สุรินทร์ - “บิ๊กตู่” ลงพื้นที่ตรวจติดตามภัยแล้ง จ.สุรินทร์ กำชับทุกส่วนแก้ปัญหาอย่างเร่งด่วน พร้อมขอบคุณทุกภาคส่วนทั้งรัฐ เอกชน และการเมืองที่ไม่แบ่งฝ่าย ชี้น้ำประปาขุ่นไม่ไหลเดือนนี้ต้องงดจ่ายค่าน้ำ พร้อมประชุม 20 ผู้ว่าฯ อีสานสั่งบูรณาการทุกหน่วยงานแก้แล้งขาดน้ำ ขณะชาวบ้านแห่ส่องเลขทะเบียนรถนายกฯ นำไปเสี่ยงโชค
วันนี้ (19 ส.ค.) เวลา 09.30 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะรัฐมนตรีหลายกระทรวง เช่น พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย, นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข, นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์, นายวราวุฒิ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม, นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม, ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกรทรวงเกษตรและสหกรณ์, พล.อ.ชาญชัย ช้างมงคล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม และ นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ลงพื้นที่ไปยังโครงการชลประทานสุรินทร์ ที่ตั้งอยู่ภายในอ่างเก็บน้ำห้วยเสนง ต.เฉนียง อ.เมือง จ.สุรินทร์ เพื่อตรวจราชการและติดตามการแก้ไขปัญหาภัยแล้งและการขาดแคลนน้ำ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ประชาชน และการบริหารจัดการน้ำอุปโภคบริโภคให้เพียงพอต่อความต้องการของประชาชนในพื้นที่
หลังจากพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ประสบกับปัญหาภัยแล้ง อ่างเก็บน้ำห้วยเสนง ซึ่งเป็นแหล่งน้ำดิบผลิตประปาเลี้ยงคนเมืองสุรินทร์แห้งขอดจนเข้าขั้นวิกฤต ไม่มีน้ำดิบผลิตประปาได้อย่างเพียงพอ ส่งผลให้ประชาชนจำนวนมากและหน่วยงานราชการต่างๆ ในพื้นที่เขตเทศบาลเมืองสุรินทร์และตำบลรอบนอก รวมทั้งโรงพยาบาลสุรินทร์ประสบปัญหาขาดแคลนน้ำมานานร่วมเดือน และปัญหาภัยแล้งยังส่งผลกระทบต่อภาคการเกษตร ซึ่งจังหวัดสุรินทร์เป็นพื้นที่ที่ปลูกข้าวหอมมะลิขึ้นชื่อของโลก ซึ่งต้นข้าวในนาขาดน้ำเหี่ยวยืนต้นแห้งตายเสียหายจำนวนมาก
การเดินทางลงพื้นที่ในครั้งนี้ของนายกรัฐมนตรีและคณะ มีหัวหน้าส่วนราชการ ประชาชน มาให้การต้อนรับเป็นจำนวนมาก ทันทีที่มาถึงนายกรัฐมนตรีมีสีหน้ายิ้มแย้ม ทักทายประชาชนที่มาต้อนรับอย่างเป็นกันเอง ก่อนกล่าวปราศรัยกับประชาชน โดยนายกรัฐมนตรีได้กล่าวขอบคุณทุกภาคส่วนทั้งภาคเอกชน ผู้แทนราษฎร ในพื้นที่ทั้งฝ่ายค้านและรัฐบาลที่ได้ร่วมมือกันในการแก้ไขปัญหาให้แก่พี่น้องประชาชนโดยไม่มีการแบ่งฝ่าย ในการวางแผนบริหารจัดการน้ำ รวมถึงการขุดลอกอ่างเก็บน้ำห้วยเสนง ซึ่งจะต้องขุดลอกอย่างเร่งด่วน ขณะนี้กำลังเร่งดำเนินการซึ่งจะจัดสรรงบประมาณให้ตามความเหมาะสมในส่วนที่ใช้ได้ ส่วนโครงการขนาดใหญ่คงยังไม่ได้เพราะอยู่ในแผนงานอยู่แล้วแต่จะต้องทำให้ได้ นายกฯ มาแล้วจะต้องมีการเปลี่ยนแปลง ซึ่งรัฐบาลวันนี้เป็นของพี่น้องประชาชนทุกจังหวัดจะต้องดำเนินการแก้ไขปัญหาให้ประชาชนให้ได้
นายกรัฐมนตรียังได้กล่าวถึงเรื่องของค่าน้ำประปา ซึ่งที่ผ่านมาในพื้นที่เขตรับผิดชอบของการประปาส่วนภูมิภาค สาขาสุรินทร์ไม่ไหลและไหลเบา รวมทั้งน้ำขุ่น ว่า เรื่องดังกล่าวในเดือนสิงหาคมนี้เป็นไปได้ควรงดเก็บค่าน้ำประปาไปเลย ทำให้ประชาชนที่มาต้อนรับต่างดีใจปรบมือเสียงดังสนั่น พร้อมยืนยันไม่ใช่ประชานิยม แต่เป็นการช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนเป็นหลัก
พร้อมกันนี้ได้มีการเสนอแนวทางการแก้ไขปัญหาภัยแล้ง และการขอรับการสนับสนุนงบประมาณดำเนินการขุดลอกแหล่งน้ำในพื้นที่ โดยเฉพาะที่อ่างเก็บน้ำห้วยเสนง อ่างเก็บน้ำอำปึล และอ่างเก็บน้ำเกาะแก้ว จาก บรรดา ส.ส.ในพื้นที่ ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้รับไว้พิจารณาต่อไป และระบุว่าจะพิจารณาปัญหาที่เร่งด่วนก่อนตามลำดับ
จากนั้นนายกรัฐมนตรี พร้อมคณะรัฐมนตรีได้ทำการปล่อยขบวนรถบรรทุกน้ำรวม 50 คัน จากหน่วยงานต่างๆ ออกแจกจ่ายน้ำแก่ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการขาดแคลนน้ำอุปโภค-บริโภค
ขณะที่ประชาชนผู้ได้รับความเดือดร้อนจากปัญหาต่างๆ และผลกระทบจากโครงการต่างๆ ของรัฐ รวมไปถึงการเรียกร้องที่ทำกิน ต่างพากันมายืนถือป้ายเรียกร้องต่อนายกรัฐมนตรีอยู่ที่บริเวณด้านหน้าโครงการชลประทานสุรินทร์ แต่เจ้าหน้าที่ไม่อนุญาตให้นำป้ายเรียกร้องต่างๆ เข้าไปด้านในแต่อย่างใด
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า หลังจากนายกรัฐมนตรีเดินทางมาถึงโครงการชลประทานสุรินทร์ ระหว่างที่นายประภัสสร์ มาลากาญจน์ ผวจ.สุรินทร์ กล่าวรายงานถึงสถานการณ์ภัยแล้งในพื้นที่ จ.สุรินทร์ และแนวทางการแก้ไขปัญหายังไม่ทันจบ นายกรัฐมนตรีสั่งเบรกการรายงานกลางคัน พร้อมพูดสั้นๆ ว่า เรื่องทั้งหมดตนทราบหมดแล้ว ไม่ต้องพูดต่อ และสั่งให้เปิดวิดีทัศน์เรื่องสถานการณ์ภัยแล้งในพื้นที่ จ.สุรินทร์ในพื้นที่เลย
จากนั้นนายกรัฐมนตรีได้เดินทางไปยังศาลากลางจังหวัดสุรินทร์เพื่อประชุมการแก้ไขปัญหาขาดแคลนน้ำในพื้นที่ภาคอีสาน และการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนต่างๆ ของประชาชนร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 20 จังหวัด และรัฐมนตรี อธิบดีกรมต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ที่ห้องประชุมศรีณรงค์ ศาลากลางจังหวัดสุรินทร์
นายกรัฐมนตรีได้กำชับให้ผู้ว่าราชการจังหวัดจัดทำแผนการและการบูรณาการกับทุกหน่วยงานราชการเพื่อเร่งรัดแก้ไขปัญหาให้แก่ประชาชนที่ประสบปัญหาภัยแล้งขาดแคลนน้ำ ทั้งน้ำอุปโภค บริโภค และภาคการเกษตร จัดทำแผนการจัดหาแหล่งน้ำสำรองเพื่อใช้ในการผลิตน้ำประปา ซึ่งพบว่าในหลายพื้นที่กำลังประสบปัญหาอยู่ในขณะนี้ ซึ่งนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรี พร้อมทั้งผู้ว่าราชการจังหวัดทั้ง 20 จังหวัดได้รับประทานอาหารในห้องประชุมโดยไม่มีการพักการประชุมแต่อย่างใด จนกระทั่งเวลา 12.50 น.นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะได้เดินทางลงมาถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกับนักศึกษาวิทยาลัยอาชีวศึกษาสุรินทร์ ที่เดินทางมาให้การบริการอาหารแก่คณะนายกรัฐมนตรีในครั้งนี้
ก่อนเดินทางลงพื้นที่ตรวจติดตามการแก้ปัญหาภัยแล้ง จ.บุรีรัมย์ ที่อ่างเก็บน้ำห้วยจระเข้มาก โครงการชลประทานบุรีรัมย์ อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ ต่อไป
อย่างไรก็ตาม ระหว่างนายกรัฐมนตรีพบประชาชนที่หน้าอาคารสำนักงานชลประทานห้วยเสนง สุรินทร์ ข้างสันอ่างเก็บน้ำนั้น ที่บริเวณลานจอดรถทางเข้าอ่างห้วยเสนง ที่ตั้งเต็นท์ศูนย์ดำรงธรรมส่วนหน้า และที่ศูนย์ดำรงธรรมส่วนหน้าบริเวณสำนักงานสรรพากรสุรินทร์ ได้มีชาวบ้านจาก จ.สุรินทร์ จ.ศรีสะเกษ จ.ชัยภูมิ จ.อุบลราชธานี และ จ.อุดรธานี ประมาณ 200 คน นำโดย นายศักดา กาญจนเสน แกนนำกลุ่มสมัชชาเกษตรกรอีสานเป็นแกนนำ นำหนังสือมาร้องเรียนถึงนายกรัฐมนตรีในเรื่องปัญหาความเดือนร้อนของชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำของกรมชลประทาน ทั้งใน จ.สุรินทร์ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี ชัยภูมิ และอุดรธานี ผลกระทบจากการปลูกสร้างสวนป่าในจังหวัดชัยภูมิ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ห้วยทับทัน ห้วยสำราญ จ.สุรินทร์
โดยกลุ่มชาวบ้านที่เดือดร้อนครั้งนี้มี 7 กลุ่ม ใน 5 จังหวัด เช่น กลุ่มผู้ได้รับผลกระทบจากฝายราษีไศล ผลกระทบจากการก่อสร้างเขื่อนหัวนา ผลกระทบจากการก่อสร้างเขื่อนสิรินธร โครงการฝายห้วยหลวง อ.กุมภวาปี จ.อุดรธานี และพื้นที่ 5 อ่างเก็บน้ำของ จ.สุรินทร์ เพื่อให้รัฐบาลช่วยเหลือเยียวยาจากผลกระทบโครงการของรัฐ โดยไม่ทิ้งปัญหาเหล่านี้ไว้
อีกทั้งในการเดินทางมาครั้งนี้ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ใช้รถยนต์ ทะเบียน 3 กณ 1689 กรุงเทพมหานคร ชาวบ้านที่มารอต้อนรับนายกฯ หลายคนถ่ายภาพรถและป้ายทะเบียนรถของนายกฯไว้เพื่อนำไปเสี่ยงโชคตามความเชื่อต่อไป