กาญจนบุรี - ชาวกะเหรี่ยงในกรุงเทพฯ และพื้นที่ใกล้เคียงกว่าพันคนร่วมงานผูกข้อมือประจำปี 2562 เพื่อเรียกขวัญกำลังใจ รวมทั้งส่งใจและสิ่งของช่วยผู้ประสบอุทกภัย
นายสุรพงษ์ กองจันทึก ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษากะเหรี่ยงและพัฒนา เผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ ที่โรงเรียนวัดพระยาสุเรนทร์ เขตคลองสามวา กรุงเทพมหานคร ชาวกะเหรี่ยงในชุดพื้นเมืองกว่าพันคน เข้าร่วมพิธีผูกข้อมือประจำปี 2562 ซึ่งจัดต่อเนื่องเป็นประจำทุกปี โดยมีชาวกะเหรี่ยงซึ่งส่วนมากอยู่ในวัยหนุ่มสาวที่มาทำงาน และเรียนหนังสือในกรุงเทพมหานคร และพื้นที่ข้างเคียงเข้ามาร่วมงาน
โดยพิธีเริ่มจากขบวนแห่ถาดบรรจุอุปกรณ์การผูกข้อมือโดยหนุ่มสาว 7 คู่ ซึ่งชาวกะเหรี่ยงถือว่าเลข 7 เป็นเลขมงคล เข้ามาวางให้ผู้ใหญ่ชายหญิง 7 คู่เช่นเดียวกันเป็นผู้เรียกขวัญ และผูกข้อมือให้ จากนั้นผู้มาร่วมงานจะทยอยมาให้ผู้ใหญ่ผูกข้อมือให้ แล้วผูกข้อมือเรียกขวัญให้กันและกัน
อุปกรณ์ในการเรียกขวัญและผูกข้อมือในถาด ประกอบด้วย ไม้หรือทัพพีตักข้าว ไว้สำหรับเคาะเรียกขวัญให้กลับมา ด้ายสีขาวสำหรับผูกข้อมือ ข้าว อ้อย กล้วย และน้ำ ซึ่งเป็นอาหารสำหรับให้ขวัญได้กินอิ่มแล้วกลับมาคุ้มครองตัวคน
นายสุรพงษ์ กล่าวอีกว่า ในเดือน 9 ซึ่งจะตรงกับเดือนสิงหาคม เป็นช่วงที่มีฝนตกชุก อากาศมืดมัว การเดินทางติดต่อกันไม่สะดวก ผู้คนประสบโรคภัย เช่น มาลาเรีย ไข้หวัด และบางแห่งประสบอุทกภัย เป็นช่วงที่ชาวกะเหรี่ยงต้องการขวัญกำลังใจมากที่สุด จึงจัดให้มีการผู้ข้อมือเรียกขวัญเพื่อให้คนในครอบครัว ในชุมชนกลับมาพบปะกันและให้กำลังใจซึ่งกันและกัน
การผูกข้อมือเรียกขวัญเป็นวัฒนธรรมดั้งเดิมของผู้คนแถบนี้ แสดงถึงความสัมพันธ์ของผู้คนกับธรรมชาติและชุมชน บ่งบอกว่าชาวกะเหรี่ยงเป็นชนพื้นเมืองที่อาศัยอยู่บริเวณนี้มามากกว่าพันปี ไม่ใช่ผู้อพยพมาจากที่อื่น ประเทศไทยถือว่าชาวกะเหรี่ยงเป็นชนเผ่าพื้นเมืองของประเทศ และมีมติคณะรัฐมนตรี 3 สิงหาคม 2553 เรื่องแนวนโยบายและหลักปฏิบัติในการฟื้นฟูวิถีชีวิตชาวกะเหรี่ยง ให้ส่วนราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำไปปฏิบัติ ในงานนอกจากการเรียกขวัญกำลังใจในการใช้ชีวิตของชาวกะเหรี่ยงที่ห่างบ้านเกิดมาทำงานและเรียนหนังสือในเมืองแล้ว ยังมีการแสดงศิลปะรำตง ซึ่งเป็นการรำพื้นเมืองของชาวกะเหรี่ยงที่งดงาม ตลอดจนเชิญชวนกันบริจาคเพื่อนำเงินและสิ่งของไปช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในรัฐกะเหรี่ยง และรัฐมอญในประเทศพม่า