xs
xsm
sm
md
lg

ทลฉ.ใจป้ำทุ่มกว่า 600 ล้าน ผุด "ตลาดปลา" แบบญี่ปุ่น ให้ชาวบ้านรอบท่าเรือใช้แบบฟรีๆ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ศูนย์ข่าวศรีราชา - ฝันเป็นจริง! ของชาวบ้านรอบท่าเรือแหลมฉบัง หลัง ทลฉ. เตรียมทุ่มงบกว่า 600 ล้านบาท พัฒนาพื้นที่ 55 ไร่ บริเวณปากคลองบางละมุง เป็นตลาดปลาแบบครบวงจร ทั้งแหล่งซื้อขายอาหารทะเลสด แห้ง พื้นที่พักผ่อนและแหล่งท่องเที่ยวทางทะเล เทียบชั้นตลาดปลาญี่ปุ่น โดยให้ชาวบ้านรอบท่าเรือใช้แบบฟรีๆ ไปเลย

นางสิริมา กีรตยานุคม ผู้อำนวยการสำนักบริหารท่าเรือแหลมฉบัง เผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ ท่าเรือแหลมฉบังได้ลงนามในสัญญากับบริษัทที่ชนะการประกวดราคา การออกแบบในรายละเอียดในการก่อสร้างตลาดปลา บนพื้นที่ 55 ไร่ บริเวณปากคลองบางละมุง ซึ่งจะเนรมิตให้เป็นตลาดปลาแบบครบวงจร ทั้งแหล่งซื้อขายอาหารทะเลสด แห้ง พื้นที่พักผ่อน และแหล่งท่องเที่ยงทางทะเล โดยยึดโมเดลแบบตลาดปลาของประเทศญี่ปุ่น เพื่อส่งเสริมการค้าและสนับสนุนความเป็นอยู่ที่ดีให้แก่ชุมชนรอบท่าเรือแหลมฉบัง งบประมาณลงทุน ทั้งออกแบบและการก่อสร้างประมาณ 600 ล้านบาท

ภายในโครงการจะมีทั้งสะพานปลาติดทะเล อาคารตลาดสด ร้านค้าปลีกและร้านอาหาร ที่สำคัญคือ ต้องมีตลาดปลา ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวเป็นทำเลในการทำประมงที่มีทั้งของสดๆ จากเรืออยู่แล้ว โดยชาวประมงที่จับสัตว์น้ำขึ้นมา ต้องนำไปส่งขายตามตลาดต่างๆ นอกพื้นที่ ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการเดินทาง หากมีตลาดปลาในพื้นที่แล้วจะได้รับความสะดวกสบายและลดค่าใช้จ่ายด้วย ส่วนอาหารทะเลแปรรูป ก็สามารถที่นำมาจากแหล่งอื่นได้เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางมาท่องเที่ยวในพัทยา นาเกลือ และมาจับจ่ายซื้อสินค้า

โดยที่ผ่านมา ได้มีการออกแบบร่วมกับชุมชนโดยรอบท่าเรือฯ เพื่อให้ได้ตลาดปลาที่ตรงใจกับชาวบ้านมากที่สุด อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ชุมชนอยากได้คือลานวางไม้ปักหอย ซึ่งได้บรรจุอยู่ในรายละเอียดการออกแบบ (Detail Design) คาดว่าจะเสร็จและก่อสร้างได้ในเร็วๆ นี้ โดยจะใช้เวลาก่อสร้างประมาณ 1-2 ปี ทั้งนี้ตลาดดังกล่าวจะเปิดให้บริการฟรีในบางจุดให้แก่ชาวบ้าน

นางสิริมา เผยอีกว่า โครงการดังกล่าวเป็นโครงการระดับต้นๆ ที่ภาคประชาชนเสนอให้การท่าเรือดำเนินการให้ เพื่อให้เป็นพื้นที่ส่วนกลางให้แก่ชุมชน และได้มีการเสนอเข้าสู่คณะอนุกรรมการพัฒนาชุมชนและสังคมรอบท่าเรือแหลมฉบัง โดยที่ผ่านมา ชาวบ้านบางละมุง เล็งเห็นพื้นที่ดังกล่าวว่า ถ้าจะนำมาพัฒนาด้านธุรกิจของท่าเรือฯ ก็จะมีผลกระทบต่อความเป็นอยู่ของประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ได้ ซึ่งได้มีการพูดคุยกันมานานประมาณ 6 ปีแล้ว

นอกจากนี้ ยังกันพื้นที่ในส่วนของสวนสาธารณะ เพื่อให้ชุมชนรอบท่าเรือแหลมฉบังเข้ามาใช้ประโยชน์ โดยมีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ไว้รองรับ โดยบริษัทที่รับออกแบบนั้นมีการออกแบบที่ทันสมัย สำหรับรูปแบบที่ออกมานั้น มีภาคประชาชนบ้านบางละมุงและแหลมฉบังเข้ามาให้ความคิดเห็นด้วย ดังนั้น รูปแบบที่ออกมาจึงสามารถใช้สอยได้กับทุกชุมชนรอบท่าเรือและชุมชนใกล้เคียง

นางสิริมา เผยอีกว่า “ในพื้นที่ 55 ไร่นั้น ในความเป็นจริงต้องการให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ในรูปแบบของตลาดปลา แบบครบวงจร รวมทั้งทางชุมชนต้องการให้เป็นแหล่งรองรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการออกไปตกหมึก ตกปลากลางทะเล หรือล่องเรือ จากปากคลองบางละมุงออกไปในทะเล บริเวณใกล้ๆ ชมธรรมชาติริมทะเล เพื่อสร้างงาน สร้างรายได้ให้แก่ชุมชน และคาดว่าภายใน 1-2 ปีนี้ ตลาดปลาจะเป็นแหล่งท่องเที่ยวอีกแห่งที่น่าสนใจของจังหวัดชลบุรี อย่างแน่นอน หลังจากที่ถูกทิ้งร้างมานานจนมีผู้บุกรุกเข้ามาก่อสร้างอาคารที่อยู่อาศัย

ทางด้าน นายรังสรรค์ สมบูรณ์ ชาวประมงบ้านบางบะมุง เผยว่า โครงการดังกล่าวเป็นโครงการที่ดี ซึ่งที่ผ่านมาพวกเราได้ร้องขอให้มีการพัฒนาพื้นที่ดังกล่าวเพื่อให้ประชาชนได้ใช้ประโยชน์ร่วมกัน จึงได้มีการผลักดันโครงการดังกล่าวขึ้นมานานถึง 6 ปี กว่าจะได้มีวันนี้ แต่อยากฝากถึงการออกแบบในรายละเอียด สำหรับพื้นที่บางส่วนบริเวณพื้นที่ 55 ไร่ ซึ่งมีบ้าน 9 หลัง และบริเวณสุสาน โดยขอให้กันพื้นที่ดังกล่าวออกจากการดำเนินโครงการดังกล่าวด้วย

อนึ่ง พื้นที่ 55 ไร่ บริเวณปากคลองบางมะลุง เป็นที่ดินของท่าเรือแหลมฉบัง โดยในปี พ.ศ.2521 รัฐบาลได้ตราพระราชบัญญัติเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ในท้องที่ตำบลทุ่งสุขลา อำเภอศรีราชา และตำบลบางละมุง อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี ขึ้น เพื่อเวนคืนที่ดินในท้องที่ดังกล่าวรวมทั้งหมดประมาณ 6,340 ไร่ เพื่อให้มาเป็นทรัพย์สินของการท่าเรือแห่งประเทศไทย สำหรับใช้ในการก่อสร้างท่าเรือแหลมฉบัง

โดยจะต้องมีการอพยพประชาชนออกจากพื้นที่ซึ่งส่วนใหญ่ประกอบอาชีพประมง ทางจังหวัดชลบุรี จึงร่วมกับการท่าเรือแห่งประเทศไทย ได้จัดสรรพื้นที่สาธารณประโยชน์เพื่อสร้างท่าเทียบเรือประมง และที่อยู่อาศัยให้แก่ประชาชนเป็นการชดเชยให้ คือ ที่บริเวณปากคลองบางละมุง แต่ปรากฏว่า ชาวบ้านไม่มีใครยอมมาย้ายมาอยู่ ทำให้พื้นที่ดังกล่าวซึ่งมีพื้นที่ประมาณ 55 ไร่ ว่างเปล่าไม่มีการใช้ประโยชน์ และมีกลุ่มผู้บุกรุกเข้ามาปลูกสิ่งปลูกสร้างจำนวนมาก




กำลังโหลดความคิดเห็น