ชัยนาท - ครูสาวเมืองชัยนาทผวา ถูกมือดีปาเลือดสดใส่หน้าห้องเรียน มั่นใจเหตุเกิดจากร้องเรียนเรื่องอาหารกลางวันเด็ก วอนตำรวจเร่งหาตัวคนทำ หวั่นไม่ปลอดภัย
จากกรณีที่ครูสอนชั้นอนุบาล อายุ 32 ปี โรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.หันคา จ.ชัยนาท ถูกมือดีปาถุงเลือดหมูสดใส่ประตูห้องเรียนชั้นอนุบาลที่เธอสอนอยู่ ทำให้เลือดสาดกระจายเต็มพื้นและประตูห้อง สร้างความตกใจและความหวาดกลัวให้แก่เธอเป็นอย่างมาก และได้นำเรื่องไปโพสต์ลงในเฟซบุ๊กว่า “แค่ทำให้เด็กเพื่อความถูกต้อง ต้องทำกันขนาดนี้เลยใช่มั้ย #ช่วยแชร์ออกไปให้คนรับรู้ค่ะ #ครูรับไม่ไหวแล้ว” จนกลายเป็นข่าว ว่าสาเหตุที่เธอถูกข่มขู่ให้หวาดกลัวเช่นนี้ เกิดจากการเรียกร้องให้ทางโรงเรียนจัดทำอาหารกลางวันที่เหมาะสม มีคุณภาพให้เด็กนักเรียนได้รับประทาน
ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปที่โรงเรียน เพื่อสอบถามข้อเท็จจริง โดยครูผู้โพสต์ กล่าวว่า เหตุเกิดช่วงเช้าวันที่ 21 ส.ค.ที่ผ่านมา ขณะที่เธออยู่ในบ้านพักครู ได้มีครูเวรโทรศัพท์มาแจ้งว่า มีเลือดกระจายเต็มหน้าห้องเรียน จึงรีบมาดู เห็นคณะครู นักเรียน ผู้ปกครอง ยืนมุงอยู่หน้าห้อง เมื่อเห็นเลือดกระจายเต็มประตู รู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก จึงรีบโทรศัพท์แจ้งตำรวจ และถ่ายภาพโพสต์ลงเฟซบุ๊ก
โดยครูยืนยันว่าตนไม่เคยมีเรื่องกับใครมาก่อน มั่นใจว่าคนที่ก่อเหตุอาจจะไม่พอใจตนจากเรื่องอาหารกลางวันเด็ก เพราะตลอด 4 ปี ที่ตนสอนอยู่ในโรงเรียนแห่งนี้ ได้พยายามเรียกร้องให้ทางโรงเรียนจัดทำอาหารกลางวันที่เหมาะสมและมีคุณค่าทางโภชนาการ ให้เด็กได้รับประทานเป็นประจำทุกวัน เพราะบางครั้งเด็กจะได้รับประทานอาหารที่ไม่มีคุณค่าทางโภชนาการ ไม่ครบ 5 หมู่
อย่างเช่นล่าสุด ทำผัดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปให้เด็กกิน หรือบางครั้งทำแกงจืดวุ้นเส้น แต่ไม่ใส่เต้าหู้ไม่ใส่ลูกชิ้น หรือบางครั้งทำแกงเผ็ดหน่อไม้ดอง ซึ่งอาจทำให้เด็กท้องเสียได้ และหลังจากที่ตนโพสต์เฟซบุ๊ก จนกลายเป็นข่าวออกไป ทำให้ตนถูกตำหนิจากผู้บริหารต้นสังกัด แต่ตนก็ยืนยันว่า สิ่งที่ตนเรียกร้องนั้นเป็นเรื่องจริง และพร้อมที่จะต่อสู้เพื่อเด็กต่อไป ส่วนเรื่องที่มีคนนำเลือดมาสาดหน้าห้องเรียน ทำให้ตนเกิดความกลัวนั้น ขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งติดตามตัวคนทำมาดำเนินคดีโดยเร็ว เพราะรู้สึกหวาดกลัวว่าชีวิตไม่ปลอดภัย
ด้าน นางอารีย์ ทัพรังสี รักษาราชการแทนผู้อำนวยการโรงเรียน เปิดเผยว่า เรื่องที่มีคนปาเลือดใส่ประตูห้องเรียน คาดว่าน่าจะเป็นเรื่องส่วนตัวของครูประจำห้อง แต่จากการที่มีข่าวโยงถึงเรื่องอาหารกลางวันของโรงเรียน ตนยืนยันว่า ทางโรงเรียนได้จัดทำอาหารกลางวันอย่างเหมาะสม เป็นไปตามคู่มือระบบการจัดเมนูอาหารกลางวัน Thai Scholl Lunch ที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา
โดยกำหนดให้เด็กได้รับประทานอาหารอย่างเพียงพอ บางครั้งมีอาหารเหลือ ยังให้เด็กนำกลับไปรับประทานที่บ้านด้วย แต่สำหรับเหตุการณ์ที่ทำผัดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปให้นักเรียนรับประทาน จนกลายเป็นข่าวนั้น เนื่องจากวันนั้นอยู่ในช่วงวันสารทจีน แม่ครัวไม่สามารถจัดหาวัตถุดิบมาปรุงอาหารตามเมนูปกติได้ ประกอบกับวันนั้นมีนักเรียนมาโรงเรียนน้อย จึงได้แก้ปัญหาด้วยการนำบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปไปผัดให้นักเรียนรับประทาน แค่วันนั้นวันเดียว แต่วันอื่นก็เป็นเมนูปกติ