xs
xsm
sm
md
lg

น่าเวทนา! พบป้าคนพรานกระต่ายปิดญาตินานกว่า 9 ปีจนมะเร็งเต้านมลาม-อกเน่า

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


กำแพงเพชร - ญาติวอนช่วยเหลือป้าชาวพรานกระต่าย..ป่วยเป็นมะเร็งเต้านมระยะสุดท้าย แต่กลัวเป็นภาระครอบครัว-ห่วงหลานป่วยออทิสติก ทนปิดเป็นความลับมากว่า 9 ปี จนลามกัดกินเต้านมเป็นแผลเน่า-ลุกไม่ไหว



ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งเรื่องราวของผู้ป่วยมะเร็งเต้านม ซึ่งได้ปกปิดอาการป่วยของตนเองมายาวนานกว่า 9 ปีจนมะเร็งลุกลามรุนแรง จนต้องโทรศัพท์ให้น้องสาวรับตัวจาก อ.พรานกระต่าย มาอยู่ที่บ้านนอมะนาว เลขที่ 65 หมู่ 13 ต.วังทอง อ.เมืองกำแพงเพชร

เมื่อเดินทางไปตรวจสอบพบว่าผู้ป่วยรายนี้คือ นางมาลี พรมวงษ์ อายุ 55 ปี เดิมอยู่บ้านเลขที่ 34/1 หมู่ 8 ต.พรานกระต่าย อ.พรานกระต่าย จ.กำแพงเพชร แต่ได้ขอให้น้องสาวคือ นางมาลา แซ่ลอ อายุ 52 ปี รับตัวมาดูแลเพราะอาการป่วยลุกลามจนเดินไม่ไหว เต้านมด้านซ้ายมีบาดแผลจนมีกลิ่นคละคลุ้งไปทั่วบริเวณ

นางมาลี (ผู้ป่วย) กล่าวว่า ตนยังไม่เคยได้รับการรักษาจากโรงพยาบาล หรือ รพ.สต.ที่ไหนเลย เพราะเกือบ 10 ปีที่ผ่านมาได้พยายามปกปิดครอบครัวและพี่น้องของตนเองมาตลอด ไม่อยากเป็นภาระให้กับครอบครัว และที่สำคัญตนเป็นห่วงหลานที่พิการทางสมอง (ออทิสติก) หากต้องเข้ารับการรักษาจะต้องไปนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาลอย่างแน่นอนเกรงว่าจะไม่มีใครดูแลหลานชายซึ่งมีอยู่คนเดียว เนื่องจากลูกๆ ของตนไปทำงานที่ต่างจังหวัดกันหมด

โดยทุกวันตนต้องแอบเอาสำลี ซึ่งได้บอกให้สามีซื้อมาล้างแผลเองในห้องน้ำบ้าง ห้องนอนบ้าง ทั้งนี้ตนรู้ตัวดีว่าอาจจะอยู่ได้ไม่นาน เพราะเป็นมากขึ้นเรื่อยๆ จึงสั่งเสียให้น้องสาว (นางมาลา) ดูแลหลานต่อไปด้วยหากตนเป็นอะไรไป

ด้านนางมาลา แซ่ลอ (น้องสาว) เปิดเผยต่อผู้สื่อข่าวว่า เมื่อประมาณ 2 อาทิตย์ที่ผ่านมาตนได้รับโทรศัพท์จากพี่สาวว่าต้องการมาอาศัยอยู่ด้วย เนื่องจากร่างกายไม่แข็งแรง ซึ่งตนก็ไม่ได้สงสัยอะไรคิดว่าคงป่วยธรรมดาทั่วไป จึงนำรถไปรับมาอยู่ด้วย จากนั้นมาก็ดูปกติดีดูเป็นคนป่วยธรรมดา

จนเมื่อไม่กี่วันมานี้ถึงรู้ว่าพี่สาวตนป่วยเป็นมะเร็งเต้านมก็รู้สึกตกใจมาก และที่มากไปกว่านั้น เมื่อเปิดดูแผลตนรู้สึกเวทนาพี่สาวตนมาก เพราะแผลลึก และลามจนไม่มีเค้าโครงหน้าอก แผลที่เกิดขึ้นเหม็นเน่าจนทนกลิ่นไม่ไหว เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาตนพาไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลกำแพงเพชร แพทย์ได้ตรวจ-ล้างแผลและตัดก้อนเนื้อบริเวณเต้านมไปตรวจ ซึ่งวันนี้ก็ยังไม่ทราบผลที่แน่นอนว่าคืออะไร แต่เราก็รู้แล้วว่ามะเร็งเต้านมแน่นอน คงเป็นมะเร็งระยะสุดท้ายแล้ว

“ที่สำคัญที่ผ่านมาพี่สาวไม่เคยบอกสามีให้ทราบเรื่องอาการป่วยเลย เก็บงำไว้จนป่านนี้เกือบ 10 ปีแล้ว จึงอยากวิงวอนให้สื่อช่วยบอกกล่าวขอความช่วยเหลือเรื่องสิ่งของจำเป็น พวกของกิน ของใช้ เช่น สำลี ผ้าพันแผล เพราะทุกครั้งที่เปิดแผลออกมาจะมีน้ำหนองไหลออกมาตลอดเวลา”

ด้านนายสมจิตร โททัน อายุ 51 ปี สามีของนางมาลี พรมวงษ์ ผู้ป่วย ซึ่งอยู่ดูแลหลานชายวัย 7 ขวบ ที่มีอาการป่วยออทิสติก อยู่บ้านเลขที่ 34/1 หมู่ 8 ต.พรานกระต่าย อ.พรานกระต่าย กล่าวว่า ตนก็ไม่ทราบว่าภรรยาป่วย ไม่ทราบว่าจะปกปิดทำไม อาจจะเป็นเพราะว่าภรรยาห่วงลูก ห่วงหลาน ห่วงครอบครัว กลัวจะต้องเป็นภาระ จึงปกปิดไม่ยอมบอกกับใคร

“ที่ผ่านมาเขาใช้ให้ผมไปซื้อสำลีมาอยู่เป็นประจำผมก็ไม่ได้คิดอะไรคิดว่าคงจะเป็นเรื่องของผู้หญิง มารู้อีกทีก็แย่แล้วเดินไม่ไหวแล้ว ภรรยาผมได้โทรศัพท์ไปให้น้องสาวมารับ แต่ก็ยังไม่บอกความจริงกับผมอีกว่าเป็นอะไร ซึ่งเวลาที่อยู่ด้วยกันที่บ้านก็สงสัยเหมือนกันว่าเหม็นกลิ่นเน่าอะไรเมื่อยามที่ภรรยาเดินผ่านไปมา ผมก็คิดไปว่าคงจะเป็นซากหนูตายเพราะที่บ้านหนูเยอะมาก บางครั้งต้องใช้ยาเบื่อหนูในบ้าน ยอมรับว่าภรรยาผมใจแข็งมากคงจะเป็นเพราะว่ากลัวครอบครัว ลูกหลานจะเดือดร้อนจึงไม่ปริปากบอกกับใครแม้กระทั่งผมเอง”

นายสมจิตรบอกว่า ที่ทราบเรื่องนี้ก็คือออกจากปากน้องสาวของภรรยาตน เพราะภรรยาได้โทรศัพท์ไปบอกกับน้องคือนางมาลา ต่อจากนี้ตนอยากขอวิงวอนคุณหมอที่มีความชำนาญในเรื่องนี้ช่วยรักษาพยาบาลภรรยาของตนด้วยตนเองก็ไม่รู้ว่าอย่างไรแล้ว เพราะทุกวันนี้ก็ต้องดูแลหลานซึ่งก็ป่วยเป็นออทิสติก

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวได้ประสานเจ้าหน้าที่พยาบาล รพ.สต.มอสมบูรณ์ ซึ่งเป็นเขตรับผิดชอบมาตรวจสอบและดูแลรักษา ทำแผลและล้างแผล พร้อมพูดคุยแนะนำในเรื่องสิทธิการรักษา ประวัติการรักษา ซึ่งก็ได้รับคำตอบว่าตั้งแต่ป่วยมาไม่เคยเข้ารับการรักษาที่ไหนมาเลย อย่างไรก็ตาม ผู้ป่วยมีกำลังใจดี คนดูแลดี ที่หนักใจก็คือสภาวะร่างกายที่อ่อนแอ ก็ต้องดูในเรื่องของแผลกดทับ โดยทางญาติได้ไปติดต่อกับทางโรงพยาบาลแล้ว
กำลังโหลดความคิดเห็น