xs
xsm
sm
md
lg

ผิดหวัง UFO ไม่โผล่ เจ้าสำนักฯ ส่งน้องสาวแถลง อ้างติดต่อมนุษย์ต่างดาวได้จริง-เห็นในบึงบอระเพ็ดด้วย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


นครสวรรค์ - คนกางเต็นท์นอนรอดูยูเอฟโอเขากะลาผิดหวัง..จานบินไม่โผล่ ขณะที่เจ้าสำนักฯ ส่งน้องสาวแถลงข่าวแทน อ้างติดต่อมนุษย์ต่างดาวได้จริง-เคยปรากฏตัวในบึงบอระเพ็ด-ใช้เขากะลาเป็นฐาน

ความคืบหน้ากรณีมีการเผยแพร่คลิปกลุ่มบุคคลทำพิธีเข้าทรงอ้างเป็นมนุษย์ต่างดาว ชื่อพลูโต ทำนายดวงชะตาโลก บริเวณพื้นที่หมู่ 10 บ้านเขากะลา ต.พระนอน อ.เมืองนครสวรรค์ และมีการนัด “รวมพลคนเอเลี่ยน นั่งสมาธิ นอนดูจานบิน” บนยอดเขากะลา คืนที่ผ่านมา (17 ส.ค.) แม้ป่าไม้จังหวัดนครสวรรค์จะเข้ายึดพื้นที่-แจ้งความดำเนินคดีต่อนายเจริญ แร่เพ็ชร เจ้าสำนักไว้แล้วก็ตามนั้น

ปรากฏว่ามีประชาชนที่ทราบข่าวการนัดหมายแห่เดินทางขึ้นไปจับจองจุดกางเต็นท์บริเวณลานสำนักปฏิบัติธรรมเขากะลาของนายเจริญ แร่เพ็ชร ตลอดวานนี้ (17 ส.ค.) เป็นจำนวนมาก แม้จะมีกำลังป่าไม้ ตำรวจ รักษาพื้นที่อยู่กว่า 50 นายก็ตาม ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็ให้ทำกิจกรรมได้แค่การสวดมนต์ นั่งสมาธิเท่านั้น ไม่อนุญาตให้มีการทำกิจกรรมอะไรที่เป็นการขัดต่อกฎหมาย โดยมีกลุ่มพลังมวลชนที่ใช้ชื่อว่า “กลุ่มประสานงาน เพื่อการเตือนภัยเขากะลา” เป็นผู้อำนวยความสะดวกเรื่องเต็นท์ อาหาร น้ำดื่มให้ประชาชนตลอดเวลา และค่ำคืนนี้ทางกลุ่มจะมีพิธีบายศรีสู่ขวัญบนยอดเขากะลาด้วย

อย่างไรก็ตาม “กลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัยเขากะลา” ได้ส่งไลน์นัดหมายระดมพลจัดกิจกรรมบริเวณเชิงเขากะลา ทางขึ้นยอดเขาเป็นค่ายลูกเสือของเอกชน เนื้อที่กว้างขวางหลายสิบไร่ ชื่อ “ส.คอบราแคมป์” ของนายสันทัด ยอดนิล ซึ่งเปิดให้ประชาชนเช่าทำกิจกรรม เนื่องจากสถานที่ดังกล่าวมีเอกสารสิทธิไม่ผิดกฎหมาย

นายสันทัด ยอดนิล เจ้าของ ส.คอบราแคมป์ เปิดเผยว่า ประชาชนแห่เดินทางมารวมพลกันที่ค่ายของตน เช่าค่ากางเต็นท์คนละ 100 บาท หากใครเข้าห้องพักคนละ 150 บาท ซึ่งทางแคมป์จะไม่อนุญาตให้ประชาชนหรือกลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัยเขากะลาทำกิจกรรมใดๆ นอกเหนือจากการนั่งสมาธิ และการแถลงข่าวของกลุ่มนางสมจิตร แร่เพ็ชร ภรรยานายเจริญ แร่เพ็ชร ที่นัดสมาชิกและสื่อมวลชนมาแถลงข่าวเรื่องราวที่เกิดขึ้น

ทั้งนี้ เมื่อถึงเวลาที่นางสมจิตร แร่เพ็ชร นัดแถลงข่าว แต่สุดท้ายกลับไม่ปรากฏตัวแต่อย่างใด แต่ได้มีการส่งนางวาสนา ชื่นสำนวน น้องสาวพร้อมทีมงานกลุ่มประสานงานเพื่อเตือนภัยเขากะลา มาแถลงข่าวแทน ท่ามกลางกองทัพสื่อมวลชน โดยยืนยันว่าครอบครัวสามารถติดต่อสื่อสารกับมนุษย์ต่างดาวได้จริง และมีหลักฐานบันทึกไว้เรื่อยมาหลายสิบปีผ่านคลื่นโทรจิต ซึ่งมนุษย์ต่างดาวเคยปรากฏตัวในบึงบอระเพ็ด และใช้เขากะลาเป็นฐานเพื่อติดต่อสื่อสารกับมนุษย์ หากมนุษย์ต่างดาวจะสื่อสารกับใครหรือหากมีภัยพิบัติเกิดขึ้นจะสามารถช่วยได้ แต่การจะสามารถสื่อสารได้เป็นเรื่องของบุคคล

“ส่วนประเด็นคลิปที่เกิดเป็นข่าวใหญ่ เกิดขึ้นจริงบนยอดเขากะลาในวันอาสาฬหบูชาที่ผ่านมา ซึ่งคนที่เป็นร่างทรงก็เป็นคนที่มาร่วมบุญ แต่ไม่ทราบว่าเป็นใครหรือสามารถติดต่อสื่อสารกับใคร อย่างไร ไม่ได้สนใจ แต่ยืนยันว่าการติดต่อสื่อสารมนุษย์ต่างดาวมีจริง และเห็นได้ที่เขากะลาแห่งนี้ เป็นจานบิน ส่วนใครจะเห็นเมื่อไร อย่างไร เป็นเรื่องของแต่ละบุคคล ส่วนคืนนี้จะเห็นได้หรือไม่ก็อยู่ที่ว่าจะสื่อสารอย่างไร เป็นเรื่องของบุคคลและไม่เกี่ยวข้องกับกลุ่ม ซึ่งยืนยันว่าเขากะลาคือฐานของมนุษย์ต่างดาว”

นางวาสนากล่าวอีกว่า ส่วนประเด็นเรื่องเงินบริจาค ขอยืนยันว่าไม่เคยยุ่งเกี่ยวเรื่องเงิน ทางกลุ่มฯ ไม่เคยเรียกร้องเงินจากกลุ่มไหนอย่างไร

หลังจากการแถลงข่าวเสร็จสิ้น ปรากฏว่าบรรดานักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเพื่อสังเกตการณ์ก็พากันนอนกางเต็นท์รอดูจานบินมนุษย์ต่างดาวท่ามกลางท้องฟ้าที่ปิดเพราะฝนตกลงมาก่อนหน้านี้ แต่สภาพอากาศดีจึงมีการสังสรรค์คลายเครียดกัน

มีรายงานด้วยว่า ก่อนหน้านี้ นางสมจิต แร่เพ็ชร ภรรยานายเจริญ ได้มาสั่งน้ำแข็งของที่พัก ส.คอบราแคมป์ ไว้ ส่วนค่าใช้จ่ายอื่นๆ คนที่มางานวันนี้ต้องจ่ายเอง ซึ่งต้องเสียค่าที่พักทั้งแบบห้องรวม และกางเต็นท์ คนละ 100-150 บาท

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ก่อนจะแถลงข่าวจู่ๆ ก็มีพระภิกษุสงฆ์รูปหนึ่งแสดงอิทธิฤทธิ์ร่ายคาถาเวทมนตร์ในการรักษาให้แก่ชายสูงวัยรายหนึ่งที่เดินทางมาร่วมงาน โดยมีหญิงอีกรายหนึ่งนุ่งขาวห่มขาวคอยทำหน้าที่ตั้งจิตสมาธิเพื่อสแกนกรรมให้ชายสูงวัยคนดังกล่าว ซึ่งมีอาการปวดข้อหัวเข่า แต่ปรากฏว่าเมื่อเจอกับบรรดากองทัพสื่อมวลชนทักถามถึงความเหมาะสม และการออกจากวัดในช่วงเข้าพรรษากลับทำให้พระแสดงอาการเพี้ยน กระทั่งตำรวจที่มาเฝ้าสังเกตการณ์ต้องควบคุมตัวไปสอบสวนยังโรงพัก สภ.หนองปลิง

เบื้องต้นทราบชื่อคือ พระศักดิ์ชัย พิมพ์ลา เป็นพระวัดป่าพุเตยวนาราม ต.พุเตย อ.วิเชียรบุรี จ.เพชรบูรณ์ ที่ขับรถเก๋งยี่ห้อมาสด้า 2 สีน้ำตาล หมายเลขทะเบียน 8 กฬ 1347 กรุงเทพมหานคร เดินทางมาพักที่ค่ายฯ ซึ่งเป็นสถานที่จัดงานมาตั้งแต่ 16 ส.ค. พร้อมกับแม่ชี และหลานชาย โดยอ้างว่าเปิดห้องให้แม่ชีและหลานชายที่มาด้วยได้พักผ่อน ส่วนตนเองไปตั้งเต็นท์นอนอยู่ข้างรถ

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่สามารถดำเนินคดีอะไรได้ เนื่องจากพระรูปดังกล่าวมีหลักฐานยืนยันว่าเป็นพระจริง อีกทั้งจากการตรวจปัสสาวะไม่พบว่ามีการเสพสารเสพติดแต่อย่างใด รวมถึงยังไม่ได้มีการทำผิดในการเรียกร้องเงินค่ารักษาด้วย แต่ในส่วนอื่น ทั้งเรื่องการขับรถเก๋งมาเองพร้อมกับแม่ชี จะมีการเชิญเจ้าคณะตำบลมาร่วมสอบปากคำเพื่อดำเนินการเอาผิดในวินัยสงฆ์ต่อไป

กำลังโหลดความคิดเห็น