ตาก – ฝ่ายปกครองอำเภอแม่สอด ล้อมจับคนต่างด้าวลอบเดินเท้าฝ่าฝนขึ้นเขาข้ามพรมแดน 5 วันพร้อมยาเสพติด ระยะทางไกลกว่า 100 กม.เข้าเมืองตาก ส่วนคนนำทางวิ่งหนีทัน
บ่ายวันนี้(8 ก.ย.) นายชัยพฤกติ์ เชียรธานรักษ์ นายอำเภอแม่สอด จ.ตาก สั่งการให้นายกิตติคุณ ใจวงษ์ ปลัดอำเภอแม่สอด นำกำลังสมาชิกกองร้อยอาสารักษาดินแดน อ.แม่สอดที่ 3 พร้อมผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 3 และหมู่ที่ 9 ต.แม่กาษา อ.แม่สอด รวมกว่า 30 นายเดินเท้าลาดตระเวนในพื้นที่ล่อแหลม
เมื่อเจ้าหน้าที่ทั้งหมดได้เดินเท้าไปถึงเขาสูงใกล้กับเขตป่าชุมชนท้ายหมู่บ้านแม่กื๊ดหลวง พบขบวนแรงงานต่างด้าวหลายคน ซึ่งทั้งหมดกำลังเดินเท้าฝ่าสายฝนข้ามภูเขามาพร้อมกับกระเป๋าสัมภาระเดินป่า เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเข้าตรวจค้นจนทำให้กลุ่มแรงงานต่างส่งสัญญาณวิ่งหนีจนป่าราบ
แต่เจ้าหน้าที่วิ่งไล่ติดตามจับกุมตัวมาได้ทั้งหมดรวม 7 คน ซึ่งทุกคนอยู่ในสภาพอิดโรยหลังต้องเดินเท้ายาวไกลและค้างแรมกลางป่ารกทึบที่มีฝนตกหนักหลายวัน จนเจ้าหน้าที่ต้องหาอาหารและน้ำดื่มสะอาด พร้อมยารักษาโรคเบื้องต้นจนแรงงานทั้งหมดมีสภาพร่างกายดีขึ้น
จากนั้นเจ้าหน้าที่เข้าขออนุญาตตรวจค้นภายในกระเป๋าที่กลุ่มแรงงานต่างด้าวนำติดตัวมา พบภายในมีอาหารแห้งและข้าวสารจำนวนหนึ่ง ซึ่งระหว่างที่เจ้าหน้าที่กำลังตรวจค้นกระเป๋าพบว่านายอูวินเตย อายุ 51 ปี หนึ่งใน 7 แรงงานต่างด้าวที่ถูกควบคุมตัว มีอาการตัวสั่น และเมื่อเจ้าหน้าตรวจค้นภายในกระเป๋าของนายอูวินเตย พบยาบ้าจำนวน 9 เม็ดซุกซ่อนในบุหรี่ต่างประเทศ
เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวทั้งหมดไปทำการสอบสวนขยายผลที่ว่าการอำเภอแม่สอด ซึ่งนายอูวินเตย หนึ่งในผู้ต้องหาที่พูดภาษาไทยได้ให้การเบื้องต้นว่า มีนายหน้าชักชวนให้ตนพร้อมพวก ข้ามชายแดนจากประเทศเมียนมา มายังประเทศไทย เดินทางมาด้วยกัน 2 ชุด พวกตนเป็นชุดที่ 2 ซึ่งต้องเดินเท้านานกว่า 5 วัน ข้ามภูเขาหลายลูกท่ามกลางฝนตกหนักจนหลายคนป่วย
โดยมีจุดหมายปลายทางที่จังหวัดตากระยะทางไกลไม่ต่ำกว่า 100 กิโลเมตร จากนั้นจะมีนายหน้ามารับที่เพื่อจะนำไปทำงานก่อสร้าง ส่วนยาบ้าตนเองซื้อมาจากเพื่อนร่วมขบวนการราคาเม็ดละ 50 บาท เพื่อนำมาแบ่งกันเสพจะได้เดินทนแดดทนฝน แต่ก็ไปไม่รอดมาถูกจับกุมได้ในระหว่างเดินเท้ากลางป่า เพราะถือฤกษ์วางแผนผิดพลาด เนื่องจากคิดว่าฝนตกหนักจะไม่มีเจ้าหน้าที่ออกตรวจจนมาถูกจับกุมกลางสายฝน ส่วนคนนำทางหลบหนีไปได้
ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอแม่สอด ได้ควบคุมตัวบุคคลต่างด้าวทั้งหมดไปดำเนินคดีตามกฎหมายแล้ว
