นครสวรรค์ - เจ้าอาวาสวัดบ้านบุ่ง โร่เข้าขอขมาเจ้าคณะอำเภอลาดยาว อ้างโดนศรัทธากดดันหลังเอาเงินวัดใช้หนี้แทนญาติ จนโพล่งซื้อตำแหน่งเจ้าคณะตำบลฯ พร้อมยอมรับผิดตามมติคณะสงฆ์
ความคืบหน้ากรณีพระครูนิคมพัฒนพิธาน เจ้าอาวาสวัดบ้านบุ่ง ต.ศาลเจ้าไก่ต่อ อ.ลาดยาว จ.นครสวรรค์ ถูกชาวบ้านขับไล่จนเป็นข่าวมาก่อนหน้านี้ ถึงความไม่โปร่งใสเรื่องการดูแลเงินวัด ซึ่งพระรูปนี้ยอมรับว่าเงินที่หายไปจำนวนมากนั้นส่วนหนึ่งนำไปวิ่งเต้นซื้อขายตำแหน่งเจ้าคณะตำบลเป็นเงินหลายแสนบาท แต่ก็ไม่ได้รับการแต่งตั้ง แต่ไม่ยอมบอกว่าจ่ายเงินกับใคร อย่างไร บอกเพียงเดี๋ยวจะนำเงินมาคืนให้ สร้างความไม่พอใจและคลางแคลงใจแก่ศรัทธาชาวบ้านเป็นอย่างมาก
ล่าสุด วันนี้ (5 ก.ย.) เจ้าอาวาสวัดบ้านบุ่งที่ถูกคณะสงฆ์สั่งพักงานจากตำแหน่งเจ้าอาวาสแล้ว ได้เดินทางมาที่วัดศรีสุธรรมมาราม เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับพระศรีสุทธิพงศ์ เจ้าคณะอำเภอลาดยาว ซึ่งมีการเปิดใจยอมรับผิดกับคำพูด อ้างว่าที่พูดไปเพราะโดนกดดันและพูดไปโดยไม่ทันยั้งคิดจนทำให้คณะสงฆ์เสื่อมเสีย และขอรับผิดตามมติสงฆ์ พร้อมกับยืนยันด้วยว่าคณะสงฆ์ไม่มีการซื้อขายตำแหน่งตามที่พูดออกไป
ต่อมาเจ้าอาวาสวัดบ้านบุ่งได้ทำพิธีขอขมากับคณะสงฆ์ พร้อมกับให้การอ้างว่าเงินที่ได้ยืมไปนั้นได้เอาไปใช้หนี้ให้ญาติ แต่ก็จะรีบหามาใช้คืนให้กับทางวัดต่อไป แต่ไม่ได้ระบุว่าวันไหน เมื่อไหร่
อย่างไรก็ตาม หลังจากเสร็จพิธีขอขมา ทางพระศรีสุทธิพงศ์ เจ้าคณะอำเภอลาดยาว ได้ชี้แจงว่า หลังจากนี้ในเรื่องของคดีความก็จะต้องดำเนินไปตามกระบวนการ หากพบข้อกฎหมายใดที่ทำผิดก็ต้องดำเนินการตามข้อร้องเรียนจนกว่าทางคณะสงฆ์จะมีมติกับเรื่องที่เกิดขึ้นซึ่งขณะนี้ได้รับมอบหมายให้เข้าไปรักษาการเจ้าอาวาสวัดบ้านบุ่ง แทน เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย
ทั้งนี้ เมื่อ 4 ก.ย.ที่ผ่านมา พระราชรัตนเวที รองเจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์ (รองประธานคณะกรรมการฝ่ายปกครองคณะสงฆ์จังหวัดนครสวรรค์) พร้อมด้วยพระราชปริยัติวิธาน รองเจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์ และคณะกรรมการฝ่ายปกครองคณะสงฆ์จังหวัดนครสวรรค์ ได้ชี้แจงกรณีการแต่งตั้งถอดถอนพระสังฆาธิการ โดยเฉพาะตำแหน่งเจ้าคณะตำบลตามที่ปรากฏเป็นข่าวนั้นต้องผ่านการพิจรณากลั่นกรองจากเจ้าคณะอำเภอ และส่งต่อให้คณะปกครองสงฆ์จังหวัด-เจ้าคณะภาคตามลำดับ และจะเกิดขึ้นเมื่อตำแหน่งเจ้าคณะตำบลว่างลงเท่านั้นถึงจะมีการพิจารณาสรรหาพระสังฆาธิการที่มีคุณสมบัติเหมาะสมตามกฎมหาเถรสมาคมฉบับที่ 24
โดยเลขานุการเจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์เป็นผู้รับเรื่องเข้าในสารบบ หลังจากนั้นจึงทำการตรวจสอบคุณสมบัติว่าครบถ้วนตามกฎมหาเถรสมาคม จึงเสนอให้เจ้าคณะจังหวัดพิมพ์ใบตราตั้งเพื่อลงนามต่อไป
ดังนั้น กรณีของเจ้าอาวาสวัดบ้านบุ่ง ต.ศาลเจ้าไก่ต่อ อ.ลาดยาว ที่ได้ให้ข้อมูลว่านำเงินไปซื้อตำแหน่งเจ้าคณะตำบลนั้นช่วงเวลานี้ไม่มีตำแหน่งเจ้าคณะตำบลว่างลง การที่จะกล่าวอ้างว่านำเงินไปซื้อตำแหน่งนั้นจึงเป็นไปไม่ได้ เพราะตำแหน่งไม่มีว่างจึงไม่มีการแต่งตั้ง
ส่วนการกล่าวอ้างและด้านคดีความนั้น ทางคณะสงฆ์ยังคงเร่งดำเนินการตรวจสอบถึงข้อร้องเรียนดังกล่าวตามเอกสารที่ผู้ร้องส่งมาพร้อมสั่งพักงานเจ้าอาวาสวัดบ้านบุ่ง เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมทั้งผู้ร้องและผู้ถูกร้อง จนกว่าจะมีข้อพิจารณาที่ชัดเจน หรือถึงคดีสิ้นสุดลง พร้อมให้เจ้าอาวาสวัดบ้านบุ่งเร่งชี้แจงถึงเหตุดังกล่าวที่มีการกล่าวอ้างไปแล้วนั้น หากไม่มีพยานหลักฐานก็จะให้คณะสงฆ์ดำเนินคดีหมิ่นประมาทต่อไป
