พิษณุโลก - หนุ่มใหญ่โร่ขึ้นโรงพักแจ้งความเอาผิดเจ้าของอู่ หลังนำรถวีโก้เคลมประกันอุบัติเหตุ กลับถูกตัดหมายเลขแชสซีส์ทิ้ง-ไม่ยอมตัดแปะทำให้ใหม่ จนกลายเป็นรถเถื่อนซื้อขายจ่ายโอนไม่ได้ทันที
วันนี้ (29 ส.ค.) นายมานพ ทองมาลัย ผู้รับเหมาหนุ่มใหญ่ชาวพิษณุโลก ได้เข้าแจ้งความต่อ ร.ต.อ.ณัฐวัฒน์ เวียงทองทวิพล พนักงานสอบสวน สภ.เมืองพิษณุโลก เพื่อร้องทุกข์กล่าวโทษให้ดำเนินคดีต่อนายจเร ภู่ศรี เจ้าของอู่ซ่อมรถแห่งหนึ่งในจังหวัดพิษณุโลก โดยกล่าวหาว่าดัดแปลงสภาพรถ
นายมานพเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ปลายปี 2559 ได้เกิดอุบัติเหตุกับรถกระบะยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีโก้ สีบรอนซ์ทอง จึงนำรถไปซ่อมที่อู่ โดยใช้เวลาซ่อมประมาณ 1 เดือน เมื่อซ่อมเสร็จแล้วก็นำรถมาใช้ตามปกติ แต่วันนี้กลับโอนทะเบียนที่ขนส่งพิษณุโลกไม่ได้ เนื่องจากอู่ดังกล่าวได้ตัดหมายเลขที่แชสซีส์ที่อยู่บริเวณด้านหน้าฝั่งขวาออก ตอนนั้นเจ้าของอู่สัญญาว่าจะนำตัวเลขใส่บนแชสซีส์ให้เหมือนเดิม แต่ตอนนี้นำรถไปตรวจสภาพที่ขนส่งจังหวัดพิษณุโลก กลับไม่ผ่าน กลายเป็นรถเถื่อน ถูกระบุว่าเป็นรถดัดแปลงสภาพไปแล้ว
“หลังซ่อมเสร็จก็ใช้รถคันดังกล่าวตลอดปี 60 และให้อู่ที่ทำการซ่อม ดำเนินการจัดการเรื่องตรวจสภาพและต่อภาษีรถประจำปี 61 ก็จ่ายเงินสามารถชำระภาษีเพื่อต่อทะเบียนประมาณ 2,500 บาทตามปกติ โดยที่ไม่เคยก้มดูหมายเลขแชสซีส์หลังจากนำรถออกจากอู่”
กระทั่งไม่นานนี้ได้นำรถคันดังกล่าวเข้าไปตรวจสภาพที่ขนส่งจังหวัดพิษณุโลก เพื่อโอนรถให้ลูก แล้วตนจะไปซื้อรถคันใหม่ แต่ทางขนส่งจังหวัดพิษณุโลกกลับแจ้งว่าโอนไม่ได้เนื่องจากเป็นรถดัดแปลงสภาพ ตนจึงติดต่อไปอู่กลับได้รับการปฏิเสธ ได้แต่เอกสารภาพถ่ายประกอบรายการก่อนซ่อมและหลังซ่อมรถเท่านั้น ทางขนส่งจังหวัดก็ไม่ยอบรับ โดยขนส่งต้องการ “ใบเสร็จ” จากการซ่อมของอู่เท่านั้น แต่เจ้าของอู่ก็ปฏิเสธอีก ทำให้ตนไม่สามารถซื้อขายหรือถ่ายโอนรถคันนี้ได้ ก็สงสัยว่าทำไมเจ้าของอู่ไม่ให้ความร่วมมือ จึงต้องขึ้นโรงพัก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงนี้ในเขตภาคเหนือ มักมีการนำทะเบียนซากรถยนต์ที่เกิดอุบัติเหตุแล้วไม่สามารถซ่อมได้ ไปสวมรถเถื่อนๆ หรือรถยนต์ที่ลักลอบนำเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ผ่านการเสียภาษีศุลกากร ซึ่งสำนักงานตำรวจภูธรภาค 6 แจ้งฝากเตือนประชาชน ผู้ซื้อรถมือสองตรวจสอบประวัติรถยนต์ก่อน อาจจะถูกหลอก เต็นท์บางรายนำซากมาซ่อม บางรายนำทะเบียนซากมาสวมทะเบียนรถหนีภาษีศุลกากร ฯลฯ


