่กลับมา เพื่อนจึงไปตามที่ห้องน้ำก็ไม่พบ ก็พยายามตามหารอบสระว่ายน้ำก็ไม่เจอ เพราะเมื่อวานนี้มีคนมาว่ายน้ำกันประมาณ 60-70 คน จนกระทั่งมีนักว่ายน้ำคนหนึ่งตะโกนว่ามีเด็กจมอยู่ก้นสระแล้วรีบดำไปนำร่างขึ้นมาก็พบว่าเป็นน้องเจปลื้ม
จากนั้นนักว่ายน้ำคนนั้นก็รีบทำการปั๊มหัวใจร่วมกับเจ้าหน้าที่พยาบาล และแจ้งกู้ภัยให้นำตัวน้องส่งโรงพยาบาลแต่ก็ไม่ทันการณ์ เพราะน้องเจปลื้มเสียชีวิตไปแล้ว
“อยากฝากเป็นอุทาหรณ์เตือนใจผู้ปกครอง ถ้าเด็กว่ายน้ำไม่เป็น ขอให้ช่วยกันดูแลให้เป็นอย่างดี ขอให้มีผู้ใหญ่คอยดูแล หรือเพื่อนๆ ที่ไปด้วยกันช่วยดูแล การที่ไปประสบเหตุที่สระว่ายน้ำสนามกีฬากลาง ตนไม่ติดใจโรงเรียนเพราะนอกเวลาเรียนแล้ว และบังเอิญว่าสระที่โรงเรียนปิดจึงมาที่สระน้ำสนามกีฬากลางจังหวัดพิษณุโลก แต่การที่สูญเสียลูกชายไปตนไม่ทันตั้งตัว พวกเราอยู่กัน 3 คนพ่อแม่ลูกเราทำใจไม่ทัน”
ทั้งนี้ พ่อและแม่น้องเจปลื้มจะนำร่างของลูกชายไปบำเพ็ญกุศลที่วัดสระแก้วปทุมทอง อ.เมืองพิษณุโลก กำหนดตั้งศพบำเพ็ญกุศลเป็นเวลา 3 วัน
ด้านนายวิโรจน์ รอดสงฆ์ ผอ.โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาภาคเหนือ จ.พิษณุโลก เปิดเผยว่า ตนทราบเรื่องที่เกิดขึ้น พร้อมกับเดินทางไปดูศพของนักเรียนที่เสียชีวิตที่โรงพยาบาลพุทธชินราช เพื่อให้กำลังใจครอบครัวของผู้เสียชีวิต เบื้องต้นได้ถามเพื่อนนักเรียนที่ไปว่ายน้ำด้วยกัน ทราบว่าเด็กนักเรียนที่เสียชีวิตได้ไปถ่ายคลิปท่าว่ายน้ำต่างๆ เพื่อส่งอาจารย์วิชาพลศึกษา โดยเดินทางไปกับเพื่อนจำนวนหนึ่ง
ขณะเกิดเหตุเพื่อนบอกว่าถ่ายคลิปเสร็จแล้วให้กลับบ้าน แต่นักเรียนที่เสียชีวิตได้ขอว่ายน้ำต่ออีกสักพัก และบอกเพื่อนว่าไปเข้าห้องน้ำซึ่งเพื่อนก็ไม่ได้เอะใจอะไร กระทั่งรอนานแล้วไม่เห็นเพื่อนจึงได้โทรศัพท์ตามหากันก็ไม่มีใครรับโทรศัพท์ กระทั่งมีคนที่ไปเล่นน้ำบังเอิญไปพบร่างของเด็กนักเรียนจมอยู่ก้นสระในสภาพแน่นิ่งหมดสติไป จึงรีบเข้าไปช่วยเหลืออุ้มขึ้นมาด้านบนฝั่งเพื่อทำการปฐมพยาบาลปั๊มหัวใจในเบื้องต้นเป็นเวลาราว 45 นาที แต่ก็ไม่เป็นผลจึงรีบส่งต่อไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลพุทธชินราช สุดท้ายได้เสียชีวิตในที่สุด
ผอ.โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาภาคเหนือ จ.พิษณุโลก บอกอีกว่า ปกตินักเรียนชั้น ม.4 เรียนวิชาว่ายน้ำที่โรงเรียนเพื่อเป็นการฝึกฝนให้ว่ายน้ำเป็น เนื่องจากที่โรงเรียนก็มีสระว่ายน้ำ และมีไลฟ์การ์ด รวมถึงครูผู้สอนดูแลอยู่ตลอดเวลา มีกล้องวงจรปิดบันทึกเหตุการณ์ต่างๆ ไว้เสมอ แต่ระยะนี้มีฝนตกหนักจึงทำให้น้ำสระขุ่นมาก ทางโรงเรียนจึงได้ปิดสระทำความสะอาดเป็นเวลา 1 อาทิตย์
ส่วนประเด็นการถ่ายคลิปท่าว่ายน้ำเพื่อส่งอาจารย์รายวิชาพลศึกษานั้น ตนสอบถามแล้วทราบว่าทางอาจารย์ผู้สอนได้สั่งงานให้นักเรียนทำคลิปส่งมานานแล้ว และมีกำหนดส่งคลิปวันสุดท้ายในวันนี้เอง ที่ผ่านมาก็มีนักเรียนจำนวนมากทยอยส่งคลิปหลายคนแล้ว คาดว่านักเรียนที่เสียชีวิตอาจจะถ่ายคลิปไม่ทัน และประกอบกับสระว่ายน้ำปิดทำความสะอาดด้วยจึงทำให้นักเรียนต้องไปใช้สระว่ายน้ำภายนอกของโรงเรียน เพราะส่วนใหญ่ไม่ว่าสระว่ายน้ำที่ไหนก็จะมีไลฟ์การ์ดดูแลความปลอดภัยเช่นกัน
ทั้งนี้ ทางโรงเรียนก็รู้สึกเสียใจที่สูญเสียนักเรียน ซึ่งจะดำเนินการในเรื่องของการจ่ายสินไหมค่าทดแทนของประกันชีวิตที่เด็กได้ทำไว้กับโรงเรียนเป็นเงินจำนวน 1 แสนบาท และจะหารือร่วมกันเป็นเจ้าภาพในการสวดพระอภิธรรมพร้อมนำพวงหรีดแสดงความอาลัยแก่ครอบครัวนักเรียนที่เสียชีวิตอีกครั้งหนึ่ง