กาฬสินธุ์-ผู้การฯเมืองน้ำดำยังไม่เด้ง 5 เสือโรงพักเมืองกาฬสินธุ์ หลังฝ่ายปกครองบุกเข้าทลายบ่อนเบี้ยโบกกลางทุ่งนา รวบนักพนันได้กว่า 30 คน อ้างสั่งตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงแล้ว หากพบมีการปล่อยปละละเลยต้องถูกลงโทษและย้ายทันที
จากกรณีเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอเมืองกาฬสินธุ์สนธิกำลังกับฝ่ายปกครองจังหวัดกาฬสินธุ์ นำกำลังเจ้าหน้าที่อส.และเจ้าหน้าที่ชรบ.เฉพาะกิจ บุกทลายบ่อนเบี้ยโบกเงินล้านบริเวณกลางทุ่งนาบ้านโคกกว้าง ม.7 ต.ไผ่ อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ หลังได้รับแจ้งจากประชาชนว่ามีการเปิดบ่อนเล่นการพนันเบี้ยโบกกันอย่างไม่เกรงกลัวกฎหมาย และมีการปล่อยเงินกู้นอกระบบอัตราดอกเบี้ยสูงในวงพนัน ซึ่งเจ้าหน้าที่สามารถจับนักพนันทั้งหญิงและชาย พร้อมยึดของกลางได้จำนวนมาก
ล่าสุดวันนี้(23 ส.ค.)พล.ต.ต.ทินณะรัตน์ เพ็ชรพันธ์ศรี ผวจ.ภ.จว.กาฬสินธุ์ เปิดเผยถึงเรื่องดังกล่าวว่า เป็นการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองที่ได้รับการแจ้งจากประชาชน เกิดขึ้นในพื้นที่รับผิดชอบของ สภ.เมืองกาฬสินธุ์ ดังนั้นทางตำรวจภูธร จ.กาฬสินธุ์ จึงได้มีคำสั่งให้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวนข้อเท็จจริงเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบ หรือ 5 เสือของโรงพัก ตั้งแต่หัวหน้าสถานี ประกอบด้วย พ.ต.อ.ปริญญา คำเจริญ ผกก.สภ.เมืองกาฬสินธุ์ พ.ต.ท.สุรกิจ ไทยยากรณ์ รองผกก.(ป.) สภ.เมืองกาฬสินธุ์ พ.ต.ท.คุณวุฒิ เมธีพิตตินันท์ รองผกก.(สืบสวน)สภ.เมืองกาฬสินธุ์ และพ.ต.ท.สีหนาท จันทร์เหลือง สว.สส.สภ.เมืองกาฬสินธุ์
ส่วนนายตำรวจตำแหน่ง สวป.สภ.เมืองกาฬสินธุ์นั้นจะต้องตรวจสอบว่าในวันเกิดเหตุใครเข้าเวร ซึ่งจะต้องถูกสอบด้วย การตรวจสอบจะเน้นไปที่ว่ามีการปล่อยปะละเลย หรือมีการปล่อยให้มีบ่อนการพนันในพื้นที่ได้อย่างไร โดยมี พ.ต.อ.ตรีวิทย์ ศรีประภา รองผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ เป็นประธานสอบข้อเท็จจริง และให้ทราบผลภายใน 30 วัน
พล.ต.ต.ทินณะรัตน์ กล่าวอีกว่า สำหรับการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบนั้นเป็นไปตามขั้นตอน ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีคำสั่งให้ย้ายใคร ต้องมีการตรวจสอบข้อเท็จจริงเสียก่อน เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นที่สนใจของประชาชน ได้กำชับให้สอบสวนข้อเท็จจริงโดยเร็วที่สุด อาจไม่ต้องรอถึง 30 วัน ผลสอบน่าจะเสร็จ หากผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงพบว่ามีการปล่อยปะละเลย หละหลวม หรือเข้าไปมีส่วนรู้เห็นผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมดในระดับบังคับบัญชา หรือ 5 เสือโรงพักเมืองกาฬสินธุ์ก็จะถูกดำเนินการลงโทษตามขั้นตอนต่อไป
ขณะที่แหล่งข่าวภายในหมู่บ้านระบุว่า บ่อนเบี้ยโบกบ้านโคกกว้าง ม.7 ต.ไผ่ อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ มีนักพนันจากทั่วสารทิศเดินทางเข้าออกกันอย่างไม่ขายสาด จนชาวบ้านเรียกว่า “บ่อนโบกเงินล้าน”โดยบ่อนดังกล่าวมีลักษณะเล่นการพนันแบบย้ายจุดไปตามสถานที่และหมู่บ้านต่างๆในเขตพื้นที่ อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ หรือที่เรียกกันว่า “บ่อนวิ่ง”
ซึ่งแต่ละจุดที่นักพนันรวมตัวกันเล่นเบี้ยโบก จะมีนายทุนเข้าไปปล่อยเงินกู้นอกระบบและคิดดอกเบี้ยสูงถึงร้อยละ 20 บาทต่อวัน เพื่อให้นักพนันได้กู้ยืมเงินมาเล่น ทำให้หลายคนเป็นหนี้เป็นสินกระทั่งชาวบ้านสุดทนกับพฤติการณ์ของกลุ่มนักพนันกลุ่มนี้ จึงได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองเข้ามาบุกทลายกวาดล้างจับกุม โดยที่ไม่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจของ สภ.เมืองกาฬสินธุ์เข้าร่วมด้วย
เนื่องจากชาวบ้านเกรงว่าข่าวการจับกุมจะรั่ว และนักพนันจะไหวตัวทัน จึงไม่แจ้งตำรวจ สภ.เมืองกาฬสินธุ์ จึงทำให้ฝ่ายปกครองจับกุมตัวนักพนันและยึดของกลางได้จำนวนมากดังกล่าว
