สุรินทร์ - มวลน้ำสุดท้ายจากอิทธิพลพายุโพดุลและคาจิกิไหลทะลักท่วมตัวเมือง อ.จอมพระ สถานที่ราชการหลายแห่งจมน้ำ ถนนสายหลักท่วมสูงถูกตัดขาดต้องเลี่ยงใช้เส้นทางอื่นแทน ขณะโรงเรียน อ.ท่าตูมถูกน้ำท่วมยังปิดยาวไปเปิดวันจันทร์หน้า
วันนี้ (5 ก.ย.) สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดสุรินทร์จากอิทธิพลพายุโซนร้อนโพดุลและพายุดีเปรสชันคาจิกิทำให้มีฝนตกต่อเนื่องหลายวันที่ผ่านมา และมีปริมาณน้ำสะสมไหลลงลำห้วยต่างๆ จำนวนมาก ล้นตลิ่งทะลักท่วมในพื้นที่ อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ แล้วนั้น
ล่าสุดปริมาณน้ำสะสมจากพื้นที่ใกล้เคียงได้ไหลเข้าพื้นที่ อ.จอมพระ จ.สุรินทร์ ท่วมถนนทางเข้า อ.จอมพระ และท่วมตัวเมืองจอมพระ สถานที่ราชการหลายแห่ง เช่น ที่ว่าการอำเภอจอมพระ, สถานีตำรวจจอมพระ, โรงพยาบาลจอมพระ, สำนักงานเทศบาลตำบลจอมพระ และ อบต.จอมพระ รวมถึงบ้านพักข้าราชการ ซึ่งถนนสายหลักเข้า อ.จอมพระมีระดับน้ำท่วมสูงถึง 80 เซนติเมตร (ซม.) รถไม่สามารถสัญจรผ่านไปได้ ต้องเลี่ยงไปใช้เส้นทางอื่นแทน รวมทั้งถนนหมายเลข 214 ที่ผ่านกลางเมืองอำเภอจอมพระมีน้ำท่วมสูงประมาณ 20-30 ซม.ตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจและอาสาสมัครต้องคอยอำนวยสะดวกรถประชาชนที่สัญจรผ่านไปมาตลอดทั้งวัน
นอกจากนี้ยังพบว่าน้ำได้ไหลเข้าไปยังพื้นที่ชุมชนในตลาดอำเภอจอมพระ และโรงเรียนบ้านจอมพระ ซึ่งเป็นโรงเรียนชั้นประถมศึกษาขนาดใหญ่ประจำอำเภอ โดยน้ำได้ท่วมบริเวณหน้าอาคารเรียนชั้นอนุบาลและชั้นประถมศึกษา แต่เป็นอาคารสูงจึงไม่ได้รับผลกระทบมากนักยังสามารถเปิดการเรียนการสอนได้ตามปกติ
อย่างไรก็ตาม หลังจากพายุโพดุลและคาจิกิพัดผ่านไปแล้วและยังไม่มีฝนตกลงมา ทำให้ปริมาณน้ำตามลำห้วยต่างๆ เริ่มลดลง รวมถึงมวลน้ำสุดท้ายจากอิทธิพลของพายุที่ไหลเข้าท่วมถนนและตัวเมือง อ.จอมพระได้ลดระดับลงอย่างต่อเนื่องเช่นกัน คาดว่าสถานการณ์น้ำท่วมจะคลี่คลายเข้าสู่ภาวะปกติใน 1-2 วันนี้
ในขณะที่สถานการณ์น้ำท่วมโรงเรียนบ้านทุ่งโก ต.หนองเมธี อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ สังกัดสำนักงานเขตประถมศึกษาสุรินทร์ เขต 2 ซึ่งเป็นโรงเรียนตั้งอยู่ติดกับลำห้วยลึกก่อนไหลลงสู่แม่น้ำมูลนั้น ล่าสุดระดับน้ำท่วมโรงเรียนเริ่มลดลงแล้ว เนื่องจากคันดินกั้นลำห้วยใกล้กับสะพานทางน้ำไหลเกิดขาด ทำให้น้ำเปลี่ยนทิศทางออกไป แต่ทางโรงเรียนยังคงปิดการเรียนการสอนไปอีก 2 วันและต่อเนื่องวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ เพื่อให้สถานการณ์น้ำท่วมเข้าสู่ภาวะปกติ โดยจะเปิดการเรียนการสอนตามปกติในวันจันทร์ที่ 9 ก.ย.นี้
อย่างไรก็ตาม มวลน้ำที่ไหลผ่านพื้นที่ อ.จอมพระได้ไหลไปตามลำห้วยต่างๆ ก่อนไปลงแม่น้ำมูลที่ อ.ท่าตูม และ อ.รัตนบุรี จ.สุรินทร์ ซึ่งน้ำได้ไหลหลากเข้าท่วมนาข้าวหอมมะลิทั้งสองฝั่งลำห้วยกลายเป็นทะเลน้ำจืดต้นข้าวจมใต้น้ำเป็นบริเวณกว้างหลายพันไร่ ซึ่งหากน้ำท่วมขังนานเป็นสัปดาห์จะทำให้ต้นข้าวเน่าเสียหายได้