อุตรดิตถ์ - ญาติพี่น้องผู้เสียชีวิตไม่ประสงค์แตะต้อง-ใช้ทรัพย์สิน “ปุ๊ 5 ศพฆ่ายกครัว” ตำรวจตามยึดคืนเกลี้ยงทั้งรถนับ 10 คัน-บ้านไม้สักหลังงาม ส่ง สภ.ศรีราชา ดำเนินการทางคดี-ขายทอดตลาด คืนเงินที่ฉ้อโกงจากบาทหลวงชื่อดัง
วันนี้ (13 ก.ย.) พ.ต.ท.ศิริพงษ์ สิทธิเลิศ สารวัตร หัวหน้า สภ.พญาแมน อ.พิชัย จ.อุตรดิตถ์ กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีศาลจังหวัดอุตรดิตถ์ตัดสินประหารชีวิตนายวีรพล ปิ่นอมร อายุ 37 ปี หรือ ปุ๊ 5 ศพ บ้านเลขที่ 66/2 หมู่ 1 ต.ปากน้ำ อ.เมืองระนอง จ.ระนอง ที่ใช้อาวุธปืนพกสั้นขนาด 9 มิลลิเมตร ยิงคนในครอบครัวของนางกัญญารัตน์ กิ่งแก้ว ภรรยาของนายวีรพลเอง เสียชีวิต 5 ศพ ประกอบด้วย นายวิรัตน์ กิ่งแก้ว อายุ 46 ปี พ่อตา, นางน้ำผึ้ง อินทร์สิทธิ์ แม่ยาย, นางกัญญารัตน์, นางน้ำผา อินทร์สิทธิ์ พี่สาวของแม่ยาย และนางกนกวรรณ อินทร์สิทธิ์ พี่สาวของแม่ยาย มีผู้บาดเจ็บ 2 รายเป็นน้องสาวภรรยา และลูกสาวน้องภรรยา ท้องที่ ต.พญาแมน อ.พิชัย จ.อุตรดิตถ์ เมื่อช่วงค่ำวันที่ 13 ม.ค. 62
จากการสอบสวนของพนักงานสอบสวน สภ.พญาแมนเกี่ยวกับทรัพย์สินของนายวีรพล ซึ่งมีบ้านไม้สักที่สร้างให้ภรรยาและตัวเองมูลค่ามากกว่า 3 ล้านบาท ส่วนรถยนต์เก๋งและรถยนต์กระบะ ซึ่งก่อนก่อเหตุสะเทือนขวัญฆ่าคนในครอบครัวของภรรยาถึง 5 ศพ นายวีรพลมีเรื่องทะเลาะกับภรรยาอยู่บ่อยครั้ง ได้ว่าจ้างรถขนส่งรถยนต์มาขนรถยนต์จำนวนหนึ่งไปไว้ที่บ้านเกิดตัวเองที่ จ.ระนอง ส่วนหนึ่งที่ซื้อให้กับญาติของภรรยาตัวเองที่ ต.พญาแมน รวมรถยนต์ทั้งหมดราว 10 คัน
ซึ่งทางญาติของอดีตภรรยาของนายวีรพลไม่ขอเก็บหรือใช้ทรัพย์สินที่นายวีรพลซื้อให้ โดยคืนให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ท้องที่เกิดเหตุที่นายวีรพลตกเป็นผู้ต้องหาคดีฉ้อโกงเงินจำนวน 30 ล้าน จากบาทหลวง ยอแซฟ ไชโย กิจสกุล อายุ 66 ปี ซึ่งเป็นชาว อ.สามพราน จ.นครปฐม
โดยก่อนหน้านี้นายธีรพลกับบาทหลวง ยอแซฟ ไชโย มีความสัมพันธ์หรือสนิทสนมกันมาก การยืมเงินไม่ใช่เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียว แต่พบว่าบาทหลวง ยอแซฟ มีการโอนเงินให้กับนายธีรพลหลายครั้งมากตั้งแต่ปี 2557 และเพิ่งมาแจ้งความดำเนินคดีเมื่อช่วงต้นปี 2562 ที่ผ่านมา
“ทรัพย์สินทั้งบ้านไม้สักมูลค่าราว 3 ล้านบาท และรถยนต์เก๋ง รถยนต์กระบะนั้น ทางบาทหลวง ยอแซฟ ไชโย กิจสกุล ได้มอบอำนาจให้พนักงานสอบสวน สภ.ศรีราชา ดำเนินการด้วยการยึดคืนทรัพย์สินทั้งหมด ประกอบกับญาติของอดีตภรรยาของนายวีรพลเองก็ประสงค์ไม่ครอบครองไม่ใช้ทรัพย์สิน พร้อมส่งคืนให้พนักงานสอบสวน สภ.ศรีราชา เพื่อนำไปขายทอดตลาดแล้วนำเงินที่ได้จากการขายทรัพย์สินไปคืนบาทหลวง ยอแซฟ ไชโย กิจสกุล ต่อไป” พ.ต.ท.ศิริพงษ์กล่าว
