ชาวนากาฬสินธุ์โอดเสียดาย ข้าวเหนียวราคาพุ่งแต่ไม่มีขาย

กาฬสินธุ์ - ชาวนาเมืองน้ำดำ กาฬสินธุ์ โอดครวญเสียดายข้าวเหนียวราคาพุ่งแต่กลับไม่มีข้าวเปลือกขาย ทำได้แค่เดินสำรวจแปลงนาที่เพิ่งฟื้นตัวจากฝนทิ้งช่วง ชี้หากราคาข้าวสูงต่อถึงช่วงเก็บเกี่ยวจะนำข้าวไปขายใช้หนี้ ธ.ก.ส. เก็บไว้แค่พอกิน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผลพวงจากราคาข้าวเปลือกเหนียวที่ปรับตัวขึ้นสูงถึงกิโลกรัมละ 20 บาท ซึ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ พบว่าชาวนาที่เก็บข้าวเปลือกในยุ้งฉางไว้รับประทานในครัวเรือนต่างพากันนำข้าวเปลือกไปขายตามโรงสีและแหล่งรับซื้อทั่วไปอย่างคึกคัก มีรายได้เข้าครัวเรือนในช่วงนี้เป็นจำนวนมาก ขณะเดียวกัน ยังมีชาวนาอีกหลายรายที่พลาดโอกาสนี้ เนื่องจากไม่มีข้าวเปลือกไปขายเพราะขายไปหมดแล้วเมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมา

นายประภาษ ภูวงกต อายุ 66 ปี บ้านเลขที่ 82 ชาวนาบ้านดงเมือง หมู่ 10 ต.ลำพาน อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า ตนมีพื้นที่ทำนา 18 ไร่ ปลูกข้าวเหนียวทั้งนาดำและนาหว่าน อาศัยน้ำฝนและน้ำจากคลองชลประทานเขื่อนลำปาว ทุกปีได้ผลผลิตไร่ละประมาณ 250 กก. ส่วนหนึ่งเก็บไว้กิน ส่วนหนึ่งนำไปขายได้ราคากิโลกรัมละ 7-8 บาท มีรายได้ประมาณ 2 หมื่นบาท เป็นแบบนี้มาตลอดทุกปี เพิ่งจะเป็นครั้งแรกที่ราคาข้าวเหนียวสูงถึงกิโลกรัมละ 20 บาท


ปัจจุบันราคาข้าวเหนียวสูงเป็นประวัติการณ์ถึงกิโลกรัมละ 20 บาท ก็รู้สึกเสียดายมากที่ไม่มีข้าวเปลือกไปขายเหมือนเพื่อนบ้านที่มีข้าวเปลือกไปขาย ถือเป็นโอกาสทองของชาวนาที่มีข้าวเปลือกไปขาย เป็นเรื่องดีจะมีรายได้เพิ่มแก่คนที่มีข้าวขาย แต่คนที่ซื้อข้าวกินอาจจะเดือดร้อน สำหรับตนเหลือข้าวเปลือกเหนียวในยุ้งฉางประมาณ 200 กิโลกรัมเท่านั้น ซึ่งจะเก็บไว้กินในครัวเรือน ประคับประคองถึงฤดูเก็บเกี่ยวราวปลายเดือนพฤศจิกายนที่จะถึงนี้

เมื่อไม่มีข้าวเปลือกขายเหมือนเพื่อนบ้านตนได้แต่รู้สึกเสียดาย เพราะเคยขายได้ราคาต่ำเพียงกิโลกรัมละ 7-8 บาทเท่านั้น เพื่อนบ้านขายได้ถึงกิโลกรัมละ 20 บาทก็รู้สึกดีใจด้วย ทุกวันนี้ได้แต่เดินสำรวจแปลงนาข้าวที่เคยเหี่ยวเฉาเพราะฝนทิ้งช่วง น้ำชลประทานไม่พอ พอมีฝนตกลงมาเพิ่งจะฟื้นตัว แต่ผลผลิตคงจะได้น้อยลงประมาณ 70 เปอร์เซ็นต์ ในส่วนราคาข้าวอยากให้ยืนราคานี้ไปถึงช่วงเก็บเกี่ยว หากได้ราคากิโลกรัมละ 20 บาทจะแบ่งเก็บไว้กินนิดหน่อยพอคุ้มปี ส่วนใหญ่จะขายเพื่อนำเงินไปใช้หนี้ ธ.ก.ส.