ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - แม่หัวใจสลายทนทุกข์สุดกลั้น ร้องขอความเป็นธรรมหลังลูกชายคนเดียวต้องเสียชีวิตจากการถูกไฟดูดระหว่างเรียนทำอาหารที่ศูนย์พัฒนาฝีมือแรงงานเชียงใหม่ นานกว่า 6 เดือนไร้การเหลียวแลเยียวยา
รายงานจากจังหวัดเชียงใหม่แจ้งว่า วานนี้ (11 ก.ย. 62) ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ “กฤษฎาภรณ์ จันทร์แลง” ได้โพสต์ข้อความว่า “180 วันแล้วกับการสูญเสีย ที่ยังไม่ได้รับการดูแลเยียวยาจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเลย แม่จะร้องสื่อไหนดีที่ขอความเป็นธรรมให้กับลูกชาย” โดยโพสต์ดังกล่าวมีผู้เข้าแสดงความคิดเห็นและให้กำลังใจจำนวนมากรวมทั้งมีการแชร์ต่อด้วย นอกจากนี้มีผู้ใช้เฟซบุ๊กอีกรายหนึ่งได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติมว่า เมื่อหลายเดือนก่อนลูกชายเพียงคนเดียวของผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ “กฤษฎาภรณ์ จันทร์แลง” ไปสมัครเข้าเรียนเพื่อทำอาหารสร้างอาชีพให้ตัวเองเพื่อเลี้ยงพ่อแม่ ที่ศูนย์พัฒนาฝีมือแรงงานจังหวัดเชียงใหม่ แม่ริม
โดยวันที่ 5 ของการเรียน เกิดเหตุไฟดูดภายในศูนย์พัฒนาฯ ทำให้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ ซึ่งทางศูนย์ฯ รับปากว่าจะรับผิดชอบ และใส่ซองทำบุญวันสวดศพเพียงครั้งเดียว แต่หลังจากนั้นไม่มีความคืบหน้าใดๆ อีกทั้งตั้งแต่เกิดเหตุทางศูนย์ฯ ได้ปิดบังเรื่องราวนี้มาตลอดจนไม่มีการนำเสนอข่าวเรื่องนี้เลย ในขณะที่พ่อแม่ต่างอยู่ในสภาพทนทุกข์หัวใจแตกสลาย จึงต้องการเรียกร้องขอความเป็นธรรมให้กับการเสียชีวิตของลูกชาย
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบพบว่าผู้ใช้เฟซบุ๊กดังกล่าวคือ นางกฤษฎาภรณ์ จันทร์แลง อายุ 49 ปี เจ้าของร้านขายอาหารแห่งหนึ่งย่านสามกษัตริย์ ในตัวเมืองเชียงใหม่ ซึ่งวันนี้ (12 ก.ย. 62) นำเอกสารหลักฐานต่างๆ เข้ายื่นร้องขอความเป็นธรรมที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดเชียงใหม่ โดยเปิดเผยว่าลูกชายชื่อ นายศิรสิทธิ์ ฟูเต็มวงค์ อายุ 19 ปี เป็นลูกชายเพียงคนเดียว ชื่นชอบการทำอาหารมาก หลังจากที่เรียนจบจากวิทยาลัยอาชีวศึกษาเชียงใหม่แล้ว ต้องการจะเรียนรู้และพัฒนาฝีมือเพิ่มเติมจึงได้ไปสมัครเรียนทำอาหารที่ศูนย์พัฒนาฝีมือแรงงานจังหวัดเชียงใหม่ อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อหวังจะนำมาประกอบอาชีพเลี้ยงดูตัวเองและครอบครัวในอนาคต อย่างไรก็ตาม ปรากฏว่าในวันที่ 8 มี.ค. 62 ซึ่งเป็นวันที่ 5 ของการเรียนลูกชายต้องเสียชีวิตจากการถูกไฟฟ้าดูดระหว่างเรียนทำอาหารที่ศูนย์ฯ ดังกล่าวอย่างคาดไม่ถึง และสร้างความเศร้าโศกเสียใจให้แก่ครอบครัวอย่างมาก
ความรู้สึกของตัวเองนั้น แม้จะทราบดีว่าทำอย่างไรก็ไม่มีทางทำให้ลูกชายฟื้นกลับมามีชีวิตได้แล้วและจำเป็นต้องใช้ชีวิตต่อไป แต่ในฐานะที่เป็นแม่และมีลูกชายเพียงคนเดียว รู้สึกทุกข์ทนทรมานอยู่ตลอดเวลา และไม่มีวันใดที่ไม่คิดถึงลูกชายเลย อีกทั้งบางครั้งรู้สึกผิดเพราะเป็นคนสนับสนุนให้ลูกไปเรียนโดยเหมือนส่งให้ลูกไปตาย ซึ่งหลังจากที่เกิดเหตุศูนย์พัฒนาฝีมือแรงงานจังหวัดเชียงใหม่ได้รับปากว่าจะดูแลรับผิดชอบความสูญเสียที่เกิดขึ้นทั้งหมดอย่างเต็มที่ อย่างไรก็ตามปรากฏว่าตั้งแต่ที่ลูกชายเสียชีวิตไปทางศูนย์พัฒนาฝีมือแรงงานจังหวัดเชียงใหม่ทำเพียงการใส่ซองทำบุญงานศพลูกชายเพียงครั้งเดียวจำนวน 1,000 บาทเท่านั้น
หลังจากนั้นจนถึงปัจจุบันเป็นเวลากว่า 6 เดือนแล้วไม่เคยมีการติดต่อพูดคุยแสดงความรับผิดชอบใดๆ ทั้งสิ้น เหมือนกับจะปล่อยให้เวลาผ่านไปและเรื่องราวทั้งหมดเงียบหายไปเอง ทั้งนี้ เคยสอบถามไปแล้วแต่ไม่มีความคืบหน้า ซึ่งมองว่าเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง เพราะอย่างน้อยควรจะมีเหตุผลที่ดีมาอธิบายเกี่ยวกับเรื่องที่ทำให้ลูกชายของตัวเองต้องมาเสียชีวิตหรือการกระทำใดๆ ที่ช่วยเยียวยาจิตใจกันได้บ้าง ไม่ใช่นิ่งเฉยไปเลย จึงตัดสินใจลุกขึ้นเรียกร้องขอความเป็นธรรมให้กับการเสียชีวิตของลูกชาย เพื่อไม่ให้เกิดเรื่องแบบนี้กับคนอื่นๆ อีก
