อุบลราชธานี - ชาวบ้านชายแดนไทย-ลาวกว่า 200 ครอบครัวในอำเภอศรีเมืองใหม่รอใช้ไฟฟ้านานกว่า 60 ปีได้เจอกับแสงสว่างเสียที ด้วยพระบารมีสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เด็กนักเรียนดีใจมาก
นายสมพงษ์ ปรีเปรม ผู้ว่าการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ร่วมกับนายสฤษดิ์ วิฑูรย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี หน่วยงานปกครองท้องถิ่น และชาวบ้านโหง่นขาม-ดงนา หมู่ 4 และ 5 ตำบลหนามแท่ง อ.ศรีเมืองใหม่ จ.อุบลราชธานี ทำพิธีเปิดโครงการขยายเขตไฟฟ้าให้ครัวเรือนที่ห่างไกลของ 2 หมู่บ้าน ซึ่งเป็นหมู่บ้านติดชายแดนไทย-ลาว มีวิถีความเป็นอยู่ตามลุ่มแม่น้ำโขง เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชน นักเรียน นักศึกษา ลดความเดือดร้อนของราษฎรทั้งสองหมู่บ้านจำนวน 201 ครัวเรือน ซึ่งไม่เคยมีไฟฟ้าใช้มาเป็นระยะเวลากว่า 60 ปี โดยการวางระบบสายส่งระยะทาง 17.09 กิโลเมตร ใช้งบประมาณทั้งสิ้น 19 ล้านบาทเศษ
ก่อนหน้านี้ นายทองคำ เชิดไชย ผู้ใหญ่บ้าน ได้มีหนังสือกราบบังคมทูลสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ครั้งยังทรงดำรงพระอิสริยยศเป็นสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ขอพระราชทานความช่วยเหลือการขยายเขตไฟฟ้าเข้าหมู่บ้านโหง่นขาม-ดงนา เพื่อยกระดับคุณภาพความเป็นอยู่ หลังจากมีเพียงระบบไฟฟ้าจากโซลาร์เซลล์ที่ได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานรัฐและเอกชนเข้าไปช่วยเหลือ
ต่อมาสำนักงานราชเลขาธิการสวนจิตรลดา กรุงเทพมหานคร ได้ประสานแจ้งความเดือดร้อนให้ผู้ว่าการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคทราบ และได้รับอนุมัติให้ทำการขยายเขตจำหน่ายไฟฟ้าเมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม 2561 และเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคได้เข้ามาดำเนินการขยายเขตระบบจ่ายไฟฟ้า โดยใช้เวลาราว 1 ปี เพราะเส้นทางคมนาคมลำบาก
รวมกับพื้นที่เป็นหินภูเขาที่แข็ง เจ้าหน้าที่ต้องใช้ความพยายามขุดเจาะหลุมเพื่อปักเสาไฟฟ้าเป็นระยะทางกว่า 17 กิโลเมตร กระทั่งสามารถทำการจ่ายกระแสไฟฟ้าให้ใช้ได้ในวันนี้
นายสำลี คงทน อายุ 64 ปี ชาวบ้านดงนา เล่าว่า เกิดอยู่ที่หมู่บ้านแห่งนี้ อดีตต้องไต้กระบอง จุดตะเกียงให้แสงสว่าง ต่อมาปี 2535 สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ครั้งยังทรงดำรงพระอิสริยยศเป็นสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้เสด็จพระราชดำเนินมาทรงเยี่ยมชาวบ้านและพระราชทานไฟฟ้าระบบโซลาร์เซลล์มาให้ชาวบ้านทุกครัวเรือนมีไฟใช้ ทำให้ชีวิตชาวบ้านดีขึ้นกว่าเดิม
เมื่อมีการขยายเขตจำหน่ายไฟฟ้าครั้งนี้ จะทำให้ชีวิตของลูกหลานคนในหมู่บ้านดีขึ้นแน่นอน เพราะจะมีการนำสิ่งอำนวยความสะดวกใช้ในการประกอบอาชีพได้
ด้าน น.ส.รัติยา สุนนท์ อายุ 16 ปี นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนเหล่างามพิทยาคม ซึ่งอาศัยอยู่ในหมู่บ้านโหง่นขาม กล่าวว่า อดีตต้องใช้โคมไฟที่ชาร์จจากแบตเตอรี่อ่านหนังสือ และไม่สามารถค้นคว้าหาความรู้ใช้ทำการบ้านจากคอมพิวเตอร์ ทำให้ทำการบ้านส่งครูช้ากว่าเพื่อนๆ ที่อยู่หมู่บ้านอื่นที่มีไฟฟ้าใช้แล้ว
เมื่อมีไฟฟ้าใช้เหมือนหมู่บ้านอื่น ต่อไปก็สามารถอ่านหนังสือจากไฟนีออน และจะซื้อคอมพิวเตอร์มาใช้ค้นคว้าหาความรู้ใช้ทำการบ้านตามที่ครูสั่ง และทำให้ส่งการบ้านทันตามที่กำหนดเหมือนเพื่อนนักเรียนคนอื่นๆ ด้วย จึงขอขอบคุณการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคเป็นอย่างมากที่ขยายเขตไฟฟ้ามาให้ชาวบ้านกว่า 200 ครอบครัวได้ใช้ในวันนี้
สำหรับปัญหาที่ผ่านมาที่ชาวบ้านไม่สามารถขอขยายเขตไฟฟ้าได้ เนื่องจากทั้ง 2 หมู่บ้านอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติผาแต้ม ทำให้การไฟฟ้าฯ ไม่สามารถปักเสาพาดสายไฟฟ้าส่งมาให้ชาวบ้านได้ใช้ ต่อมาจึงได้มีการหารือระหว่างสองหน่วย คือ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค จึงได้ทำการขยายเขตให้ชาวบ้านทั้ง 2 หมู่บ้านมีไฟฟ้าใช้ในวันนี้