ศูนย์ข่าวศรีราชา- ชาวบ้านนาเกลือ รวมตัวร้องเมืองพัทยา เหตุได้รับความเดือดร้อนจากโครงการทำระบบระบายน้ำย่านนาเกลือ ที่ต้องปิดกั้นถนนขุดเจาะวางระบบท่อ ส่งผลผู้ประกอบการค้าขายไม่ได้ วอนทบทวนแก้ไขแบบเพื่อลดผลกระทบ
วันนี้ (30 ส.ค.) ชาวบ้านใน ต.นาเกลือ ตั้งแต่บริเวณริมถนนสายพัทยา-เกลือ จากคลองปึกพลึบถึงแยกนำชัย และตลาดใหม่นาเกลือกว่า 50 คน ได้รวมตัวกันที่ร้านอาม่า คอฟฟี่ ถนนสายพัทยานาเกลือ เพื่อร้องเรียนและคัดค้านโครงการก่องสร้างท่อรวบรวมน้ำเสียและระบบระบายน้ำฝนถนนสว่างฟ้าพฤฒาราม ตลอดแนวเส้นจากปากทางสุขุมวิท-แยกนำชัย และช่วงที่ 2 ปากคลองปึกพลับถึงตลาดเก่านาเกลือ รวมทั้งบริเวณปากคลองนาเกลือ เนื่องจากได้รับผลกระทบจากการก่อสร้างทั้งเรื่องของการขุดเจาะผิวจราจร เพื่อวางระบบท่อและคืนพื้นที่ที่ล่าช้า, ปัญหาฝุ่นละอองกรณีดินทรุดตัว, การเข้า-ออก การจราจรและผลกระทบด้านการค้าขาย
โดยมี นายนิรันดร์ วัฒนศาสตร์สาธร อดีตนายกเมืองพัทยา, นายสินไชย วัฒนศาสตร์สาธร สมาชิกสภาเมืองพัทยา, นายบดินทร์ภัทร์ ธวัชไพบลูย์ วิศวกรโยธาปฏิบัติการ สำนักการช่างสุขาภิบาลเมืองพัทยา และ นายประมวล ทองใบ ผู้รับเหมาโครงการจาก หจก.บุญกิจธนา เข้าร่วมรับฟังปัญหา และชี้แจงแผนการดำเนินก่อสร้างโครงการโครงการก่อสร้างท่อรวบรวมน้ำเสีย และระบายน้ำฝนถนนสว่างฟ้าเพื่อสร้างความเข้าใจกับชาวบ้าน
นายสินไชย วัฒนศาสตร์สาธร สมาชิกสภาเมืองพัทยา กล่าวสรุปหลังการพบปะกับกลุ่มชาวบ้านว่าการรับฟังปัญหาความเดือดร้อนของชาวบ้านเกี่ยวกับโครงการก่อสร้างท่อรวบรวมน้ำเสียและระบายน้ำฝนถนนสว่างฟ้าฯนั้น ประเด็นหลักที่ชาวบ้านกังวลคือการขุดเจาะผิวจราจรเพื่อวางระบบท่อระบายน้ำ ซึ่งขณะนี้กำลังดำเนินการในส่วนคลองปึกพลับไปถึงแยกนำชัย เนื่องจากจำเป็นต้องมีการปิดกั้นผิวจราจรทำให้ผู้ประกอบการริมฝั่งถนนไม่สามารถประกอบการได้ เพียงแต่ถนนสายนี้ยังมีขนาดกว้างกว่า 4 เลนหรือกว่า 12 เมตรจึงสามารถเปิดให้รถสัญจรได้เพียง 2 ช่องจราจร แต่ก็มีปัญหาเรื่องการทำกิน ฝุ่นละออง การเข้าออก และปัญหาอาคารทรุดจาดดินถล่ม ซึ่งในช่วงแรกนี้ก็ใกล้จะดำเนินการแล้วเสร็จจึงเร่งรัดให้ดำเนินการโดยเร็วและเร่งคืนผิวจราจรเพื่อลดปัญหา
" ส่วนที่ชาวบ้านเป็นห่วงอย่างมากคือ การที่ผู้รับเหมาจะเข้าไปเปิดหน้างานก่อสร้างบนถสนนสายวัดสว่างฟ้าฯจนถึงปากทางสุขุมวิท-แยกนำชัย ซึ่งถนนเส้นนี้มีความกว้างเพียง 2 เลน หรือประมาณ 6 เมตรเท่านั้น โดยตามแผนจะมีการวางบล็อกคอนเวิร์สขนาด 2.10x2.10 เมตร คู่ขนาดเพื่อรับน้ำจำนวนมหาศาลจากทิศตะวัน ออกระบายลงสู่ทะเล จึงต้องมีการปิดจราจรเป็นช่วงๆตามแผน ระยะทางช่วงละ 100-150 เมตร ตลอดความยาวกว่า 1 กม.ซึ่งใช้เวลาทำงานนานหลายเดือน กรณีนี้จะทำให้การสัญจรไปมาลำบากมากขึ้น การค้าขายก็ย่อมได้รับผลกระทบไปด้วย "
นายนิรันดร์ ยังเผยอีกว่าโครงการดังกล่าวจะเริ่มทำในช่วงต้นเดือน ต.ค.นี้ ชาวบ้านจึงหวั่นถึงผลกระทบในเรื่องของการทำมาค้าขาย ปัญหาการจราจรติดขัด และอื่นๆ โดยระบุว่าน้ำที่ท่วมมาจากแหล่งอื่นจึงควรไปแก้ที่ต้นทาง หรือควรหาทางเบี่ยงไปทำโครงการบนถนนเส้นอื่นแทน จึงอยากจะให้เมืองพัทยาระงับการก่อสร้างโครงการบนพื้นที่หน้าตลาดใหม่นาเกลือ หรือแก้ไขปรับปรุงโครงการอีกครั้งก่อนลงมือทำ ที่สำคัญการดำเนินโครงการฯชาวบ้านไม่เคยได้รับฟังคำชี้แจงหรือสอบถามความคิดเห็นมาก่อน แม้จะเคยมีการพูดคุยกันแล้ว 1 ครั้งที่ โรงเรียนเมืองพัทยา 3 แต่ก็เป็นการพูดคุยกันเฉพาะกลุ่มขณะที่ผู้เดือดร้อนไม่ได้รับรู้ถึงกรณีดังกล่าวด้วย
" ที่สำคัญในช่วงที่ 3 จะมีการขุดเจาะผิวจราจรจากแยกนำชัยเพื่อต่อเชื่อกบท่อจากถนนวัดสว่างฯนำน้ำไปลงบริเวณตลาดเก่าลานโพธิ์ และสะพานยานนาเกลือ ซึ่งกรณีนี้ก็ส่งผลกระทบเช่นกัน จึงไม่ทราบจะหาทางออกอย่างใดจึงได้เข้าร้องเรียนกับทางอดีตนายกเมืองพัทยา และสมาชิกสภาเมืองพัทยา อย่างไรก็ตามเบื้องต้นหลังจากรับเรื่องข้อร้องเรียนนี้แล้ว ส่วนตัวในฐานะสมาชิกสภาเมืองพัทยาก็จะนำปัญหาความเดือดร้อนของชาวบ้านส่งต่อไปยังผู้บริหารเมืองพัทยา ในการหาแนวทางแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านต่อไป"
ทั้งนี้การจัดทำโครงการของเมืองพัทยาหลายโครงการที่อาจส่งผลกระทบกบชุมชนหรือสังคมนั้น การประชาสัมพันธ์หรือชี้แจงถึงความจำเป็นหรือข้อดี-ข้อเสีย ไม่มีการส่งสัญญาณหรือชี้แจงได้อย่างเข้าถึงกับประชาชนเท่าใดนัก ซึ่งเรื่องนี้ถือเป็นสิ่งสำคัญที่เมืองพัทยาควรจะแก้ไข แม้โครงการนี้ส่วนตัวมองแล้วว่าจะเป็นประโยชน์อย่างมากในอนาคต ทั้งการระบายน้ำที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น และการแยกท่อระบายระหว่างน้ำดีและน้ำเสีย เพื่อลดมลภาวะที่จะเกิดขึ้นในทะเลหลังการระบายน้ำเนื่องจากเป็นงบประมาณที่ได้รับการอุดหนุนจากรัฐบาล ซึ่งหากมีการชี้แจงที่ดีให้ประชาชนได้รับทราบและเข้าใจถึงข้อดีในอนาคตของโครงการเหล่านี้ประชาชนก็มีโอกาสได้นำกลับไปคิดถึงประโยชน์กับผลกระทบที่ได้รับในช่วงระหว่างก่อสร้างได้
ด้านนายบดินทร์ภัทร์ ธวัชไพบลูย์ วิศวกรโยธาฝ่ายปฏิบัติการ สำนักการช่างสุขาภิบาลเมืองพัทยา กล่าวว่าโครงการระบบระบาน้ำและยกน้ำเสียซอยวัดสว่างฟ้าฯ และถนนสายพัทยานาเกลือ เพื่อแก้ไขปัญหาน้ำท่วมขังในระยะยาว เป็นโครงการที่ได้รับงบประมาณอุดหนุนปี 2562 จากรัฐบาลจำนวน 110 ล้านบาท แต่ผู้รับเหมาประมูลไปในงบประมาณ 101 ล้านบาท โดยตามแผนจะดำเนินงานในช่วงเดือนพฤษภา คมปี 2561-มีนาคม 2562 ในช่วงระยะเวลารวม 9 เดือน โดยทำการวางระบบท่อขนาดใหญ่แบบบล็อกคอนเวิร์ส ขนาด 2.10x2.10 แบบคู่ขนานจากปากทางสุขุมวิทไปถึงแยกนำชัย ในระยะทาง 780 เมตร ซึ่งจะเริ่มทำในวงเดือน ต.ค.เป็นต้นไปจนแล้วเสร็จประมาณ 4 เดือน เพื่อไปต่อเชื่อมกับโครงการวางท่อระบายน้ำแบบบล็อคคอนเวิร์สขนาด 1.5x1.5 เมตรแบบคู่ขนานเพื่อรับน้ำไปลงคลองปึกพลับระยะทาง 350 เมตร
และอีกเส้นคือการวางท่อระบายน้ำแบบบล็อคคอนเวิร์สขนาด 2.10x2.10 เมตรแบบคู่ขนาดจากแยกนำชัยไปลงตลาดเกล่านาเกลือ ซอยคานเรือ และปากคลองนาเกลือ ระยะทาง 250 เมตร ซึ่งหากแล้วเสร็จคาดว่าจะสามารถแก้ไขปัญหาน้ำท่วมได้อย่างถาวรในอนาคต เนื่อง จากโซนนี้รับน้ำจากฝั่งตะวันออกที่ไหลบ่ามาเป็นจำนวนมากแต่ท่อเดิมขนาดเล็กจึงทำให้เกิดการท่วมขัง ซึ่งต่อจากนี้ก็จะมีโครงการต่อท่อเชื่อมจากแหล่งต้นน้ำเพื่อให้ไหลลงสู่ท่อระบายและไหลลงสู่ทะเลโดยลดผลกระทบกับประชาชนในย่านนาเกลือทั้งหมด
" โดยส่วนตัวแล้วมองว่าโครงการนี้เป็นโครงการที่มีความสำคัญและจะมีประโยชน์อย่างมากในอนาคต โดยเฉพาะถือเป็นโอกาสดีที่จะมีท่อระบายน้ำขนาดใหญ่และแยกระบบน้ำดีกับน้ำเสียออกจากกันเพื่อลดมล ภาวะที่น้ำจะไหลบ่าลงสู่ทะเล แต่เมื่อชาวบ้านมอง่ว่าโครงการสร้างผลกระทบเมืองพัทยาก็ต้องรับเรื่องไว้และเร่งดำเนินการแก้ไข "
ส่วนปัญหาการโครงการถนนซอยวัดสว่างฟ้าฯ และลานโพธิ์ ก็จะนำเรื่องหารือกับฝ่ายบริหารถึงกรณีที่ชาวบ้านร้องเรียนว่าจะมีการแก้ไขอย่างไรต่อไป แต่ตามแผนเดิมคือทั้งโครงการจะใช้เวลาเพียง 9 เดือน และจะดำเนินการให้แล้วเสร็จในฝั่งลานโพธิ์ก่อนการจัดงานถนนคนเดินถิ่นนาเกลือ ในช่วงวันที่ 15 ธ.ค. 2562
ทั้งนี้สำหรับปัญหาหารประชาสัมพันธ์การดำเนินการก่อสร้างโครงการดังกล่าวนั้นที่ผ่านได้มีการประชา สัมพันธ์โครงการไปแล้วแต่อาจจะไม่ทั่วถึงมากนัก ซึ่งจะได้นำเรื่องหารือต่อผู้บริหารเพื่อแนวทางแก้ไขความเดือดร้อนต่อไป