xs
xsm
sm
md
lg

เปิดใจครูสาวนครสวรรค์..ขี่ จยย.ไม่ใส่หมวกกันน็อก เถียง ตร.เรื่องลามโดนขี่รถพุ่งชน-บีบคอ

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


นครสวรรค์ – เปิดปากครูสาวเมืองปากน้ำโพ ขี่มอ’ไซค์ไม่ใส่หมวกกันน็อก โดนเรียกตรวจเถียง ตร.แล้วเรื่องลาม บอกจะไปกดเงินมาจ่ายค่าปรับ พอจอดกลับถูกขี่บิ๊กไบค์ชน-บีบคอจับหน้าจะใส่กุญแจมือ แถมข้อหาทำร้ายร่างกาย ด้านพยานเห็นชัด



ความคืบหน้า กรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ “บุรุษชุดดำดูแลงานศพ” โพสต์คลิปภาพเหตุการณ์ 3 คลิป พร้อมกับระบุข้อความว่า “เมื่อเวลาบ่าย 2 ของวันที่ 24 ส.ค.ที่ผ่านมา ขับรถผ่านใต้สะพานเดชาแล้ว เห็นตำรวจยืนทะเลาะกับผู้หญิงคนนึง ทำท่าจะล็อกกุญแจมือ ใครรู้บ้างครับว่าเหตุอะไร”

ซึ่งในคลิป จะเห็นหญิงสาวรายหนึ่งกำลังมีปากเสียงและโต้เถียงอย่างดุเดือดกับตำรวจจราจรอยู่บริเวณริมถนนใต้สะพานเดชาติวงศ์ อ.เมืองนครสวรรค์ และต่อมามีหญิงสาวคนที่ปรากฏอยู่ในคลิป ใช้ชื่อเฟซบุ๊ก “Weeraya Jub” เข้ามาโพสต์ตอบเรื่องราวดังกล่าวว่าเป็นเรื่องที่เกิดกับตนนั้น

ผู้สื่อข่าวได้ติดต่อสอบถามไปยังหญิงสาวต้นเรื่อง ทราบชื่อคือ น.ส.วีรญา การะเวก อายุ 29 ปี ทำงานเป็นอาจารย์สอนอยู่ที่โรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่งในเขต อ.เมืองนครสวรรค์ ระบุว่า สิ่งที่โพสต์เล่าเรื่องราวผ่านเฟซบุ๊กในกลุ่มข่าวสาธารณะ จ.นครสวรรค์ เป็นความจริงทั้งหมด

ซึ่งในวันนั้น ตนกำลังขับขี่รถจักรยานยนต์เดินทางไปเรียนที่มหาลัยราชภัฏนครสวรรค์ ซึ่งตนกำลังเรียนต่อปริญญาโทอยู่ แต่ตนไม่ได้สวมหมวกกันน็อก และไม่ได้พกใบขับขี่มา จึงทำให้ถูกตำรวจจราจรเรียกจับที่บริเวณสี่แยกเดชาติวงศ์ ซึ่งตนก็ยอมรับว่าผิด แต่ตนก็พยายามต่อรอง โดยขอให้ยึดบัตรประชาชนของตนเอาไว้ แล้วจะรีบขี่รถไปกดเงินที่ตู้เอทีเอ็มมาจ่ายค่าปรับให้ แต่ตำรวจก็ยังไม่ยอม และพยายามจะยึดรถตนให้ได้ พร้อมกับระบุต้องมาเสียค่าปรับ จำนวน 400 บาท กับเขาเท่านั้น จึงจะรับรถคืนไปได้

ผลสุดท้าย ก็เกิดการโต้เถียงกัน ซึ่งตนยอมรับว่า ช่วงเวลานั้นทำให้ตนอารมณ์เสีย เพราะกำลังจะรีบไปเรียน อีกทั้งเมื่อตนร้องขอให้ออกใบสั่งแล้วจะไปเสียค่าปรับในภายหลัง ตำรวจนายนั้นก็ยังไม่ยอมอีก จึงทำให้ตนตัดสินใจขี่รถออกมา เพราะมองว่า ตนได้ให้บัตรประชาชนไปแล้ว และไม่ได้มีเจตนาจะหนี เพียงแค่จะรีบไปกดเงินมาจ่ายค่าปรับให้ แล้วจะรีบไปเรียนเท่านั้น

แต่ปรากฏว่า ในช่วงที่ตนขี่ออกมา เป็นจังหวะเดียวกันกับตำรวจพยายามกระชากตน จึงทำให้รถไปเกี่ยวตัวตำรวจจนล้มลง จนเกิดการขับรถไล่ตามกันเกิดขึ้น

น.ส.วีรญา เล่าต่อไปว่า ในช่วงที่ขับขี่ไล่ตามกัน เริ่มตั้งแต่บริเวณสี่แยกไปจนถึงใต้สะพานเดชาติวงศ์ ตนจึงได้จอดรถรอริมทางเพื่อจะพูดคุยอธิบายให้เข้าใจอีกรอบ แต่ปรากฏว่า ตำรวจนายนั้น ซึ่งขี่รถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ตามมา ได้พุ่งมาชนกลางรถตนอย่างจังจนรถตนล้มคว่ำทับร่าง หนำซ้ำ ยังเร่งเครื่องใช้ล้อหน้ารถเกยรถขึ้นมาเหยียบทับซ้ำด้วย

และเมื่อตนลุกขึ้นออกมาจากรถได้ ก็กลับถูกตำรวจนายนี้บีบคอบีบหน้า และพยายามจะตบตนอีก ทั้งที่ตนก็พยายามจะอธิบายว่าเจตนาไม่ได้หลบหนี เพียงแค่จะไปกดเงินกลับมาจ่ายค่าปรับให้ ซึ่งขณะนั้น ก็มีชาวบ้านรายหนึ่งที่เห็นเหตุการณ์ เข้ามาช่วย พร้อมกับถ่ายคลิปเอาไว้ก่อนจะมีการนำไปโพสต์บนเฟซบุ๊กในกลุ่มข่าวสาธารณะดังกล่าว ตนจึงต้องเข้าไปโพสต์ตอบถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมด

เมื่อถามถึงหลังจากเหตุการณ์จบลง น.ส.วีรญา เล่าว่า ได้เดินทางไปที่ สภ.เมืองนครสวรรค์ พร้อมกับแฟนหนุ่มที่เดินทางมาที่หลัง โดยตอนนั้น รถจักรยานยนต์ของตนได้รับความเสียหายจากการโดนชน ถูกขนโดยรถกระบะตำรวจนำมาไว้ที่โรงพัก ซึ่งตนก็พยายามจะแจ้งความเอาเรื่องแล้ว แต่กลับถูกตำรวจร้อยเวรบ่ายเบี่ยง ให้ตนไปพูดคุยไกล่เกลี่ยกับตำรวจคู่กรณีก่อน

ซึ่งขณะนั้นตนรู้สึกมีอาการเจ็บปวดจากการถูกชน จึงตัดสินใจให้แฟนขับรถพาไปส่งตรวจดูอาการที่โรงพยาบาลก่อนจะให้แฟนเดินทางกลับมายังโรงพักเพื่อแจ้งความเอาเรื่องอีกครั้ง แล้วก็พบว่า ถูกตำรวจจราจรรายนี้แจ้งความเอาเรื่องตนไว้ก่อนแล้วว่าไปทำร้ายร่างกายเขา แต่ตนก็แจ้งความกลับฐานทำร้ายตนด้วยเช่นกัน

“ตอนนี้ ตนรู้สึกมีความกังวล และเครียดมาก เนื่องจากจะต้องไปหาหลักฐานเอง โดยเตรียมจะไปติดต่อทางเทศบาลนครนครสวรรค์เพื่อขอภาพจากกล้องวงจรปิดตั้งแต่บริเวณสี่แยกไปจนถึงใต้สะพานเดชาติวงศ์ เพื่อนำมาเป็นหลักฐานในการยืนยันว่าถูกกระทำเกินกว่าเหตุ และก็อยากสอบถามกลับไปกับทางตำรวจด้วยว่า ขณะนี้บัตรประชาชน และรถจักรยานยนต์ของตนหายไปไหน เนื่องจากตอนที่แฟนกลับไปแจ้งความก็ไม่พบว่ามีรถจักรยานยนต์ของตนจอดอยู่ และบัตรประชาชนก็ไม่รู้ไปอยู่ที่ตำรวจท่านไหน เพราะตนยังไม่ได้คืน”

อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวได้ติดต่อสอบถามไปยังผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ “บุรุษชุดดำดูแลงานศพ” ซึ่งเป็นผู้นำคลิปมาโพสต์ในกลุ่มแจ้งข่าวสาธารณะ และเป็นผู้อยู่ในเหตุการณ์ ทราบชื่อคือ นายสุรสิทธิ์ เอื้ออารีย์ อายุ 24 ปี เล่าถึงเหตุการณ์ในวันนั้นว่า ได้เห็นตำรวจขี่รถบิ๊กไบค์ชนกับรถจักรยานยนต์ของหญิงสาวบริเวณใต้สะพานใกล้กับบ้านที่ตนพักอาศัย

และหลังจากนั้นทั้งคู่ก็มีปากเสียงกัน ซึ่งการโต้เถียงกันนั้น ตนจับใจความได้ว่าตำรวจระบุหญิงสาวคู่กรณีขับขี่รถหนีด่าน แต่ภาพที่ตามมาก็คือ ตำรวจนายนี้กลับแสดงพฤติกรรมไปบีบคอบีบหน้าหญิงสาวต่อหน้าต่อตาตน และผู้ที่ใช้รถผ่านไปมา ตนจึงตัดสินใจนำโทรศัพท์มือถือมาถ่ายคลิปเหตุการณ์ไว้ แต่ก็ยังไม่ทราบเหตุการณ์ว่าแท้จริงแล้วเกิดอะไรขึ้นตั้งแต่ต้น จึงได้นำคลิปไปโพสต์สอบถามกับสมาชิกกลุ่มแจ้งข่าวสาธารณะ จ.นครสวรรค์ เผื่อจะมีคนที่รู้เรื่องดีกว่าตน มาโพสต์เล่าเรื่องให้ฟัง ซึ่งก็ไม่คาดคิดว่าจะเป็นประเด็นทำให้ผู้คนเกิดจุดกระแสความสนใจเป็นเรื่องดังในโซเชียลฯ


กำลังโหลดความคิดเห็น