กาญจนบุรี - ผอ.โรงเรียนวิสุทธฯ ร่วมกับประธานกีฬาแต่ละสีตั้งโต๊ะแถลงยืนยัน โรงเรียนไม่เคยเรียกเก็บเงินจ้างออแกไนซ์จัดกิจกรรมกีฬาสี ประจำปี 62 เผยเด็กชั้น ม.6 ขอความร่วมมือกันเอง หากใครไม่เห็นด้วย ก็ช่วยกันหาสปอนเซอร์ และเปิดหมวกหาเงินกันเอง
จากกรณีบุคคลที่ใช้เฟซบุ๊กนามว่า "เจ้าหญิงน้อยแห่งอันดามัน" โพสต์เมื่อวันที่ 14 ก.ย.ที่ผ่านมา ระบุว่า “มีผู้ปกครองรายหนึ่งสอบถามว่า โรงเรียนมัธยมศึกษาชื่อดังแห่งหนึ่งในจังหวัดกาญจนบุรี มีการเรียกเก็บเงินค่าจัดกิจกรรมกีฬาสี 1,300-2,000 บาทต่อคน เพื่อว่าจ้างบริษัทรับจัดงาน (ออแกไนซ์) มาจัดขบวนพาเหรด แทนที่นักเรียนจะช่วยกันทำกิจกรรม โดยมีค่าใช้จ่ายสูงถึง 180,000 บาท”
โดยหลังจากโพสต์ดังกล่าวถูกแชร์เข้าสู่โลกโซเชียล ปรากฏว่ามีผู้เข้าไปวิพากษ์วิจารณ์ พร้อมแสดงความคิดเห็นในเชิงตอบโต้กันไปมาเป็นจำนวนมาก สำหรับโรงเรียนชื่อดังก็คือ โรงเรียนวิสุทธรังษี โรงเรียนมัธยมประจำจังหวัดกาญจนบุรี สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 8 กาญจนบุรี
ล่าสุด เมื่อเวลา 10.30 น.วันนี้ (16 ก.ย.) นายหงษ์ดี ศรีเสน ผู้อำนวยการโรงเรียนวิสุทธรังษี พร้อมด้วยนายพิสิทธิ์ ธรรมวิเศษ รองผู้อำนวยการโรงเรียนวิสุทธรังษี ได้เปิดห้องศูนย์การเรียนอัจฉริยะ เจ้าคุณปัญญา อาคารสมาคมนักเรียนเก่าวิสุทธรังษี ต.ท่าล้อ อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงต่อสื่อมวลชน โดยมี น.ส.กีรติกา โรจน์บุญถึง นายกองค์การบริหารส่วนนักเรียนโรงเรียนวิสุทธรังษี และประธานกีฬาสีแต่ละสีเข้าร่วมชี้แจง
ทั้งนี้ นายหงษ์ดี ศรีเสน ผู้อำนวยการโรงเรียนวิสุทธรังษี กล่าวว่า โรงเรียนวิสุทธรังษี ได้กำหนดจัดกีฬาสีขึ้นในช่วงวันที่ 28 ต.ค.ถึงวันที่ 1 พ.ย.นี้ ซึ่งได้มีการพูดคุยกับองค์การบริหารส่วนนักเรียนวิสุทธรังษีไปแล้ว โดยคณะองค์การบริหารนักเรียนวิสุทธรังษี จะเป็นคนที่ไปพูดคุยกับคณะนักเรียนเพื่อทำความตกลงในการจัดกีฬาสี โดยมีนายพิสิทธิ์ ธรรมวิเศษ รอง ผอ.ร.ร.วิสุทธรังษี เป็นผู้ประสานงานเกี่ยวกับรายละเอียดต่างๆ
สำหรับกรณีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในเฟซบุ๊ก ว่า โรงเรียนวิสุทธรังษีเรียกเก็บเงินจากนักเรียน จำนวน 1,300 -2,000 บาท ต้องขอชี้แจงกับสื่อมวลชนว่า โรงเรียนไม่เคยเรียกเก็บเงินจากนักเรียนและผู้ปกครองเลยแม้แต่ครั้งเดียว ตั้งแต่อดีตมาจนถึงปัจจุบันนี้ก็ไม่เคยเรียกเก็บ ซึ่งเรื่องนี้แต่ละสีไม่รู้ว่าจะมีกระบวนการอย่างไร ในการทำงานของแต่ละสี เพียงแต่บอกว่าให้ดำเนินการไปตามมติขององค์การบริหารส่วนนักเรียนวิสุทธรังษี ที่ได้มีการพูดคุยกันทั่วไปกับนักเรียน โดยข่าวเหล่านี้ออกไปได้อย่างไร ว่าเราเรียกเก็บเงิน จำนวน 1,300-2,000 บาท
ตามที่โรงเรียนได้มีงบประมาณจัดสรรให้จัดกีฬาสีทุกๆ ปี ในการจัดกีฬาสีซึ่งปีที่แล้วและปีนี้ ทางโรงเรียนได้จัดงบประมาณให้ จำนวน 305,000 บาท ซึ่งรายละเอียดมีอยู่ในเล่มข้อมูลที่ทำขึ้นเมื่อปีที่แล้ว แนวทางการจัดกีฬาสีทั้งหมดลักษณะคล้ายคลึงกัน
และมีปัญหาต่างๆ ที่บอกว่า เราจัดกีฬาเวลาตอนเย็นและต่อเนื่องไปถึงเวลากลางคืน โรงเรียนมีความเป็นห่วงถึงความปลอดภัย ซึ่งเมื่อมีเสียงจากนักเรียนว่าอยากจะจัดกีฬาสีในช่วงเช้า เราก็ให้จัดในช่วงเช้า โรงเรียนวิสุทธรังษี จัดกีฬาสีทุกครั้งก็มีปัญหาทุกครั้งในเรื่องของการจราจร
ไม่ว่าจะจัดช่วงเช้ารถก็ติด จัดกลางวันรถก็ติด จัดในช่วงเย็นรถก็ติด เนื่องจากว่านักเรียนของเราได้เข้าร่วมกิจกรรมนี้เป็นจำนวนมาก เพราะฉะนั้นการเดินทางจะลำบาก แต่เราได้วางแนวทางในเรื่องของการจราจรเอาไว้ค่อนข้างดี
สรุปก็คือ กีฬาสีปีนี้จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 28 ต.ค.ถึงวันที่ 1 พ.ย.ซึ่งทางโรงเรียนไม่เคยมีนโยบายจ้างออแกไนซ์มาทำงาน และก็ไม่เคยมีนโยบายให้เก็บเงินจากนักเรียน แต่อยากจะบอกเล่านิดหนึ่งว่า มันเป็นประวัติความเป็นมา ที่รุ่นต่อรุ่นเขาทำกัน คือ ตั้งแต่ ม.6 รุ่นก่อนเขาจะเก็บเงินของเขาเอง เพราะถือว่า ม.6 เป็นพี่ใหญ่ต้องดูแลการจัดกิจกรรมให้แก่น้องๆ
อันนี้คือส่วนเสริม โรงเรียนได้ดำเนินการจัดให้แก่นักเรียนของเราอยู่แล้ว แต่ว่าด้วยความที่นักเรียนมีความกระตือรือร้นอยากแสดงออกถึงความรู้ความสามารถของตนเอง ในเชิงการแข่งขันของแต่ละสี เขาก็ไปคุยกันซึ่งเขาไปคุยกันอย่างไรนั้นกรณีนี้ผมไม่แน่ใจ แล้วที่ผ่านมา นักเรียนมักจะไปดูกีฬาสีตามโรงเรียนต่างๆ ในเขตอำเภอเมืองกาจนบุรี ว่าเขาจัดกันอย่างไร เมื่อนักเรียนไปเห็นโรงเรียนที่อยู่ในเมืองเขาจัด เด็กนักเรียนวิสุทธรังสี ก็มีความเป็นวิสุทธรังสี เขาก็อยากจะจัดให้เท่าเทียมหรือดีกว่า
สิ่งเหล่านี้โรงเรียนไม่ได้บอกเขาว่าให้ไปแข่งขันกับโรงเรียนอื่น แต่บอกนักเรียนไปว่าให้เอาเท่าที่เรามีอยู่ แต่นักเรียนก็อยากที่จะแสดงให้ทุกโรงเรียนเห็นว่า วิสุทธรังษี ของเขาเข้มแข็งและสามารถทำอะไรที่มันเป็นสิ่งที่สุดยอด นั่นคือความคิดของนักเรียน
คณะครูแจ้งอยู่ตลอดว่า อย่าไปแข่งขันกันด้วยการใช้เงินใช้ทอง เคยห้ามอยู่ประจำว่าอย่าไปทำอะไรที่มันต้องใช้เงินที่มันเกินมากกว่านั้น แต่ว่าด้วยความที่นักเรียนเขามีความต้องการที่อยากจะแสดงศักยภาพของเขาออกมา
ตอนนี้อยากทำความเข้าใจกับสื่อมวลชนให้เข้าใจว่า กีฬาสีโรงเรียนวิสุทธรังษี ไม่เคยเรียกเก็บเงินผู้ปกครองและเด็กนักเรียนเลย หากไม่เชื่อสามารถไปถามเด็กนักเรียนได้ทุกคนที่อยู่ในระดับชั้น ม.1-5 ว่าเราไม่ได้เรียกเก็บเงินหรือไม่ ม.6 ก็เช่นกันสามารถสอบถามทุกคนได้เลย แต่การที่มีข่าวออกไป ตนไม่แน่ใจว่านักเรียนไปจ่ายเงินค่ากีฬาสีกับใคร ตนเองไม่ทราบ ขอชี้แจงข้อเท็จจริงไปตามนี้
สำหรับผู้ปกครองของเด็กนักเรียนที่โพสต์เฟซบุ๊ก ผมไม่รู้ว่าเป็นใครแต่เราได้ประกาศทางโรงเรียนไปแล้ว คิดว่าประกาศดังกล่าวน่าจะถึงผู้ปกครองของเด็กแล้ว เพื่อให้เขาเข้าใจว่าจะกี่ปีก็ตามไม่เคยมีการเรียกเก็บเงินจากเด็กนักเรียนและผู้ปกครองมาจัดกิจกรรมกีฬาสีประจำปีแม้แต่ครั้งเดียว
ด้าน น.ส.กีรติกา โรจน์บุญถึง นายกองค์การบริหารส่วนนักเรียนโรงเรียนวิสุทธรังษี กล่าวว่า จากที่เป็นข่าวคือ นักเรียนชั้น ม.6 ไม่ได้มีนโยบายให้เก็บเงิน เพราะว่าเขามีการให้เด็กนักเรียนอยู่แล้วในแต่ละปี การจัดกีฬาสี จะมีการตกลงของแต่ละสีว่า จะเก็บเงินกันเท่าไหร่ จะเก็บเงินเพื่อเอาไว้ทำอะไร ก็แล้วแต่ว่าแต่ละสีเขาจะตกลงกันอย่างไร อาจจะเป็นแค่นักเรียนชั้น ม.6 ที่เขาจะรวมเงินกันโดยนักเรียนชั้นมัธยมอื่นนั้นไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แต่เขาจะเรียกเก็บกันเองโดยที่ไม่ได้เกี่ยวกับโรงเรียน ส่วนการที่เด็กนักเรียนไปจ้างออแกไนซ์ เรื่องนี้ตนไม่ทราบเช่นกัน โดยขึ้นอยู่กับแต่ละสีที่จะไปตกลงกันเอง
ส่วน นายโกสินทร์ ไสยะหุต ประธานกีฬาสีสีม่วง เปิดเผยว่า เราได้คุยตกลงกับเพื่อนนักเรียน ม.6 ว่าเราควรจะทำอย่างไรให้เกิดกีฬาสี หลังจากคุยแล้วก็ได้เรียกเก็บเงินจากเพื่อนซึ่งข่าวที่หลุดออกไปมันเป็นเพียงแค่การคาดคะเนที่ยังไม่มีการเซ็นสัญญาอะไรเกิดขึ้น ซึ่งใบเซ็นสัญญาหลุดมาจากไหนไม่ทราบเช่นกัน แต่ที่ผ่านมายอมรับว่าเคยมีการว่าจ้างแต่ต้องยกเลิกไป เพราะทางโรงเรียนห้ามไม่ให้มีการจ้างออแกไนซ์ ซึ่งถ้าสีไหนจ้างก็จะโดนตัดสิทธิ
สำหรับการเก็บเงินนั้น หากเพื่อนคนไหนไม่เห็นด้วย เราก็จะมีนโยบายไม่เก็บกับเพื่อนคนนั้น แต่เพื่อนคนนั้นก็ยังอยู่ในส่วนร่วมในการหาสปอนเซอร์ และไปเปิดหมวกหาเงินมาทดแทนให้แก่เพื่อนคนนั้น และขอยืนยันว่าทาง ผอ.และโรงเรียนไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเรียกเก็บเงินแต่อย่างใด แต่เป็นการสร้างกำลังใจที่เพื่อนๆ ม.6 ต้องการจ่ายให้แก่น้องๆ ที่เข้ามาช่วยงานกีฬาสีเท่านั้น
และด้วยความที่พวกเรายังเป็นเด็กและเยาวชน จึงไม่รู้ว่าสิ่งของนั้นมีราคาแพงหรือไม่ จึงคาดคะเนเอาว่าต้องใช้เงินประมาณเท่าไหร่ แต่จะได้จำนวนเท่าไหร่ค่อยมาคุยกันอีกครั้งหนึ่ง และในฐานะที่เป็นประธานสีม่วง อยากให้ประธานสีรุ่นต่อไป หากจะทำอะไรก็ขอให้มาปรึกษากับคุณครูเสียก่อนเพื่อป้องกันไม่ให้โรงเรียนของเราเสื่อมเสียชื่อเสียง