สระแก้ว - ขนส่งสระแก้ว เปิดระบบศูนย์ควบคุม GPS รถยนต์สาธารณะโชว์สื่อฯ ปฏิเสธรถตู้มรณะไม่ได้ ตัดระบบ GPS ตามที่เป็นข่าวแต่ยอมรับว่ามีการดัดแปลง
จากเหตุการณ์รถตู้รับจ้างเอกชนซึ่งเป็นของ หจก.นาวินทราเวล 2016 หมายเลขทะเบียน 34-0405 กรุงเทพมหานคร ที่ได้นำผู้โดยสารชาวลาว เดินทางจากกรุงเทพฯ เพื่อไปประทับตราหนังสือเดินทาง ณ จุดผ่านแดนถาวรบ้านแหลม อ.เขาสอยดาว จ.จันทบุรี พุ่งชนประสานงากับรถพ่วง 18 ล้อ ทะเบียนตัวแม่ 70-1234 อุตรดิตถ์ และลูกพ่วงทะเบียน 70-1235 อุตรดิตถ์ บนถนนสายสระแก้ว-จันทบุรี พื้นที่ ม. 1 บ้านวังใหม่ ต.วังใหม่ อ.วังสมบูรณ์ จ.สระแก้ ซึ่งเป็นเส้นทางที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างขยายถนนจาก 2 เลน เป็น 4 เลน จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 11 ราย และได้รับบาดเจ็บอีก 4 ราย เหตุเกิดเมื่อช่วงเวลาประมาณ 04.30 น.วันที่ 18 ส.ค.ที่ผ่านมา
และยังมีการสันนิษฐานว่ารถตู้คันดังกล่าวน่าจะตัดสัญญาณ GPS ตั้งแต่วิ่งเข้าเมืองสระแก้วจนถึงจุดเกิดเหตุ ซ้ำใช้ความเร็วเกินกฎหมายกำหนดถึง 6 ครั้งในพื้นที่ 3 จังหวัดนั้น
ล่าสุดในวันนี้ ( 19 ส.ค.) สำนักงานขนส่งจังหวัดสระแก้ว ได้เปิดให้มีการตรวจสอบศูนย์ GPS รถยนต์ขนส่งสาธารณะพร้อมลงพื้นที่ตรวจสอบเส้นทางถนนสาย 317 สระแก้ว-จันทบุรี จุดที่เกิดอุบัติเหตุโดยพบถนนช่วงดังกล่าวอยู่ระหว่างการก่อสร้างขยายถนนจาก 2 ช่องจราจร เป็น 4 ช่องจราจร ซึ่งสำนักงานขนส่งจังหวัดสระแก้วและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจากกรมการขนส่งทางบก ได้ทำการตรวจสอบข้อมูลระบบ GPS ของรถตู้โดยสารสาธารณะเพื่อหาข้อมูลที่แท้จริง
โดยมีเจ้าหน้าที่ด้านวิศวกรรม กรมการขนส่งทางบก ร่วมลงพื้นที่กับ น.ส.นันทิยา ใฝ่เมตตา หัวหน้าสำนักงานขนส่งจังหวัดสระแก้ว และได้ตรวจวัดสภาพถนนและสภาพแวดล้อมที่จะเป็นสาเหตุในการเกิดอุบัติเหตุ รวมทั้งร่องรอยของยางรถ ก่อนเดินทางไป สภ.วังสมบูรณ์ ตรวจสอบสภาพรถตู้ เพื่อตรวจสอบโครงสร้างของตัวรถและเก็บข้อมูลว่าตัวถังรถมีความปลอดภัยตามหลักเกณฑ์หรือไม่
ดร.ยุทธศักดิ์ ประเสริฐ หัวหน้าฝ่ายวิชาการชำนาญพิเศษ สำนักงานขนส่งสระแก้ว เผยว่าจากการตรวจสอบระบบ GPS ของรถตู้คันดังกล่าวพบว่าใช้งานได้ปกติ ส่วนการลักลอบเปลี่ยนแปลงและตัด GPS ตามที่เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในสังคมนั้นยอมรับว่าเรื่องดังกล่าวมีอยู่จริง แต่สำนักงานขนส่ง ก็มีมาตรการในการตรวจสอบอย่างเข็มงวด ซึ่งหากพบว่ามีการกระทำจะดำเนินการจับกุมและส่งดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยมีโทษจำคุกรวมอยู่ด้วย
“ แต่ขอยืนยันว่ากรณีรถตู้เกิดอุบัติเหตุร้ายแรงครั้งนี้ สัญญาณ GPS ของรถคันดังกล่าวใช้งานได้ตามปกติ และไม่มีปัญหาหรือมีอุปกรณ์เรื่องการตัดสัญญาณแต่อย่างใด” ดร.ยุทธศักดิ์ กล่าว
ขณะที่ น.ส.ปาริชาติ ศรีชุ่ม เจ้าหน้าที่ประจำศูนย์ GPS สำนักงานขนส่งจังหวัดสระแก้ว ยืนยันว่ารถสาธารณะทุกคนที่ติดตั้ง GPS จะโชว์ความเร็วทุกคันที่เข้าพื้นที่และหากรถคันใดใช้ความเร็วเกิน 90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เจ้าหน้าที่จะสังเกตเห็นความผิดปกติและสามารถติดตามข้อมูลของเจ้าของรถได้ทันที และทางศูนย์ฯ จะส่งหมายเรียกให้เจ้าของรถมาชี้แจงและเสียค่าปรับตามกฎหมาย
และล่าสุดเมื่อเวลา 20.00 น.ที่ผ่านมา มีรายงานว่าเอกอัครราชฑูต สปป.ลาว ประจำประเทศไทย จะเดินทางไปเยี่ยมชาวลาวที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ดังกล่าวที่โรงพยาบาลพระยุพราชสระแก้ว ในเวลา 09.00 น.พรุ่งนี้ ขณะที่ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว จะเปิดแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นในวันพรุ่งนี้เช่นกัน
