xs
xsm
sm
md
lg

กฟผ.มั่นใจผลิตไฟฟ้าป้อนโครงการ EEC ได้อย่างเพียงพอ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ศูนย์ข่าวศรีราชา - กฟผ.มั่นใจผลิตพลังงานไฟฟ้าป้อนโครงการ EEC ที่จะมีผลต่อความต้องการพลังงานไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นใน 3 จังหวัดภาคตะวันออกได้อย่างเพียงพอ พร้อมเร่งติดตั้งระบบโซลาร์ฟอสติ้งในโรงไฟฟ้าแห่งใหม่ ตามนโยบายเพิ่มการใช้พลังงานทดแทน




เมื่อเร็วๆ นี้ นายเริงชัย คงทอง รองผู้ว่าการระบบส่ง (รงส.) การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย หรือ กฟผ. ได้เปิดเผยถึงนโยบายการพัฒนาพลังงานไฟฟ้าเพื่อรองรับความต้องการของภาคการผลิต อุตสาหกรรมและการใช้ไฟฟ้าในครัวเรือน เนื่องในโอกาสครบรอบ 25 ปี ฝ่ายปฏิบัติการภาคกลาง ซึ่งจัดขึ้นที่โรงไฟฟ้าอ่าวไฟ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ว่า กฟผ. ถือเป็นหน่วยงานหลักในการดำเนินการพัฒนาพลังงานไฟฟ้าของประเทศ ซึ่งตลอดระยะเวลา 25 ปีที่ผ่านมา ฝ่ายปฏิบัติงานภาคกลาง ได้พัฒนาพลังงานไฟฟ้าเพื่อรองรับความต้องการด้วยการผสมผสานระหว่างการผลิตพลังงานไฟฟ้าทั้งแบบดั้งเดิมและแบบใหม่

คือผลิตพลังงานไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าถ่านหิน ก๊าซธรรมชาติ พลังงานน้ำ และการรับซื้อพลังงานทดแทนจากประเทศเพื่อนบ้านตามนโยบายของรัฐบาล ควบคู่ไปกับการใช้พลังงานทดแทนจากวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร เช่น ไบโอแมส และไบโอแก๊ส รวมทั้งพลังงานจากแสงแดดและลม ที่เข้ามามีบทบาทมากขึ้น

ขณะที่การผลิตไฟฟ้าเพื่อให้เพียงพอต่อการเกิดขึ้นของโครงการ EEC ที่จะมีผลต่อการใช้พลังงานในพื้นที่ 3 จังหวัดภาคตะวันออก (ชลบุรี ระยอง ฉะเชิงเทรา) นั้น นอกจาก กฟผ. จะดึงพลังงานไฟฟ้าที่ได้จากการผลิตของโรงไฟฟ้าที่บางปะกง และโรงไฟฟ้าเอกชนที่มาบตาพุด จ.ระยอง มาสนับสนุนความต้องการที่เพิ่มขึ้นแล้ว ยังให้ความสำคัญต่อการพัฒนาโรงงานไฟฟ้าแห่งใหม่ที่จะต้องมีการติดตั้งระบบโซลาร์ฟอสติ้ง เพื่อใช้ในการผลิตพลังงานแสงอาทิตย์ผสมผสานไปกับการใช้พลังงานน้ำให้มากขึ้น

โดยขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการขออนุมัติจากคณะรัฐมนตรี เพื่อให้สอดคล้องต่อการผลิตพลังงานของโลกที่จะมีการใช้พลังงานทดแทนมากขึ้นด้วย

ทั้งนี้ โรงไฟฟ้าในพื้นที่ภาคตะวันออก สามารถผลิตไฟฟ้าได้มากกว่า 1 หมื่นเมกะวัตต์ ถือว่าเพียงพอสำหรับการเติบโตของพื้นที่ ส่วนระบบส่งของ กฟผ.ที่มีเส้นทางส่ง 3 เส้นทางใหญ่ คือ เส้นทางส่งดั้งเดิมบริเวณถนนสุขุมวิท จะมีการปรับปรุงจากวงจรเดี่ยวให้เป็นวงจรคู่ตลอดแนวตั้งแต่โรงไฟฟ้าบางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา โรงไฟฟ้าอ่าวไผ่ อ.ศรีราชา และโรงไฟฟ้าที่ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี

และยังจะพัฒนาระบบส่ง 230 KV ที่ใช้มาตั้งแต่เมื่อ 20 ปีก่อน ให้เป็น 500 KV เพื่อเชื่อมกับแนวสายส่งเดิมที่ ต.มาบตาพุด จ.ระยอง และเชื่อมต่อไปยัง อ. ปลวกแดง หนองจอก และไทรน้อย ต่อไปยัง อ.วัฒนานคร จ.ปราจีนบุรี รองรับการเป็นศูนย์กลางด้านพลังงานในภูมิภาคอาเซียน

“กฟผ. มั่นใจในเรื่องความพร้อมด้านการผลิตพลังงานเพื่อรองรับโครงการ EEC ทั้งระบบการผลิตและระบบส่งเพื่อให้สามารถจ่ายพลังงานไฟฟ้าได้อย่างมั่นคงและมีคุณภาพอย่างเพียงพอ”

สำหรับสัดส่วนของพลังงานทดแทนที่ กฟผ.ใช้สำหรับการผลิตพลังงานไฟฟ้าในขณะนี้อยู่ที่ประมาณ 30% ของสัดส่วนการผลิตทั้งประเทศ ส่วนที่เหลืออีก 70% เป็นพลังงานจากก๊าซธรรมชาติ และถ่านหิน รวมทั้งพลังงานที่นำเข้าจากต่างประเทศ แต่ในอนาคตอีกประมาณ 10-20 ปีข้างหน้า กฟผ.มีนโยบายที่จะขยายกำลังการผลิตพลังงานไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนเป็น 35 และ 40% ตามลำดับ










กำลังโหลดความคิดเห็น