อุบลราชธานี - โจรใจบาปปลอมตัวมาเยี่ยมผู้ป่วย ก่อนฉวยจังหวะลักทรัพย์ญาติผู้ป่วย สุดท้ายตำรวจตะครุบตัวได้ที่บ้านต่างอำเภอ อ้างเพิ่งทำเป็นครั้งแรก แต่ญาติคนป่วยเจอไปหลายราย เตือนให้สังเกตคนแปลกหน้าที่นอนเฝ้าไข้ในโรงพยาบาลด้วย
วันนี้ (21 ส.ค. 62) พ.ต.ท.ปราโมทย์ ชื่นตา รอง ผกก.สอบสวน สภ.เมืองอุบลราชธานี และ พ.ต.ท.ณัฐกร พลภักดี สารวัตรสืบสวนได้เข้าควบคุมตัว นายประสาน คืนดี อายุ 54 ปี ชาวบ้านแก้งกอก ต.แก้งกอก อ.ศรีเมืองใหม่ จ.อุบลราชธานี หลังได้รับแจ้งจาก น.ส.ธัญวลักษณ์ ป้องกัน อายุ 42 ปี ชาวบ้านศรีฐาน หมู่ 8 ต.ศรีฐาน อ.ป่าติ้ว จ.ยโสธร ซึ่งมานอนเฝ้าไข้แม่ที่ป่วยเป็นโรคหัวใจรั่วที่ห้องผู้ป่วยหนัก (ไอซียู) ที่ตึก 1 ชั้น 4 โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ อ.เมืองอุบลราชธานี
น.ส.ธัญวลักษณ์ได้อาศัยนอนพักที่ลานระเบียงของตึกดังกล่าว โดยใช้ร่างกายทับกระเป๋าถือแบบหญิงใส่ทรัพย์สินคือ โทรศัพท์มือถือยี่ห้อซัมซุงเอส 9 พลัส 1 เครื่อง นาฬิกาแบบหญิง 1 เรือน พระเครื่องจำนวน 3 องค์ จี้นาคปรกและจี้พญาครุฑอย่างละ 1 อัน รวมทรัพย์สิน 7 ราย ปรากฏว่าเมื่อตื่นนอนช่วงเช้ามืดวันที่ 20 ส.ค. ทรัพย์สินได้ถูกคนร้ายมาล้วงเอาไป จึงเข้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ สภ.เมืองอุบลราชธานี ติดตามจับกุมคนร้ายให้ด้วย
แนวทางการสืบสวนสอบสวน พุ่งเป้าไปที่ญาติคนป่วยที่มานอนเฝ้าไข้ คาดว่าคนร้ายน่าจะเป็นนายประสาน ซึ่งได้มาเยี่ยมญาติที่โรงพยาบาลและได้หายตัวไปหลังเกิดเรื่อง เจ้าหน้าที่จึงติดตามไปที่บ้านพักของนายประสานที่บ้านแก้งกอก และตรวจพบทรัพย์สินที่ถูกนายประสานขโมยไปทั้งหมด
นายประสาน คืนดี ผู้ต้องหา ให้การรับสารภาพอ้างว่าได้เข้ามาเยี่ยมผู้ป่วยในโรงพยาบาลเดียวกัน และอาศัยหลับนอนอยู่ที่ระเบียงทางเดินของตึก กระทั่งตกดึกได้ลุกขึ้นมาเข้าห้องน้ำ และเห็นกระเป๋าถือข้างในมีทรัพย์สินของ น.ส.ธัญวลักษณ์ ที่นอนหลับด้วยความเหนื่อยอ่อนจากการเฝ้าไข้แม่ติดต่อกันนานนับเดือน จึงใช้มือเปิดซิปกระเป๋า ก่อนฉกเอาของที่ใส่ในถุงใส่ทองคำ
ก่อนรีบหลบหนีออกมาจากโรงพยาบาลกลับมาที่บ้านของตนในอำเภอศรีเมืองใหม่ และถูกเจ้าหน้าที่ตามมาจับกุมได้ เบื้องต้นได้แจ้งข้อหานายประสาน ลักทรัพย์ในสถานที่ราชการในเวลากลางคืน หรือรับของโจร ดำเนินคดีต่อไป
ด้าน พ.ต.ท.ปราโมทย์ ชื่นตา รอง ผกก.สอบสวน สภ.เมืองอุบลราชธานี กล่าวเตือนว่า ประชาชนที่มานอนเฝ้าญาติป่วยติดต่อกันเป็นเวลานาน และมีอาการเหนื่อยล้า ต้องช่วยกันสอดส่องดูแลคนที่มีพฤติกรรมน่าสงสัย ซึ่งอาจไม่ได้มาเยี่ยมญาติ แต่มาตระเวนดูประชาชนที่มาเฝ้าไข้และฉวยโอกาสตอนเผลอหลับขโมยเอาทรัพย์สินไป เพราะสถานที่ดังกล่าวมีคนพลุกพล่าน จึงต้องช่วยกันดูแลระหว่างญาติผู้ป่วยด้วยกันด้วย