xs
xsm
sm
md
lg

ชาววังทองเฮลั่นรับ “นายกฯ ลุงตู่” ช่วยเหยื่อน้ำท่วม พิษณุโลก-สุโขทัยชงของบ 4 พันล้าน เห็นชอบแค่ 31 ล้าน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


พิษณุโลก/สุโขทัย - ชาววังทองเป็นปลื้มตบมือสนั่นรับ “นายกฯ ตู่” ลงพื้นที่น้ำท่วม ขณะที่พิษณุโลก-สุโขทัยเสนอของบทำโครงการฯ เฉียด 4 พันล้าน แต่เห็นชอบแค่ซ่อมตลิ่งพัง 20 ล้าน และแก้มลิงห้วยน้ำสุด 11 ล้าน


วันนี้ (4 ก.ย.) พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม, พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.กระทรวงมหาดไทย, นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ประชุมร่วมกับผู้ว่าฯ ภาคเหนือ 17 จังหวัด เพื่อติดตามสถานการณ์อุทกภัยและการช่วยเหลือประชาชนที่ศาลากลางจังหวัดพิษณุโลก

โดยรับฟังรายงานสถานการณ์อุทกภัยตอนหนึ่งว่า เขื่อนแควน้อยบำรุงแดนมีปริมาณน้ำเก็บกักสูงสุด 939 ล้าน ลบ.ม. ปัจจุบันเก็บกัก 276 ล้าน ลบ.ม. (คิดเป็น 29%) ปริมาณน้ำใช้การ 234 ล้าน ลบ.ม. (คิดเป็น 26%) ปริมาณฝนสะสมจังหวัดพิษณุโลก 1 ม.ค.-31 ส.ค. 2562 วัดได้ 626.50 มม. (ค่าเฉลี่ยรายปีสะสม 1,317.00 มม. )

สำหรับสถานการณ์อุทกภัย จากอิทธิพลของพายุโพดุลทำให้เกิดน้ำท่วมบ้านเรือน ตั้งแต่ต้นน้ำชมพู อ.เนินมะปราง ผ่าน อ.วังทอง, อ.บางกระทุ่ม ลงสู่แม่น้ำน่าน ต.ท่าหลวง อ.เมืองพิจิตร ปัจจุบัน อ.เนินมะปรางเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว

ส่วนแม่น้ำวังทอง อ.วังทอง มีต้นน้ำมาจากเทือกเขา จ.เพชรบูรณ์ ไหลลงแม่น้ำเข็กจนเอ่อล้นตลิ่ง และผ่าน อ.วังทอง ซึ่งเรียกว่า แม่น้ำวังทอง เข้าท่วมย่านเศรษฐกิจตลาด 120 ปีวังทอง จากนั้นไหลสู่ อ.บางกระทุ่ม จ.พิษณุโลก ก่อนจะไหลเข้า ต.ท่าฬ่อ อ.เมืองพิจิตร มีพื้นที่ประสบภัยในเขต 5 อำเภอ 36 ตำบล 251 หมู่บ้าน 30,072 ครัวเรือน ผู้เสียชีวิต 1 ราย คาดว่าภายใน 2-3 วันน้ำท่วมในเขต อ.วังทองจะเข้าสู่ภาวะปกติ

นอกจากนี้ยังมีการเสนอแผนบริหารจัดการน้ำเพื่อแก้ปัญหาอุทกภัยและภัยแล้งระยะยาว ทั้งพิษณุโลกและสุโขทัย 10 โครงการ มูลค่า 3,996,000,000 บาท เช่น โครงการพัฒนาลุ่มน้ำคลองชมพู ด้วยการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำคลองชมพู ต.ชมพู อ.เนินมะปราง ขนาด 90 ล้าน ลบ.ม. งบ 2,000 ล้านบาท กรมชลประทานเคยได้ว่าจ้างสำรวจออกแบบ แต่ติดปัญหากลุ่มอนุรักษ์ต่อต้านในพื้นที่, โครงการพัฒนาลุ่มน้ำวังทอง ก่อสร้างอ่างเก็บน้ำ 2 แห่ง ได้แก่ อ่างเก็บน้ำห้วยระเบย ต.บ้านแยง อ.นครไทย ความจุ 40 ล้าน ลบ.ม. งบประมาณ 750 ล้านบาท ซึ่งกรมชลประทานได้ว่าจ้างบริษัทสำรวจออกแบบ และอ่างเก็บน้ำห้วยแยง ความจุประมาณ 40 ล้าน ลบ.ม. ยังไม่ได้รับการสำรวจออกแบบ งบประมาณ 800 ล้านบาท เป็นต้น

แต่พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เห็นชอบโครงการแก้ปัญหาน้ำท่วม เฉพาะการซ่อมแซมพนังป้องกันตลิ่ง ต.เนินกุ่ม อ.บางกระทุ่ม จ.พิษณุโลก วงเงินงบประมาณ 20 ล้านบาท, โครงการแก้มลิงบ้านห้วยน้ำสุด พร้อมอาคาร ต.หินลาด อ.วัดโบสถ์ จ.พิษณุโลก งบประมาณ 11 ล้านบาท โดยให้ดำเนินการในปีงบประมาณ 63


จากนั้นคณะนายกรัฐมนตรีได้เดินทางด้วยรถยนต์หมายเลขทะเบียน 2กร 6767 กรุงเทพมหานคร เข้าเยี่ยมให้กำลังใจประชาชน-มอบถุงยังชีพแก่ผู้ประสบอุทกภัย (จัดเตรียมไว้จำนวน 2,200 ชุด) ที่วัดดงพลวงศรีวนาราม หมู่ที่ 7 ต.วังพิกุล อ.วังทอง จ.พิษณุโลก ซึ่งทันทีที่ขบวนนายกฯ มาถึง ชาวบ้านได้นำผ้าขาวม้ามาผูกเอวทันที ก่อนที่นายกฯ จะขึ้นเวทีพูดกับผู้ประสบภัยน้ำท่วมท่ามกลางเสียงปรบมือต้อนรับดังสนั่น

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า รัฐบาลมุ่งหวังที่จะแก้ปัญหาให้แก่พี่น้องประชาชน แต่ปัญหาดังกล่าวต้องใช้เวลาในการแก้ไข ไม่ว่าจะเป็นเรื่องน้ำท่วม ฝนแล้ง ความยากจน เพราะเป็นปัญหาที่มีมายาวนาน อย่างไรก็ตาม การเข้ามาเป็นนายกรัฐมนตรีเพราะตั้งใจมาแก้ปัญหาให้ประชาชนอย่างแท้จริง เพื่อให้หายจากความยากจนและมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น


“ทุกจังหวัดเดือดร้อน ท่วมแล้วก็แล้ง จะทำอย่างไรที่จะเก็บน้ำไว้ได้ ขึ้นอยู่กับประชาชน วันนี้ทำเขื่อนก็ไม่ได้ เพราะฝนตกใต้เขื่อน ถ้าขืนทำแบบเก่า ก็ซ้ำเหมือนเดิมไม่เอาแล้ว จะต้องคิดว่าทำอย่างไรถึงจะเก็บน้ำไว้ใช้ยามแล้ง ลักษณะแก้มลิง อาจขอเช่าพื้นที่จากประชาชนก็ได้”

นายกฯ ยังหยอดคำหวานว่า พยายามแก้ปัญหาทั้งความยากจน ภัยแล้ง น้ำท่วม ขอให้ประชาชนมั่นใจเพราะรัฐบาลทำด้วยใจ ซึ่งทำให้ประชาชนที่มารอต้อนรับส่งเสียงเฮด้วยความดีใจ บ้างก็มอบพวงมาลัยดอกไม้ บ้างก็สวมกอด และขอถ่ายรูปเซลฟี

จากนั้นนายกรัฐมนตรี และคณะได้เดินทางต่อไปที่ จ.สุโขทัย ตรวจเยี่ยมพื้นที่ประสบอุทกภัยที่ประตูระบายน้ำบ้านหาด สะพานจันทร์ อำเภอสวรรคโลก จังหวัดสุโขทัย และจะเดินทางกลับกรุงเทพฯ ช่วงค่ำวันเดียวกัน

ส่วนพื้นที่พิจิตรที่ต้องรับน้ำจาก อ.เนินมะปราง จ.พิษณุโลก, อ.วังโป่ง จ.เพชรบูรณ์ ถูกน้ำท่วมตั้งแต่วันที่ 29 ส.ค. จนถึงวันนี้มีผลกระทบในพื้นที่ 10 อำเภอ 32 ตำบล 185 หมู่บ้าน 9,436 ครัวเรือน พื้นที่การเกษตรเสียหายประมาณ 110,698 ไร่ บ่อปลา 13 บ่อ วัด/โรงเรียน 7 แห่ง มีผู้เสียชีวิตแล้ว 2 ราย

กำลังโหลดความคิดเห็น